แมคโดนัลด์'ส ธุรกิจอาหารที่กำลังจะเป็นตำนานในเมืองไทย


นิตยสารผู้จัดการ( เมษายน 2528)



กลับสู่หน้าหลัก

เมื่อปี 2511 เดช บุลสุข เคยเป็นนักเรียนไทยที่ได้ทุน AMERICAN FIELD SERVICE ได้เรียนหนังสือที่สหรัฐอเมริกา

เดชมีความประทับใจหลายสิ่งหลายอย่างของประเทศนี้ สิ่งหนึ่งที่ประทับใจไม่รู้ลืมซึ่งก็คงคล้ายๆ กับนักเรียนเก่าสหรัฐอเมริกาทั้งหลายก็คือความประทับใจที่มีต่อรสชาติอาหารและบริการของร้านแมคโดนัลด์ ' ส

เพราะฉะนั้นเมื่อมีโอกาสเดินทางไปสหรัฐฯ อีกครั้งในปี 2524 ในฐานะนักธุรกิจหนุ่มไฟกำลังแรงมาก เดชและเพื่อนนักธุรกิจด้วยกันจำนวนหนึ่งจึงไม่รั้งรอที่จะส่งจดหมายติดต่อไปยังสำนักงานใหญ่ของแมคโดนัลด์'ส ที่อิลลินอยส์

จดหมายฉบับนี้เป็นจดหมายเชิญชวนให้แมคโดนัลด์'ส เข้ามาเปิดสาขาขึ้นในประเทศไทยเป็นสาขาแรก

จนหลังจากนั้นอีกเกือบ 2 ปี ก็ได้จดหมายตอบรับกลับมาและที่ยังความตื่นเต้นยินดีให้กับเดชและเพื่อนๆ อย่างมากก็คือการที่แมคโดนัลด์'ส ตัดสินใจคัดเลือกกลุ่มพวกเขาจากกลุ่มนักธุรกิจอีกจำนวนมากให้เป็นตัวแทนในประเทศไทย

และนั่นก็เป็นที่มาอย่างรวบรัดที่สุดของบริษัท แมคไทย จำกัด เจ้าของและผู้ดำเนินงานร้านแมคโดนัลด์'ส สาขาประเทศไทยแห่งแรกที่ศูนย์การค้าอมรินทร์พลาซ่า ซึ่งเปิดบริการไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

แมคไทย เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างกลุ่มของเดช บุญสุข กับบริษัทแมคโดนัลด์'ส คอร์ปอเรชั่น โดยกลุ่มของเดชถือหุ้น 51% และอีก 49% ที่เหลือถือหุ้นโดยแมคโดนัลด์'ส อคร์ปอเรชั่น

กรรมการของแมคไทยที่เป็นคนไทยนอกจากเดช บุลสุขแล้ว ก็มี ธีระ เมธเศรษฐ อีกคนหนึ่ง ส่วนกรรมการจากแมคโดนัลด์'ส ที่ถูกส่งตรงมาจากสหรัฐฯ คือ MR.LOU BERMAN และ

MR.EDWARD H.SCHMITT รวมแล้วฝ่ายละ 2 คนเท่ากัน

ร้านแมคโดนัลด์'ส สาขาแรกที่อมรินทร์พลาซ่ามีเนื้อที่ 500 ตารางเมตร สามารถจุลูกค้าได้ไม่น้อยกว่า 200 คน แมคไทยบอกว่าได้ลงทุนครั้งแรกเป็นค่าก่อสร้าง ค่าที่ดิน ค่าตกแต่งภายในไปจนถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ไปแล้วกว่า 50 ล้านบาท ซึ่งถ้าจะดูกันถึงความเหมาะสมของทำเลที่ตั้งแล้วก็ต้องยอมรับว่าได้ทำเลที่เด่นที่สุดของอมรินทร์พลาซ่า คืออยู่ตรงกึ่งกลางด้านหน้า และในทางกลับกันชื่อเสียงและการลงทุนตกแต่งที่สวยงามของแมคโดนัลด์'ส ก็นับเป็นจุดเด่นของศูนย์การค้าแห่งนี้ด้วยเช่นกัน

หรือพูดได้เต็มปากว่าช่วยเสริมซึ่งกันและกันเป็นอย่างดี

แมคโดนัลด์'ส เป็นกิจการขายอาหารประเภท FAST FOOD ซึ่งคนไทยเริ่มรู้จักและคุ้นเคยมาหลายปีแล้ว เนื่องจากมีเข้ามาเปิดสาขาในประเทศไทยช่วงใกล้ๆ นี้หลายยี่ห้อด้วยกัน

ในกิจการ FAST FOOD ด้วยกันนี่เองที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่า แมคโดนัลด์'ส เป็นเจ้าเก่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

ขณะนี้แมคโดนัลด์'ส มีสาขาทั้งหมดมากกว่า 8,000 สาขา กระจายอยู่ทั่วทั้ง 50 มลรัฐของประเทศสหรัฐอเมริกา และนานาประเทศอีกกว่า 30 ประเทศ

จากประวัติการก่อตั้งกิจการซึ่งสามารถนับย้อนหลังกลับไปได้ถึง 29 ปีเต็มๆ นั้น แมคโดนัลด์'ส ถูกจัดให้เป็นเจ้าของร้านแฮมเบอร์เกอร์และอาหาร รวมทั้งเครื่องดื่มอีกหลายชนิดที่ประสบความสำเร็จอย่างมากๆ ทั้งยังได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกในเรื่องเทคโนโลยีด้านการบริการอาหาร กลยุทธ์และเทคนิคด้านการตลาดและระบบการบริหารงาน ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้กลายเป็นมาตรฐานในธุรกิจอุตสาหกรรมประเภทเดียวกันไปแล้ว

และถ้าจะถามว่าอะไรคือหัวใจแแห่งความสำเร็จจนถูกยกย่องเป็นมาตรฐาน คำตอบก็เห็นจะเป็นตัวอักษรย่อ 4 ตัว คือ Q.S.C. และ V. ที่ผู้บริหารทุกระดับไปจนถึงพนักงานทุกสีผิวในทุกๆ สาขาจะต้องคำนึงจนขึ้นใจนั่นเอง

Q. นั้นก็คือ QUALITY อันหมายถึงคุณภาพของอาหารที่จะต้องดีอย่างสม่ำเสมอ

S. คือ SEVICE การบริการที่รวดเร็วและเป็นมิตร

C. คือ CLEANLINESS หรือความสะอาดที่ลูกค้าต้องกล่าวขวัญตลอดไป
D.
และ V. ก็คือ VALUE หมายถึงคุณค่าที่แมคโดนัลด์'ส มอบให้นั้นจะต้องคุ้มค่ากับเงินทุกบาททุกสตางค์ที่ลูกค้าซื้อบริการ

Q.S.C. และ V. ถือเป็นหัวใจของแมคโดนัลด์'ส ทุกแห่งทุกสาขา หรือพูดได้อีกอย่างหนึ่งว่าคือสัญญาที่แมคโดนัลด์'ส ให้กับผู้บริโภคทั่วโลกอย่างเสมอภาค

เมื่อแมคโดนัลด์'ส จะต้องคำนึงถึงคุณภาพของอาหารทุกชนิดที่ร้านมีขายนั้น จึงเป็นธรรมดาอยู่เองที่แมคโดนัลด์'ส จะต้องใช้ความพิถีพิถันเกี่ยวกับวัตถุดิบที่ใช้ในครัวอย่างสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวัว ปลา ผัก หรือขนมปัง โดยเฉพาะมันฝรั่งทอดอันลือชื่อซึ่งถูกทอดด้วยเครื่องมือที่ตั้งอุณหภูมิไว้คงที่ มีการจับเวลาว่าจะต้องทอดกี่นาทีและพักทิ้งไว้อีกกี่นาทีก่อนเสิร์ฟ ก็ถูกเจาะจงไปด้วยว่า มันฝรั่งที่จะใช้ทอดนั้นจะต้องเป็นพันธุ์ RUSSETT จะเป็นมันพันธุ์อื่นไม่ได้ เพราะมิฉะนั้นรสชาติของมันฝรั่งทอดจะเปลี่ยนไปไม่ได้มาตรฐานที่แมคโดนัลด์'ส ต้องการ

ส่วนเนื้อวัวซึ่งจะถูกนำมาปรุงแต่งด้วยสูตรลับของแมคโดนัลด์'ส เป็นแฮมเบอร์เกอร์ก็เช่นเดียวกัน คือจะมีวัวพันธุ์เฉพาะที่ถูกเลือกไว้

ความพยายามที่จะรักษาคุณภาพของอาหารให้ได้มาตรฐานสม่ำเสมอนี้ แม้จะถูกยอมรับว่าเป็นจุดเด่นอย่างหนึ่งของแมคโดนัลด์'ส แต่ก็จะกลายเป็นข้ออ่อนได้เหมือนกันเมื่อแมคโดนัลด์'ส ไปตั้งสาขาในต่างประเทศ เพราะการต้องนำเข้าวัตถุดิบที่ไม่มีการผลิตหรือถ้ามีก็อาจจะไม่ได้คุณภาพตามเกณฑ์ในประเทศที่แมคโดนัลด์'ส ไปเปิดสาขานั้น ก็จะถูกต่อต้านว่าเอาเปรียบประเทศนั้นได้ง่ายๆ

ที่จริงในเมืองไทยก็มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงประเด็นนี้อยู่เหมือนกัน ซึ่งไม่เฉพาะแต่แมคโดนัลด์'ส เท่านั้น กิจการ FAST FOOD ของต่างประเทศที่เข้ามาเปิดสาขาล้วนโดนมาแล้วทั้งสิ้น

เพราะฉะนั้นผู้มีประสบการณ์ยาวนานในการเปิดสาขาต่างประเทศอย่างแมคโดนัลด์'ส จึงไม่ลืมอย่างเด็ดขาดที่จะประกาศพร้อมๆ กับการเปิดตัวว่า แมคโดนัลด์'ส มีนโยบายการใช้วัตถุดิบต่างๆ ภายในประเทศเพื่อส่งเสริมธุรกิจภายในประเทศให้เติบโตไปพร้อมๆ กับแมคโดนัลด์'ส ด้วย อย่างเช่น มันพันธุ์ RUSSETT ก็ได้ทดลองปลูกไปแล้วทางภาคเหนือของไทย ส่วนเนื้อวัวก็ได้เริ่มสั่งวัวพันธุ์ที่ต้องการเข้ามาทดลองเลี้ยงในประเทศไทยแล้วเช่นกัน

แต่ก็คงต้องใช้เวลาทดลองและขยายพันธุ์อีกหลายปี ในเฉพาะหน้านี้วัตถุดิบหลักๆ จึงต้องอาศัยการนำเข้ามาพลางๆ ก่อน ซึ่งสำหรับเนื้อแฮมเบอร์เกอร์จะถูกนำเข้ามาจากออสเตรเลียในสภาพที่สำเร็จรูปภายใต้การแช่แข็งในอุณหภูมิ 0 ฟาเรนไฮต์ (ไม่ใช่เซลเซียส)เรียกกันว่าแข็งขนาดขว้างหัวแตกกันละ

เนื้อแฮมเบอร์เกอร์ที่ว่านี้ปรุงด้วยสูตรพิเศษจากโรงงานของแมคโดนัลด์'ส โดยตรงซึ่งในภูมิภาคเอเชียโรงงานตั้งอยู่ที่ออสเตรเลีย เป็นเนื้อที่มีรสชาติติดอกติดใจนักกินมาก จนเกิดคำล้อเลียนขึ้นว่า คนชั้นกลางอเมริกันนั้นไม่ตั้งความหวังอะไรมากมาย ขอบิ๊กแมคสักก้อนกับโค้กอีกแก้วก็พอใจแล้วในชีวิต

ส่วนคนไทยจะติดอกติดใจเหมือนกับคนอเมริกันและคนอีกหลายๆ ประเทศที่ผ่านร้านแมคโดนัลด์'ส มาแล้วหรือไม่นั้นก็คงจะได้ทราบผลกันคราวนี้แหละ

เรื่องความสะอาดและสุขอนามัยของร้านแมคโดนัลด์'ส ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่เด่นอย่างน่าสนใจ และถ้ามองกันให้ดีๆ แล้วจะเป็นจุดขายที่ลูกค้าทุกวัยจะต้องประทับใจอย่างยิ่ง โดยเฉพาะน่าจะประทับใจมากกว่าร้าน FAST FOOD ยี่ห้ออื่นๆ ที่เปิดไปแล้วในบ้านเรา

ร้านแมคโดนัลด์'ส จัดมุมที่นั่งไว้เป็นมุมต่างๆ ตามความต้องการของลูกค้า คือมีมุมสำหรับเด็กมุมที่ห้ามสูบบุรี่และมุมที่สูบบุรี่ ได้ซึ่งทำให้แมคโดนัลด์' ส เป็นร้าน FAST FOOD สำหรับทุกคนในครอบครัวตั้งแต่เด็กเล็ก วัยรุ่น ไปจนถึงผู้ใหญ่จริงๆ ไม่ใช่ร้านสำหรับวัยรุ่นจะเข้าไปนั่งพ่นควันบุรี่ฟุ้งกระจายเต็มห้องเพียงกลุ่มเดียวอย่างที่มากจะพบเห็นกันทั่วไปและผู้ใหญ่ตลอดจนคนไม่สูบบุรี่ เข็ดขยาดมานักต่อนักแล้วนั้น

เดช บุลสุข บอกกับ "ผู้จัดการ" ว่า เพื่อขจัดควันและกลิ่นทุกชนิดรวมทั้งควันและกลิ่นจากครัวซึ่งเป็นระบบครัวเปิดจะต้องมีควันและกลิ่นออกมารบกวนลูกค้าอย่างแน่นอนนั้น แมคไทยได้ลงทุนติดตั้งเครื่องปรับอากาศชนิดพิเศษ ที่ดูดเอาควันและกลิ่นออกไปเป็นเงินหลายล้านบาท ซึ่งถ้าว่าไปแล้วก็ไม่แพงเลย เพราะแมคโดนัลด์'ส จะได้ลูกค้าอีกหลายกลุ่มตอบแทนกลับมา และส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อเสียด้วย

ระบบการสั่งอาหารและส่งผ่านออเดอร์ของลูกค้าแต่ละรายไปในห้องครัวซึ่งเป็นบริการที่นับว่าสะดวกและรวดเร็วนั้น ก็เป็นจุดเด่นที่สำคัญอีกประการหนึ่ง แมคโดนัลด์'ส ได้ใช้วิทยาการด้านคอมพิวเตอร์ เข้าช่วยทั้งระบบ คือหน้าที่เคาน์เตอร์นอกจากจะมีพนักงานหลายสิบคนคอยรับคำสั่งแล้วก็ยังมีเครื่อง PANASONIC2P.O.S. SYSTEM ของเนชั่นแนลอยู่นับสิบเครื่องด้วยเช่นกัน

เครื่องมือดังกล่าวจะรับคำสั่งจากลูกค้า ด้วยการกดปุ่มไปตามรายการอาหารและเครื่องดื่มบนแป้น จากนั้นคำสั่งจะถูกส่งผ่านไปที่ครัวโดยอัตโนมัติ และเมื่ออาหารจะถูกส่งลงท่อมาที่เคาน์เตอร์ พนักงานก็จะกดปุ่มให้เครื่องคำนวณราคารวมที่ลูกค้าจะต้องจ่ายเงิน

กระบวนการทั้งหมดนี้จะใช้เวลาอย่างมากไม่เกิน 5 นาที นับว่าสะดวกและรวดเร็วมากสมกับคำว่า FAST FOOD

สำหรับผู้ที่เคยสัมผัสกับแมคโดนัลด์'ส มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่สหรัฐฯ หรือที่อื่นๆ ก็มักจะมีความเห็นที่คล้ายคลึงกันว่า ไม่ต้องเป็นห่วงแมคโดนัลด์' ส หรอก ควรจะต้องเป็นห่วงคู่แข่งของแมคโดนัลด์' ส ทั้งหลายเสียมากกว่า เพราะแมคโดนัลด์'ส นั้น ตลอด 29 ปี ยังไม่เคยปรากฏว่าจะมีสาขาใดที่ไม่ประสบความสำเร็จ

สำหรับเดช บุลสุข เขาบอกกับ "ผู้จัดการ" เมื่อวันแรกที่เปิดร้านด้วยความเชื่อมั่นทำนองนี้เช่นกัน เพียงแต่เขายังคาดหมายไม่ถูกเท่านั้น ว่าแมคโดนัลด์'ส สาขาแรกที่เขาลงทุนไปแล้วจะเป็นที่นิยมของคนไทยมากน้อยแค่ไหน เดชกล่าวว่า เขาตั้งเป้าว่าจะขายได้สักวันอย่างน้อย 100,000 บาท ซึ่งหนึ่งปีจะเป็นเงินเท่าไร ก็ลองคูณเอาดูก็แล้วกัน

ร้านแมคโดนัลด์'ส ถึงวันนี้ก็เปิดมาได้หลายเดือนแล้ว ซึ่งก็เป็นหลายเดือนที่เดชและผู้ถือหุ้นแมคไทยหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

แมคโดนัลด์'ส ยังไม่มีวันไหนที่ไทยได้ต่ำกว่า 100,000 บาท ตามเป้าที่วางไว้ และโดยเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์นั้นจะขายได้ถึง 300,000 - 400,000 บาท ทีเดียว



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.