|
เบอร์ลินร่วมทุนพาราไดม์เสริมแกร่ง บุกยาสามัญไทย-เทศ ชิงตลาดโลก
ASTVผู้จัดการรายวัน(16 กรกฎาคม 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
เบอร์ลิน ร่วมทุนพาราไดม์ เสริมความแข็งแกร่ง ชูวิชันบุกยาสามัญ ทั้งไทย-เทศ รับตลาดอีก 5 ปี มูลค่า 5 แสนพันล้านเหรียญทั่วโลก จ่อคิวซื้อไลเซนส์-พัฒนาสินค้าเอง สู้บริษัทยายักษ์ใหญ่ท็อปเทนโลก เบนเข็มลุยยาสามัญ โอดการเมืองไทย-เศรษฐกิจ ฉุดอุตสาหกรรมยาไทยกว่า 1 แสนล้านบาท โตตัวเลขหลักเดียวรอบ 4-5 ปี สิ้นปีหวังรายได้โต 10% กวาด 2,200 ล้านบาท
นายอมาล นาจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบอร์ลิน ฟาร์มาซูติคอล อินดัสตรี้ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายยาสามัญ เปิดเผยว่า บริษัท เบอร์ลินฯ ได้ร่วมทุนกับบริษัท พาราไดม์ ฟาร์มา ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นของผมเองและหุ้นส่วน โดยบริษัทดังกล่าวตั้งอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งการร่วมทุนและดำรงตำแหน่งในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหารในบริษัท เบอร์ลินฯ เพื่อจับมือร่วมกันดำเนินการตลาดเชิงรุกขยายยาสามัญในตลาดเอเชีย ยุโรป อเมริกา เนื่องจากแนวโน้มตลาดยาสามัญ หรือยาหมดสิทธิบัตรเป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโต โดยคาดว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้านี้ ตลาดเติบโตจาก 2 แสนพันล้านเหรียญทั่วโลก เป็น 5 แสนพันล้านเหรียญ
ทั้งนี้ พบว่า ตลาดใหม่ของยาสามัญ เอเชีย รัสเซีย อเมริกาใต้ ยุโรปตะวันออก และแอฟริกา มีศักยภาพเติบโตได้อีกมาก ในขณะที่อเมริกาและยุโรปเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดอุตสาหกรรมยาสามัญเอเชีย 5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มเป็น 1 .2 แสนเหรียญ ในอีก 10 ปีข้างหน้านี้ ปัจจัยที่ผลักดันให้ตลาดยาสามัญขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเป็นยาที่ผลิตขึ้นจากยาที่จดสิทธิบัตรหมดอายุ หรือยาเลียนแบบของคู่แข่ง โดยมีราคาถูกกว่า 10 เท่าตัว เมื่อเทียบกับยาจดสิทธิบัตรที่ใช้งบวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ ทำให้ยามีราคาค่อนข้างสูง ขณะที่สิทธิบัตรยาจำนวนมาก กำลังหมดอายุลงภายในปี 2556
ล่าสุด บริษัทได้ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและกำลังผลิตโรงงานที่ลาดกระบัง รองรับกับแผนการขยายตลาดต่างประเทศในอีก 2-3 ปีข้างหน้านี้ ในประเทศจีน เกาหลี ไต้หวัน อินโดนีเซีย เวียดนาม รวมทั้งรองรับตลาดภายในไทย พร้อมกันนี้ บริษัทเตรียมผลิตยาสามัญใหม่ๆ ตลอดจนการซื้อไลเซ่นส์ยาสามัญจากต่างประเทศ ทำตลาด
โดยมุ่งเน้นยาที่ใช้ง่ายสะดวกและมีราคาที่คุ้มค่า อาทิ ยาสำหรับโรคหัวใจ ยาระบบประสาท เป็นต้น จากปัจจุบันบริษัทผลิตยาสามัญ 40-50 ชนิด อาทิ ลดความดัน ระบบทางเดินอาหาร และลดไขมัน ฯลฯ ทั้งนี้ เพื่อรองรับกับการแข่งขันจากบริษัทผู้ผลิตยาสามัญจากต่างประเทศ อาทิ รัสเซีย อเมริกา ที่เข้ามาทำตลาดเอเชีย ส่วนบริษัทที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก อาทิ ไฟเซอร์ แอ๊บบอต ฯลฯ ก็หันมารุกตลาดยาสามัญมากขึ้น
นายเติมชัย ไชยนุวัติ ประธานบริษัท เบอร์ลิน ฟาร์มาซูติคอล อินดัสตรี้ จำกัด กล่าวว่า สภาพอุตสาหกรรมยาในประเทศไทย มูลค่ากว่า 1 แสนล้านบาท แบ่งเป็นยาจากบริษัทต่างประเทศ 8 หมื่นล้านบาท และยาของผู้ประกอบการไทย 2 หมื่นล้านบาท ปีนี้คาดว่า อุตสาหกรรมยา มีการเติบโตเป็นตัวเลขหลักเดียวครั้งแรกในรอบ 4-5 ปี จากปกติเติบโต 10% เนื่องจากได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและการเมือง ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคมีความระมัดระวังการซื้อยามาเพื่อรักษาอาการเจ็บป่วย โดยพบว่าในช่วงครึ่งปีแรก ตลาดเติบโต 7% ทั้งนี้ การเติบโตส่วนใหญ่มาจากช่องทางโรงพยาบาลเป็นหลัก
สำหรับผลประกอบการปีนี้บริษัทตั้งเป้าเติบโต 10% หรือมีรายได้ 2,200 ล้านบาท โดยรายได้ภายในประเทศ 94-95% และต่างประเทศ 5-6% จากการส่งออกในประเทศฟิลิปปินส์ ลาว สิงคโปร์ พม่า อย่างไรก็ตาม จากการเข้ามาบริหารงานบริษัท เบอร์ลินฯ และร่วมทุนระหว่างบริษัท เบอร์ลินฯ กับ พาราไดม์ ผลักดันให้บริษัท เบอร์ลินฯ เติบโต 2 เท่าตัว ภายใน 3-5 ปีข้างหน้านี้ หรือขึ้นเป็นผู้นำตลาดยาสามัญจากปัจจุบันมีส่วนแบ่ง 10% เป็นอันดับ 2 รองจากบริษัท สยามฟาร์มาซูติคอล ซึ่งเป็นผู้นำตลาดครองส่วนแบ่ง 15% จากมูลค่าตลาดยาที่ผลิตในประเทศ 20,000 ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|