“คิริน”รุกเอเชียใต้หลังซื้อเนเชอรัลฯเล็งโล๊ะนะมาชะ4รสชาติทิ้ง


ASTV ผู้จัดการรายวัน(4 สิงหาคม 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

คิริน ลั่นกลองรบสร้างอาณาจักรเครื่องดื่มบุกเซาท์อีสเอเชีย หลังบริษัทแม่ซื้อหุ้นเอฟแอนด์เอ็น จ่อผนึกกำลังการตลาด การผลิต วัตถุดิบ ลุยสิงคโปร์ มาเลเซีย ปีหน้าแตกไลน์เครื่องดื่มแคธิกอรี่ใหม่ ปรับแผนโหมชาดำทีเบรค หวังดันยอดโต 50% โล๊ะนะมาชะ 4 รสชาติทิ้ง

นายฮิเดยูกิ อิวาโอะ ประธานบริษัท สยาม คิริน เบฟเวอร์เรจ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายชาดำพร้อมดื่มทีเบรค เปิดเผยว่า จากการที่บริษัทคิริน โฮลดิ้งส์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ผู้ดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มในประเทศญี่ปุ่น ได้เข้าซื้อหุ้นของบริษัทเอฟแอนด์เอ็น แดรี่ส์ จำนวน 14.7% จากเทมาเส็ก ที่ประกาศขายหุ้นทั้งหมด เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ที่ผ่านมานี้ซึ่งเป้าหมายการซื้อหุ้นในครั้งนี้ของบริษัทคิริน เพื่อต้องการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากปัจจุบันคิรินดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มในประเทศไทยกับเวียดนาม ขณะที่บริษัทเอฟแอนด์เอ็นมีการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย สิงคโปร์และมาเลเซีย

“เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา บริษัทคิรินได้ซื้อหุ้น 100% ของบริษัทเนเชอรัลฟู้ดส์ ในประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มนมพร้อมดื่ม ชีส ทั้งนี้เพื่อสร้างการเติบโตธุรกิจนอกเหนือจากประเทศญี่ปุ่น” นายฮิเดยูกิ กล่าว

ยุทธศาสตร์การเข้าซื้อหุ้นของคิริน มีโอกาสที่จะผนึกกำลังกับบริษัทเอฟแอนด์เอ็นในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การทำตลาด หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทเอฟแอนด์เอ็นในประเทศสิงคโปร์ นำเข้าเบียร์คิรินไปจำหน่ายภายในประเทศ ซึ่งสิงคโปร์และมาเลเซีย ทั้งสองประเทศเป็นตลาดที่คิรินยังไม่เข้าไปทำตลาด นอกจากนี้ยังมีโอกาสร่วมมือการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และวัตถุดิบ

ซึ่งเอฟแอนด์เอ็น มีความเชี่ยวชาญกลุ่มผลิตภัณฑ์นม ขณะที่คิรินมีความเชี่ยวชาญเครื่องดื่มที่หลากหลาย โดยปัจจุบันเป็นผู้นำตลาดชาพร้อมดื่ม เครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ น้ำผลไม้ และกาแฟ ในประเทศญี่ปุ่น

อีกทั้งคิรินยังมีโอกาสใช้ฐานการผลิตจากโรงงานเอฟแอนด์เอ็น ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการทุ่มงบ 2,000 ล้านบาท สร้างโรงงานแห่งใหม่ ที่ สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จากปัจจุบันชาเครื่องดื่มของคิรินได้จ้างให้บริษัทโตโย แพ็ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เป็นผู้ผลิต โดยนโยบายการดำเนินตลาดของคิริน วางแผนขยายสินค้าหลากหลายแคธิกอรี่
ซึ่งในปีหน้านี้บริษัทได้เปิดตัวสินค้ากลุ่มใหม่ จากปัจจุบันบริษัทมีชาดำพร้อมดื่มภายใต้”ทีเบรค” เป็นสินค้าเรือธง หลังจากเปิดตัวกว่า 1 ปี มีส่วนแบ่ง 8% และชาเขียวนะมาชะ ซึ่งเป็นสินค้าตัวแรกของบริษัท มีส่วนแบ่ง 1% จากตลาดชาพร้อมดื่มมูลค่าดว่า 6,000 ล้านบาท

“หลังจากเปิดตัวชาเขียวพร้อมดื่มนะมาชะถึง 6 รสชาติ ปรากฎว่า สินค้าได้รับการตอบรับไม่มี จึงตัดสินใจปรับรสชาติที่ไม่สร้างรายได้ออกจากตลาด เหลือเพียง 2 รสชาติเท่านั้น และไม่ได้ดำเนินการตลาดแต่อย่างใด

ล่าสุดบริษัทได้ทุ่มงบ 80 ล้านบาท ดำเนินการตลาดเชิงรุกชาดำพร้อมดื่มทีเบรค โดยแบ่งเป็น 30 ล้านบาท เปิดตัวแคมเปญโปรโมชันครั้งแรกและครั้งใหญ่ของบริษัท “ Yes! Tea Break! แจกBB ทุกวัน และนิสสัน มาร์ช ทุกเดือน” โดยขูดรหัสแถบสีเงิน ที่ด้านหลังคล้องคอขวด แล้วพิมพ์ TB ตามด้วยรหัส ส่งเอสเอ็มเอส มา ที่ 4890011 ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม -31 ตุลาคม นี้

พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวรสชาติใหม่”ทีเบรค ไวท์เกรปมิ้นท์”และภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้าง ทั้งนี้คาดว่าแคมเปญดังกล่าวจะกระตุ้นยอดขายเติบโต 50%

สภาพตลาดชาพร้อมดื่มมูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท มีอัตราการเติบโต 20-30% มาอย่างต่อเนื่องเมื่อปี 2551-2552 ขณะที่ตลาดชาดำมูลค่า 1,000 ล้านบาท เติบโต 40% ส่วนตลาดชาพร้อมดื่มมูลค่า 4,000 ล้านบาท พบว่าอัตราการดื่มของผู้บริโภคเริ่มคงที่ และมีโออิชิเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 60% อย่างไรก็ตามเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ นับว่าเป็นตลาดที่มีการเติบโตที่ดีและมีศักยภาพ

สำหรับผลประกอบการปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโต 20% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ส่วนปีหน้านี้การขยายเครื่องดื่มกลุ่มใหม่ผลักดันให้บริษัทเติบโต 2-3 เท่าตัว และในระยะ 3-5 ปี วางเป้าหมายเติบโตมากกว่า 20%


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.