|
TBANKเร่งแผนควบรวมสคิบ ส่งทีมเดินสายชี้แจงสาขาตจว.
ASTVผู้จัดการรายวัน(25 มิถุนายน 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
ธนชาตเร่งแผนควบรวมสคิบ สั่งศึกษาจุดแข็งแต่ละแห่ง สรุปแนวนโยบายเสนอแบงก์ชาติสิ้นปีนี้ คาดขั้นตอนเทนเดอร์ฯเสร็จสิ้นมิ.ย.พร้อมรวมผลประกอบการเข้างบฯได้ทันที ส่งทีมชี้แจงสาขาตจว. ยันหลังควบรวมอาจไม่ต้องโละพนักงานมากนัก เหตุสายงานไม่ซ้ำซ้อน
นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) (TBANK) กล่าวถึงความคืบหน้าในการควบรวมธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน)(SCIB)กับธนาคารว่า ภายในสิ้นเดือนนี้ ขั้นตอนการเสนอซื้อหุ้นธนาคารนครหลวงไทยคืนจากผู้ถือหุ้นรายอื่นๆ(เทนเดอร์ ออฟเฟอร์)คงจะเสร็จสิ้น ซึ่งคาดว่าจะทำให้ธนาคารมีสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 99% ทั้งนี้ เข้าถือหุ้นในระดับดังกล่าว ผลประกอบการของธนาคารนครหลวงไทยจะเป็นงบการเงินรวมกับธนาคารธนชาต และทำให้ขนาดของธนาคารโตขึ้นเป็นธนาคารอันดับที่ 5 มีสินทรัพย์รวม 8 แสนล้านบาท
"การควบรวมดังกล่าวจะทำให้ผลประกอบการของธนาคารนครหลวงไทยรวมอยู่ในงบการเงินของธนาคาร น่าจะเป็นตั้งแต่เดือนมิ.ย. และทำให้การเติบโตของธนาคารในปีหน้าจะเป็นไปอย่างก้าวกระโดด เนื่องจากได้รับผลดีจากขนาดที่ใหญ่ขึ้น และมูลค่าเพิ่มจากการควบรวม"นายสมเจตน์กล่าว
นอกจากนี้ ธนาคารทั้ง 2 แห่ง ก็จะมีทีมงานทำการศึกษาข้อดีของแต่ละแห่ง เพื่อนำจุดแข็งมาพัฒนารองรับการแข่งขันในอนาคตและสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ลูกค้า หลังจากขั้นตอนการทำแผนเสร็จสิ้น ก็จะส่งแผนดังกล่าวให้แก่ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อพิจารณาถึงประโยชน์ในการควบรวมดังกล่าว ที่จะทำให้ธนาคารมีความแข็งแกร่ง ขณะที่ลูกค้ายังได้รับการบริการอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะสามารถส่งแผนดังกล่าวให้ธปท.ภายในสิ้นปีนี้
นายสมเจตน์กล่าวอีกว่า หลังจากการควบรวมจะส่งผลให้ธนาคารมีการบริการครบวงจรยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพอร์ตสินเชื่อรถยนต์ บัตรเครดิต สินเชื่อบุคคล สินเชื่อบ้านประมาณ 50% และธุรกิจเอสเอ็มอีอีก 50% โดยคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีหน้า
สำหรับการเตรียมพร้อมในการควบรวมที่ได้ดำเนินการไปแล้วนั้น ธนาคารได้ตั้งทีมงานและผู้บริหารเพื่อเข้าไปพูดคุยกับสาขาต่างจังหวัดของธนาคารทั้งสองแห่ง เพื่อถ่ายทอดแนวคิดให้สาขารับทราบในเบื้องต้น ส่วนการปรับเปลี่ยนสัญลักษณ์คาดว่าจะทำขึ้นภายหลังได้ข้อสรุปจากธปท.
ส่วนจำนวนพนักงานของธนาคาร 2 แห่ง หลังควบรวมกิจการแล้ว อาจมีการลดจำนวนพนักงานมากนัก เนื่องจากโครงสร้างพนักงานไม่ได้มีความซ้ำซ้อน โดยธนชาตจะเน้นพนักงานที่เกี่ยวกับสินเชื่อรถยนต์ ขณะที่ธนาคารนครหลวงไทยจะเป็นส่วนที่ดูแลสินเชื่อขนาดใหญ่ ขนาดกลาง สินเชื่อเอสเอ็มอี แต่ในส่วนของสาขาที่อยู่ใกล้กันอาจจะต้องมีการยุบรวมกัน ซึ่งเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของพนักงานมากนัก
กรณีที่ภาครัฐมีนโยบายดูแลผู้ถือบัตรเครดิต นายสมเจตน์ กล่าวว่า ธนาคารพร้อมที่จะทำตามนโยบายของทางการเพื่อให้ผู้ถือบัตรเครดิต หรือลูกค้าของธนาคารได้รับความเป็นธรรม ซึ่งหากเรื่องใดที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม หรือลูกค้าทางธนาคารก็ยินดีให้ความร่วมมือ แต่ทั้งนี้ภาครัฐจะกำหนดเพดานอัตราดอกเบี้ยอย่างไรนั้นคงเป็นเรื่องของทางการในการพิจารณาเพดานอัตราดอกเบี้ยให้สอดคล้องกับความเสี่ยงของผู้ทำธุรกิจเกี่ยวข้องกับบัตรเครดิต เพื่อไม่ให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ทางธนาคารได้เริ่มทำบัตรเครดิตในช่วงปลายปีก่อน โดยปัจจุบันมีจำนวนบัตรครดิตประมาณ 1 แสนใบ
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|