จีเนทอัดงบการตลาด 100 ล้าน ลุยช่องทางเคเบิล-วิทยุชุมชน


ASTV ผู้จัดการรายวัน(6 สิงหาคม 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

จีเนท ปรับเผยการตลาดลุยสื่อสารผ่านทางวิทยุชุมชน เคเบิลท้องถิ่น หลังเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ โดยใช้งบการตลาด 100 ล้านบาท หวังสิ้นปีมีส่วนแบ่งตลาดเฮาส์แบรนด์ 25% ครองอันดับ 2 เช่นเดิม ส่วนปีหน้าตั้งเป้า 30% พร้อมเปิดศูนย์บริการ 24 ชั่วโมง เพิ่มทั่วประเทศ ขณะที่มองภาพรวมตลาดเฮาส์แบรนด์จะชะลอตัว หลังอินเตอร์แบรนด์ลงมาเล่นตลาดด้วย

นายวุฒิ จารุวัชรวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเนท อินเตอร์เนชันแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า การเข้ามารับตำแหน่งต่อจาก ทัศ เชาวนเสถียร ได้มีการเตรียมตัวมานานแล้ว แต่ที่ไม่ได้เปิดตัวเนื่องจากมีสถานการณ์ทางการเมืองในช่วงต้นปี จึงต้องเลื่อนมา แต่ไม่เกี่ยวประเด็นการเมือง เนื่องจาก ทัศ วางแผนขยายไปทำธุรกิจใหม่

“การเข้ามารับหน้าที่บริหารจีเนท ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็นทางการเมือง แต่เหมือนเป็นการเปลี่ยนถ่ายรุ่น เพื่อวิสัยทัศน์ที่เพิ่มขึ้น ผมศึกษางานบริหารมา 2 ปีแล้ว โดยก่อนหน้านี้ รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายมาก่อน จึงรับรู้ถึงข้อร้องเรียนด้านการบริการ จึงตั้งเป้าพัฒนาในส่วนของศูนย์บริการเป็นหลัก”

สำหรับ นายวุฒิ มีศักดิ์เป็นหลานชายของ นายทัศ เชาวนเสถียร ที่ปัจจุบันผันตัวไปเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัท จีเนท ร่วมกับ ดร.เสรี วงษ์มณฑา ที่มารับตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการตลาด จบการศึกษานิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง

นายวุฒิ กล่าวว่า การตลาดในปีนี้ของจีเนท วางงบไว้ที่ 100 ล้านบาท เน้นไปที่ Gold Service และ Gold Promotion เริ่มจากการขยายศูนย์บริการ 24 ชั่วโมง จากเดิม 5 สาขา เป็น 14 สาขาทั่วประเทศ แบ่งเป็นภาคละ 2 แห่ง ในกรุงเทพฯ คือ พระราม 2 และ รังสิต ภาคเหนือที่พิษณุโลก และ เชียงใหม่ ภาคอีสาน ที่ นครราชสีมา และ ขอนแก่น ภาคใต้ ที่ สงขลา และ สุราษฎร์ธานี ภาคตะวันออก ที่ ชลบุรี

“งบในการเปิดศูนย์บริการแต่ละแห่งอยู่ที่ราวๆ 5-10 ล้านบาท เชื่อว่า การเพิ่มบริการหลังการขาย จะสร้างแบรนด์รอยัลตีของจีเนทให้กับผู้บริโภคได้ เพราะอินเตอร์แบรนด์เองยังไม่สามารถให้บริการได้ทั่วถึงเท่ากับจีเนท ซึ่งจำหน่ายเครื่องราคาตั้งแต่ 800 บาท ไปจนถึง 4,999 บาท แต่มีศูนย์บริการซ่อม 24 ชั่วโมง”

ส่วนการทำโฆษณา Gold Promotion จะเน้นการสื่อถึงผู้บริโภคที่เป็นกลุ่มลูกค้าโดยตรง ทำให้ต้องปรับการสื่อสารไปใช้รถเมล์ รถสองแถว ไปจนถึงการสื่อสารผ่านวิทยุชุมชน เคเบิลทีวีท้องถิ่น ป้ายโฆษณา และการนำพรีเซนเตอร์ลงไปในพื้นที่ ร่วมกับจีเนทจีแก๊ง เพื่อทำกิจกรรม และสื่อสารการบริการให้กับลูกค้า

นายวุฒิ มองภาพรวมตลาดมือถือเฮาส์แบรนด์ ว่า อาจไม่เติบโตเหมือนช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่จะเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ ในกลุ่มตลาดระดับล่าง ที่เน้นฟังก์ชันการใช้งานมากกว่าแฟชัน ในราคาที่รับได้ โดยมองว่า ในปีนี้ตลาดเฮาส์แบรนด์จะเติบโตประมาณ 40% ทำให้มีสัดส่วนระหว่างเฮาส์แบรนด์และอินเตอร์แบรนด์อยู่ที่ 30% ต่อ 70%

“การที่อินเตอร์แบรนด์ลงมาทำตลาดล่าง ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เฮาส์แบรนด์ทำตลาดยากขึ้น โดยส่วนตัวมองว่า อินเตอร์แบรนด์ไม่น่าลงมาทำตลาดดังกล่าว เนื่องจากเป็นการเสียภาพลักษณ์ในตัวสินค้า แต่ก็เชื่อว่า การสร้างบริการหลังการขายจะเป็นตัวช่วยผลักดันยอดให้กับทางจีเนท”

ปัจจุบันตลาดเฮาส์แบรนด์มีอยู่ 3 รายใหญ่ ที่ครองตลาดอยู่ คือ สามารถ ไอ-โมบาย มีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ประมาณ 30% ถัดมาคือ จีเนท ที่ครองส่วนแบ่งอยู่ประมาณ 20% สุดท้ายคือแวลคอม ที่น่าจะมีสัดส่วนอยู่ราว 10% โดยในปีนี้ผู้บริหารจีเนทตั้งความหวังไว้ว่าจะขยับส่วนแบ่งจีเนท ให้ขึ้นมาอยู่ที่ 25% และ 30% ในปีหน้า

พร้อมกันนี้ จีเนท ได้เปิดตัวโทรศัพท์มือถือหน้าจอสัมผัส G1 ที่รองรับการใช้งานระบบนำทาง GPS รองรับการนำทางในทุกการเดินทาง พร้อมฟังก์ชัน ดูทีวี 2 ซิม ฟังวิทยุ เล่นอินเทอร์เน็ต เช็กอีเมล อัปเดตเฟซบุ๊ก กล้องถ่ายรูปด้านหน้าและด้านหลัง บันทึกเสียง บันทึกวิดีโอ ราคาเปิดตัวอยู่ที่ 3,990 บาท


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.