บ้านหรูคู่ Beverly Hills


นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( กรกฎาคม 543)



กลับสู่หน้าหลัก

เมื่อนักออกแบบกับลูกค้ามีวิวัฒนาการความไว้วางใจระหว่างกัน นั่นย่อมหมายถึงการสร้างสรรค์ผลงานอันวิเศษสุดออกมา เห็นได้จากสายสัมพันธ์อันแนบแน่นของสถาปนิก Mark Rios กับ David Bohnett ลูกค้าผู้จงรักภักดี ที่นำมาซึ่งการพัฒนาโครงการต่างๆ นับสิบเลยทีเดียว โดยเฉพาะโครงการออกแบบตกแต่งบ้านใหม่ของ David ที่ทำให้ได้คฤหาสน์หรูสง่า โดดเด่น และเป็นการผสมผสานกันระหว่างตัวบ้านยุคคริสต์ทศวรรษ 1930 กับเฟอร์นิเจอร์ยุคทศวรรษ 1950 และ 1960 ได้ลงตัวน่าทึ่งสุดๆ ทั้งยังแถมพกด้วยสไตล์ร่วมสมัยอีกต่างหาก

สำคัญที่สุดคือบ้านหลังนี้ตั้งอยู่ในตำบล Flats ของ Beverly Hills ที่ซูเปอร์สตาร์ของฮอลลีวูดมากมายมาสร้างบ้านอยู่กัน David กับหุ้นส่วนของเขาซื้อบ้านหลังนี้ไว้เมื่อ 6 ปีก่อน เป็นบ้านหลังงาม ตั้งอยู่บนที่ดินแปลงคู่แถมยังทำเลดีหันหน้าออกสู่ถนนใหญ่ บริเวณหน้าบ้านก็ไม่ได้ล้อมรั้วหรือปลูกต้นไม้เป็นแนวแทนรั้วอะไรเลย สำหรับคนที่อยู่ในย่านนี้แล้ว ต่างถือว่าบ้านหลังนี้อยู่ในความใฝ่ฝันของตัวเองกันทั้งนั้น ทุกคนรู้จักและอยากได้ไว้ครอบครองจริงๆ

บ้านขนาด 1,100 ตารางเมตรนี้สร้างด้วยอิฐทาสีขาว ปลูกอยู่บนเนื้อที่กว้างขวางที่มีทั้งสระว่ายน้ำ สนามเทนนิส และเรือนรับรองครบครัน จึงกลายเป็นเวทีให้ Mark และ David ได้สนุกกับการทดลองใช้สี ลวดลาย และเครื่องตกแต่ง เพื่อสรรค์สร้างให้เป็นคฤหาสน์ที่ซับซ้อนมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูงอย่างที่ David เล่าว่า

“งานสำคัญเบื้องแรกของเราก็คือ ใช้ความสามารถในการออกแบบอย่างสูงเพื่อเนรมิตให้เป็นบ้านที่สะดวกสบายทั้งกับพวกเรา ครอบครัว และเพื่อนๆ ที่สำคัญเราตั้งเป้าหมายว่า บ้านต้องสะท้อน บุคลิกและความเป็นตัวตนของเราได้อย่างชัดเจน ซึ่งเมื่องานแล้วเสร็จก็เป็นอย่างที่ตั้งใจไว้จริงๆ เสียด้วย”

บริษัทของ Mark จะทำหน้าที่คอยดูแลให้บ้านอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่ตลอดเวลา ขณะที่เจ้าของก็คอยจัดหางานต่างๆ มารองรับไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยง งานการกุศล ซึ่งรวมถึงแขกผู้มาเยือนด้วย David ให้เหตุผลว่า

“นี่เป็นโอกาสทองที่ได้จับโครงการผสมผสานกันระหว่างสถาปัตยกรรมและการออกแบบ งานท้าทายอีกอย่างหนึ่งคือ การทำให้บ้านยังคงความน่าสนใจและโดดเด่นใน Beverly Hills อยู่ตลอดเวลา เราตั้งใจออกแบบให้ทุกห้องเด่นสะดุดตามีเอกลักษณ์ของตัวเอง ขณะเดียวกันก็ต้องเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกับภาพรวมของบ้านด้วย ทุกห้องจึงต้องมีความสอดคล้องกับงานออกแบบทั้งหมด เป็นงานที่เน้นการสร้างสมดุลเราดีๆ นี่เอง แต่ก็สนุกไม่เบานะ”

เจ้าของเก่าบูรณะบ้านหลังนี้มาแล้วครั้งหนึ่งและยังมีโครงสร้างดีมาก Mark เพียงแต่เปลี่ยนหลังคาเสียใหม่ด้วยกระเบื้องหินชนวน จากนั้นก็ปรับปรุงให้อยู่ในมาตรฐานของการป้องกันแผ่นดินไหว นอกเหนือจากการทำระเบียงบริเวณชั้นบนของบ้านให้เหมือนกับแบบดั้งเดิมแล้ว การเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างอื่นๆ มีน้อยมาก พื้นหินอ่อนตรงโถงทางเข้าก็ยังคงเดิมเอาไว้ แต่ในห้อง นั่งเล่นปูพื้นใหม่ด้วยไม้กระดานสีเข้มที่ช่วยเชื่อมโยงพื้นที่ว่างต่างๆ เข้าด้วยกัน

Mark ให้รายละเอียดในฐานะสถาปนิกของโครงการว่า “เมื่ออยู่ในบ้านหลังนี้ เราต้องการให้เกิดความรู้สึกเพลิดเพลินและต้องการให้ที่ว่างแต่ละจุดมีอารมณ์เฉพาะตัว ตัวอย่างเช่น ห้องสมุด ใช้สีอุ่นและเข้ม เหมาะสำหรับนั่งผิงไฟในช่วงค่ำ การแต่งบ้านแบบนี้มีอันตรายอย่างหนึ่งคือ ในที่สุดแล้วเราอาจได้บ้านที่แลดูสะเปะสะปะน่าเกลียด แต่เราทำให้ทุกอย่างเชื่อมโยงด้วยกันเป็นหนึ่งเดียวด้วยการใช้มาตราส่วน การปูพื้น เฟอร์นิเจอร์ และผ้าที่นำมาประดับซึ่งเน้นให้เหมือนกัน”

การที่เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่เป็นของยุคทศวรรษ 50 และ 60 นั้น Mark เล่าสาเหตุว่า “David มีความผูกพันกับช่วงเวลาเหล่านั้นมาก โครงการนี้ทำให้เรามีโอกาสทำให้คอลเลกชันเฟอร์นิเจอร์จากยุคนั้นของเขามีมากขึ้น ที่วิเศษกว่านั้นคือ ได้ขนมาไว้ในบ้านเก่าแก่หลังนี้อีกต่างหาก”

งานตกแต่งยังให้ความสำคัญกับลวดลาย สี และวอลล์เปเปอร์มากเป็นพิเศษ ตัวอย่างเช่น การเนรมิตให้ห้องครัวธรรมดาๆ กลายสภาพเป็นห้องจัดเลี้ยงโออ่า โดย Mark ทาสีตู้ในครัวใหม่ทั้งหมดเป็นสีเลมอนสดใส ติดผนังด้วยวอลล์เปเปอร์ลายสวย และกรุกระจกบนเพดาน

พวกเขายังสนุกกับการออกแบบให้บริเวณห้องนั่งกินอาหาร เช้าและห้องอาหารเย็นแตกต่างตัดกันโดยสิ้นเชิง พื้นที่สำหรับกินอาหารในช่วงกลางวันจะใช้สีอ่อนขณะที่ห้องอาหารเย็นใช้สีเข้มกว่ามาก กระนั้นก็ตาม พื้นที่สองส่วนก็ยังถูกแบ่งออกเป็นสัดส่วนโดยใช้เพียงฉากกั้น ในกรณีที่ต้องการใช้พื้นที่กว้างขึ้นก็เพียงแค่ยกฉากออกเท่านั้น

บริเวณเฉลียงหลังบ้านซึ่งหันหน้าไปทางสนามหญ้าเขียวขจีนั้นสร้างขึ้นใหม่เพื่อใช้เป็นห้องกลางแจ้ง ตกแต่งผนังด้วยวอลล์เปเปอร์ลายทางสีเข้ม จากนั้นเติมเต็มด้วยเฟอร์นิเจอร์สีเขียวสดโทนสีเดียวกับหญ้าในสนามที่ได้รับการตัดแต่งอย่างประณีตนั่นเอง

David เล่าถึงแรงบันดาลใจในงานออกแบบส่วนนี้ว่า

“มาจากยุคทศวรรษ 40 อีกอย่างหนึ่งเราเป็นลูกค้าประจำของ Polo Lounge ที่ Beverly Hills Hotel ด้วย ที่นั่นตกแต่งเพดานด้วยวอลล์เปเปอร์ลายทางสีเข้มอย่างนี้แหละ และผมก็ชอบมากๆ ด้วย”

เพราะบริษัทของ Mark ยังรับดูแลที่ว่างรอบๆ บ้านด้วย จึงจัดการกำจัดภูมิทัศน์ส่วนเกินที่ทำให้แลดูรกเกะกะสายตาออกไปเพื่อให้บ้านมีช่องหายใจบ้าง จากนั้นก็ลงต้นไม้รอบๆ สระว่ายน้ำ จนให้ร่มเงาและความเป็นส่วนตัวได้เป็นอย่างดีในเวลานี้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.