GM ลดปริมาณขยะ


นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( กรกฎาคม 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

ท่ามกลางกระแสว่าด้วยการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งดูประหนึ่งจะเป็นมาตรฐานให้ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมต้องเร่งสร้างภาพลักษณ์ในมิติดังกล่าวเพื่อสื่อสารกับสาธารณะชนนั้น

ล่าสุดบริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ประกอบการรายใหญ่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ก็ไม่ยอมพลาดโอกาสดังกล่าวด้วยการประชาสัมพันธ์ถึงความสามารถในการลดปริมาณของเสียและขยะอุตสาหกรรมที่โรงงานจีเอ็ม ประเทศไทย ในจังหวัดระยอง ตามแผนงานที่จีเอ็มกำหนดเป็นเป้าหมายทั่วโลก

โรงงานจีเอ็ม ประเทศไทย ที่จังหวัดระยอง ได้รับการรับรองเป็นโรงงานล่าสุดของโรงงานจีเอ็มรวม 69 แห่งทั่วโลก ที่สามารถลดปริมาณของเสียและขยะอุตสาหกรรมที่จะถูกฝังกลบจนเป็นศูนย์ เพื่อให้เป็นโรงงานปลอดการกำจัดขยะและวัสดุเหลือใช้ด้วยการฝังกลบ

“จีเอ็มได้ใช้ความพยายามเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วในการที่จะกำจัดขยะอุตสาหกรรมอย่างถูกต้องและปลอดภัยที่สุดต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการนำขยะและวัสดุเหลือใช้กลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ ขณะนี้โรงงานของจีเอ็มทั้ง 69 แห่งได้สร้างมาตรฐานใหม่ขึ้น โดยลดปริมาณของเสียที่จะถูกฝังกลบจนเป็นศูนย์ และจะเป็นต้นแบบการปฏิบัติของโรงงานของเราทั่วโลก” ไมค์ โรบินสัน รองประธานบริหารด้านสิ่งแวดล้อม พลังงานและนโยบายความปลอดภัยของจีเอ็มระบุ

ภายใต้กระบวนการผลิตของจีเอ็มโดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 97 เปอร์เซ็นต์ของขยะและเศษวัสดุเหลือใช้จะถูกนำมารีไซเคิล และส่วนที่เหลืออีก 3 เปอร์เซ็นต์ถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานหมุนเวียน เพื่อทดแทนพลังงานเชื้อเพลิงกลุ่มปิโตรเลียม โรงงานที่สามารถเลื่อนสถานะขึ้นมาเป็นสถานประกอบการปลอดการฝังกลบประกอบด้วยโรงงาน 28 แห่งในภูมิภาคอเมริกาเหนือ 27 แห่งในเอเชียแปซิฟิกและอเมริกาใต้ รวมทั้งโรงงานอีก 14 แห่งในทวีปยุโรป

“การปลอดการฝังกลบขยะและวัสดุเหลือใช้จะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และเป็นการนำเอาอุตสาหกรรมรถยนต์ออกจากสมการผลกระทบสิ่งแวดล้อมอันเป็นที่ถกเถียงกันในปัจจุบัน จีเอ็มได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาการผลิตรถยนต์ที่ประหยัดพลังงานและปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในระดับต่ำ จีเอ็มใช้ความพยายามอย่างมาก ไม่เพียงแต่ในการผลิตรถยนต์ที่มีคุณภาพอีกทั้งยังมุ่งพัฒนาฐานการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย” ไมค์ โรบินสันย้ำ

จีเอ็มตั้งเป้าว่าจะทำการรีไซเคิลขยะและวัสดุเหลือใช้กว่า 2 ล้านตันจากโรงงานทั่วโลก อีกทั้งยังจะนำเอาขยะจำนวนกว่า 45,000 ตันมาใช้ผลิตพลังงานทดแทน ถึงแม้ว่าโรงงานของจีเอ็มทั้งหมดยังไม่ไช่โรงงานปลอดการฝังกลบของเสีย แต่ปัจจุบันโรงงานส่วนใหญ่มีการทำการรีไซเคิลของเสียในอัตราที่สูงกว่า 92% ของปริมาณของเสียทั้งหมด โดยโครงการเพื่อสิ่งแวดล้อมที่จีเอ็มทุ่มเทมาตลอดจะสามารถทำให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ สู่ชั้นบรรยากาศไปได้แล้วมากกว่า 3 ล้านตัน

จีเอ็มคาดการณ์ว่าในปีนี้บริษัทจะสามารถรีไซเคิลวัสดุเหลือ ใช้ส่วนที่เป็นเศษเหล็กกว่า 650,000 ตัน เศษไม้กว่า 16,600 ตัน รวมถึงลังกระดาษกว่า 21,600 ตันและพลาสติกกว่า 3,600 ตัน สิ่งที่ท้าทายที่สุดในการปลอดการฝังกลบ คือการหาวิธีนำกลับมาใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์กับวัสดุทุกชิ้น ไม่เว้นแม้แต่วัสดุชิ้นส่วนเล็กๆ

ในกรณีของขยะที่เป็นเศษอะลูมิเนียม เหล็ก และอัลลอยด์ จะถูกส่งไปเตาหลอมเพื่อขึ้นรูปใหม่เป็นชิ้นส่วนเครื่องยนต์ ขณะที่น้ำมันที่ใช้แล้วจะถูกปรับสภาพเพื่อนำกลับมาใช้อีกครั้งในโรงงานของจีเอ็ม และพาเลทไม้รวมถึงกระดาษกล่องจะถูกนำกลับมาใช้อีกเรื่อยๆ เมื่อหมดสภาพจะถูกส่งไปในขั้นตอนการผลิตพลังงาน ทดแทนทันที

จีเอ็มยังส่งเสริมให้บรรดาซัปพลายเออร์ของบริษัททำการรีไซเคิลขยะและวัสดุเหลือใช้ที่เหลือจากการผลิต โดยเน้นการนำวัสดุกลับมาใช้ประโยชน์สูงสุดทั้งนี้เพื่อให้เกิดการรีไซเคิลขึ้นได้อย่างครบวงจร โดยจีเอ็มเป็นหนึ่งในองค์กรแรกๆ ที่ให้ความสำคัญกับเรื่องสิ่งแวดล้อม และเป็นบริษัทรถยนต์เพียงรายเดียวที่ได้รับการยกย่องในหอเกียรติยศของ the U.S. EPA WasteWise ซึ่งได้เล็งเห็นถึงผลงานที่โดดเด่นของจีเอ็มในการรณรงค์เพื่อที่จะลดและรีไซเคิลขยะและวัสดุเหลือใช้

แม้ว่ากระบวนการผลิตของจีเอ็มอาจจะลดปริมาณขยะลงได้ แต่ความมุ่งหมายที่จะเอาอุตสาหกรรมยานยนต์ออกจากสมการผลกระทบสิ่งแวดล้อมคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.