เวทีเอเปกอินเวสท์เม้นท์ ไทยหวังICCดูดทุนตปท.


ผู้จัดการรายวัน(14 ตุลาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

เอเปก อินเวสท์เม้นท์ มาร์ท 2003 (APEC Investment Mart) พร้อมแล้วที่จะเปิดประตูการลงทุน 20 ประเทศ ให้นักลงทุนไทยถึงบ้าน งานนี้พลาดถือว่าเสียโอกาสอย่างงาม เพราะ 20 ปีถึงจะมีครั้งเดียว ผนึกกำลังทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมไว้ที่ ICC หรือศูนย์ที่ปรึกษาการลงทุนในไทยหวังดูดเงินตปท. ขณะที่ก.อุตฯนำร่องดึงนางแบบดัง 20 ปท.ร่วมมินิแฟชั่น ก่อนเปิด ทางการกรุงเทพเมืองแฟชั่น 8 ก.พ.47 ทุ่ม 75 ล้านบาทเนรมิตถนนสุขุมวิทเป็นถนนแฟชั่นดึง Top Model 400 คนทั่วโลกโชว์

APEC Investment Mart จะเปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 16 ตุลาคมนี้จนถึง 21 ตุลาคม ที่อิมแพค เมืองทองธานี งานนี้มีสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอเป็นโต้โผใหญ่จัดงาน ซึ่งไฮไลต์ของงานนี้หนีไม่พ้นการโปรโมตการดึงดูดการลงทุนของประเทศสมาชิก ซึ่งประกอบด้วย สหรัฐ อเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง มาเลเซีย ชิลี เปรู เวียดนาม ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย เม็กซิโก สิงคโปร์ บรูไน ปาปัวนิวกินี เกาหลี ไต้หวัน นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ รัสเซีย และไทย ซึ่งแต่ละประเทศจะมีพาวิลเลี่ยนโชว์ศักยภาพการค้าและการลงทุนของตนเอง

นายสมพงษ์ วนาภา เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยว่า เวทีดังกล่าวเสมือนกับการที่ทุกประเทศได้มาเปิดประตูการลงทุนถึงที่ไทยแล้วจึงเป็นโอกาสอันดีที่นักลงทุนไทยจะใช้โอกาสนี้ให้เกิดประโยชน์ หากสนใจการลงทุนก็สามารถติดต่อพาวิลเลี่ยนของแต่ละประเทศที่ได้เตรียมข้อมูลการลงทุนไว้ทั้งหมดได้เลย ซึ่งไม่บ่อยครั้งนักที่โอกาสดังกล่าวจะมาถึงที่โดยที่นักลงทุนไม่ต้องเสียเงินเดินทางไปติดต่อกับเขาที่ต่างประเทศ

"ผมว่าเป็นโอกาสที่ดีมาก ที่ข้อมูลทุกด้านของแต่ละประเทศมารวมอยู่ที่เดียวกันแล้ว นักลงทุนไทยโดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและย่อม(SMEs) ควรมาใช้โอกาสนี้อย่างมากเพื่อดูความก้าวหน้าทั้งเทคโนโลยี แนวโน้มการลงทุน การท่องเที่ยว ฯลฯ"

นอกจากนี้งานดังกล่าวบีโอไอคาดหวังว่าจะมีส่วนกระตุ้นการลงทุนภายในประเทศให้มากขึ้น แม้ว่าทุกประเทศจะมีการดูดการลงทุนโดยจัดพาวิลเลี่ยนทั้ง 20 ประเทศเช่นเดียวกับไทยก็ตามแต่มั่นใจว่าไทยยังเป็นประเทศหนึ่งที่ยังคงน่าสนใจการลงทุน โดยพิจารณาได้จากเม็ดเงินลงทุนที่ยังคงไหลอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะก่อให้เกิดการจับคู่การลงทุนและการซื้อขายชิ้นส่วนต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาทและยังจะมีการต่อยอดการลงทุนไปอีกมากกว่า 4,000 ล้านบาท

นางจิตรา กุลวานิช ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ศูนย์ประสานงาน APEC กล่าวว่า ไทยได้จัดศูนย์ ที่ปรึกษาการลงทุน หรือ ICC (International Consulting Center) ไว้ในไทยแลนด์พาวิลเลี่ยน ซึ่งมีพื้นที่ทั้งหมด 2,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นพาวิลเลี่ยนใหญ่สุดในฐานะเจ้าภาพ และ ICC จะมีพื้นที่ 400 ตารางเมตร โดยดึงเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนมาไว้ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงิน บีโอไอ ตรวจคนเข้าเมือง ฯลฯ มารวมไว้ในที่เดียว

ซึ่งถือเป็นแหล่งที่นักลงทุนทั้งต่างประเทศและไทยสามารถเข้ามาสอบถามข้อมูลการลงทุนได้ทั้งหมดโดยศูนย์ดังกล่าวจะทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงการลงทุนให้แบบครบวงจร

ไทยชู 5 อุตสาหกรรมหลัก

สำหรับอุตสาหกรรมไทยที่จะโชว์ในไทยแลนด์ พาวิลเลี่ยนนั้น จะเน้น 5 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ตามนโยบายและยุทธศาสตร์ของไทย ได้แก่ อุตสาหกรรมแฟชั่น อุตสาหกรรมเกษตร อุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมบันเทิง

โชว์แฟชั่นชิมลางช่วงเอเปก

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมได้เตรียมพร้อมในการที่จะจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์โครงการกรุงเทพ เมืองแฟชั่น ภายใต้แผนงานกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งได้รับงบประมาณในการดำเนินงานตามแผน 1,800 ล้านบาท โดยจะนำร่องจัดกิจกรรมในช่วงการประชุมเอเปก

สำหรับกิจกรรมแรกคือจัดมินิแฟชั่นโชว์ที่อาคารระหว่างประเทศผู้โดยสารขาออก 1 ท่าอากาศยานกรุงเทพ(วันที่ 15 ต.ค.และวันที่ 16-24 ตุลาคม) โดยมีนางแบบชื่อดังไทยและต่างประเทศที่เป็นสมาชิกเอเปก อาทิ ลูกเกด เมทินี กิ่งโพยม อาการิ อากิยาม่า จากญี่ปุ่น อนิส ชาน จากฮ่องกง ชาเมน จากสิงคโปร์ เป็นต้น กิจกรรมที่ 2. เป็นการจัดงานแสดงแฟชั่นโชว์ในงานเลี้ยงรับรองผู้นำ CEO ของสมาชิกผู้นำ APEC ในวันที่ 18 ตุลาคม 2546 บริเวณริมสระน้ำ โรงแรมแชงกรี-ล่าและกิจกรรมที่ 3. การแสดงแฟชั่นโชว์ Bangkok Fashion City:New Age of Ethnic ในงานเลี้ยงรับรองคณะคู่สมรสผู้นำประเทศ APEC ที่บ้านพิษณุโลกวันที่ 20 ตุลาคม ณ บ้านพิษณุโลก

เนรมิตถ.สุขุมวิทบูมแฟชั่นต่อ

นางสาวศุภลักษณ์ อัมพุช รองประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัทดิ เอ็มโพเรี่ยม ชอปปิ้ง คอมเพล็กซ์ จำกัด และรองประธานกรรมการบริษัทสยามพารากอน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้แทนเอกชนที่ได้รับมอบหมายอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลให้ดำเนินงานสนับสนุนนโยบายในการผลักดันกรุงเทพฯให้เป็นเมืองแฟชั่น กล่าวว่า วันที่ 8 ก.พ.2547 จะเปิดตัวทางการด้วยการจัดงาน BANGKOK FASHION CITY EXTRAVAGANZA ซึ่งจะเนรมิตให้ถนนสุขุมวิทเป็นถนนแห่ง แฟชั่นตอกย้ำความเป็น Shopping Street ของเมืองไทย

"งบประมาณในการดำเนินงานทั้งหมด 75 ล้าน บาทโดยเป็นเงินสนับสนุนจากภาคเอกชน 30 ล้านบาทและที่เหลือเป็นงบประมาณจากภาครัฐที่ใช้ในการเปิดตัวโครงการ งานนี้จะมีสื่อทั่วโลกทั้ง CNN เข้ามา รวมทั้งสื่อของไทย และกันตนาจะถ่ายทอดสดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน" น.ส.ศุภลักษณ์กล่าว

กลับสู่หน้าหลัก


Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.