หุ้นพักฐานแรงรูด13จุด


ASTVผู้จัดการรายวัน(25 มิถุนายน 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

หุ้นไทยผันผวนจัดช่วงเช้าปิดบวก แต่ช่วงบ่ายรูด 13จุด จากความไม่เชื่อมั่นในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอเมริกา หลังตัวเลขตลาดแรงงาน และตลาดที่อยู่อาศัยออกมาไม่ดีนัก อีกทั้งราคาน้ำมันลดปรับตัวลด ฉุดดัชนีเป๋ไปมาเหมือนตลาดหุ้นอื่นๆในภูมิภาค แต่ดีที่ต่างชาติยังซื้อสุทธิ 905 ล้าน โบรกฯประเมินแค่พักฐานแรง ส่วนวันนี้ ต้องติดตามข่าวสารและปัจจัยที่จะเข้ามากดดันหุ้น ภาพรวมแนะนำระมัดระวังการลงทุน

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทยวานนี้(24มิ.ย.) เป็นอีกวันที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยผันผวนจัด โดนปิดตลาดช่วงเช้ายังบวก 1.71จุด หรือ0.21% ที่ระดับ 808.23จุด แต่พอเข้าสู่การซื้อขายในช่วงบ่าย ดัชนีกลับปรับตัวลดลงมาอยู่ในแดนลบอย่างต่อเนื่องจนปิดที่ระดับ 793.19 จุด ลดลง 13.33 จุด หรือ -1.65% มูลค่าการซื้อขาย 30,735.27 ล้านบาท

ขณะที่การซื้อขายแยกตามประเภทกลุ่มนักลงทุนพบว่า รอบนี้ สถาบันเทขายสุทธิ 1,119.04 ล้านบาท ตามติดมาด้วยบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ที่ขายสุทธิ 377.17 ล้านบาท แต่นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 905.28 ล้านบาท เช่นเดียวกับนักลงทุนรายย่อย ที่ซื้อสุทธิ 590.92 ล้านบาท ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวานนี้ เพิ่มขึ้น 88 หลักทรัพย์ ลดลง 310 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 95 หลักทรัพย์

สำหรับ หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่ PTTมูลค่าการซื้อขาย 1,623.07 ล้านบาท ปิดที่ 250.00 บาท ลดลง4.00 บาท CPF มูลค่าการซื้อขาย1,528.44 ล้านบาท ปิดที่ 19.80 บาท ลดลง 0.30 บาท STA มูลค่าการซื้อขาย 1,527.61 ล้านบาท ปิดที่ 90.25 บาท เพิ่มขึ้น 5.25 บาท BANPU มูลค่าการซื้อขาย1,348.96 ล้านบาท ปิดที่ 624.00 บาท ลดลง 10.00 บาท และTCAP มูลค่าการซื้อขาย 1,191.37 ล้านบาท ปิดที่ 28.25 บาท ลดลง 1.00 บาท

ด้านความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นอื่นๆในต่างประเทศ พบว่า ดัชนี ฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดตลาดที่ระดับ 20,733.49 จุด ลดลง 123.12 จุด หรือ -0.59 %, ดัชนี นิกเกอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดตลาดที่ระดับ 9,928.34 จุด เพิ่มขึ้น 4.64 จุด หรือ 0.05 % ดัชนี เวทเต็ด ตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดตลาดที่ระดับ 7,589.89 จุด เพิ่มขึ้น 7.74 จุด หรือ 0.10 %, ดัชนี สเตรทไทม์ ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิดตลาดที่ระดับ 2,847.61 จุด ลดลง 23.44 จุด หรือ -0.82 %

ทั้งนี้ จากสอบถามความเห็นของโบรกเกอร์หลายแห่ง ประเมินว่า สาเหตุที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงมากนั้น เนื่องจากได้รับปัจจัยลบจากจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงอีก 1.50 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นตัวที่กดดันราคาหุ้นในกลุ่มพลังงานที่มีขนาดใหญ่ให้ปรับตัวลดลง อีกทั้งมองว่าเป็นช่วงพักตัวของดัชนี หลังตลาดฯตอบรับเรื่องค่าเงินหยวนไปแล้ว และตอนนี้กำลังรอปัจจัยใหม่เข้ามา ขณะที่ท่าทีของสหรัฐฯเองก็แสดงให้เห็นว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจมีน้ำหนักเบาและอาจชะลอตัว เหตุจากตัวเลขตลาดแรงงาน-ตลาดที่อยู่อาศัยยังไม่ดี รวมทั้งปัยหาหนี้สาธารณะที่ยุโรป

นางสาว มยุรี โชวิกรานต์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กิมเอ็ง(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายวานนี้ได้ปรับฐานลงมาค่อนข้างแรง หลังจากที่ดัชนีหลุดแนว 800 จุด โดยตลาดหุ้นรับแรงขายทำกำไรจากหุ้นขนาดใหญ่ อย่างหุ้นในกลุ่มพลังงาน และแบงก์ เป็นต้น แต่มองว่าเป็นไปตามเทคนิคเคิลเท่านั้น หลังจากที่ตลาดหุ้นไทยเมื่อ 2 วันก่อน perform ได้ดีกว่าตลาดภูมิภาค และวันนี้ตลาดฯก็ไม่ได้มีปัจจัยอะไรโดดเด่น มีเพียงแต่เรื่องของประเทศในแถบยุโรปที่มีปัญหาเรื่องหนี้สินที่จะต้องจับตาอย่างใกล้ชิด ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวานนี้ก็ปรับตัวลงเฉลี่ย 0.5% เชข่นเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในแถบยุโรป ซึ่งตลาดบ้านเราก็ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ สำหรับแนวโน้มการลงทุนในวันนี้(25 มิ.ย.) ประเมินว่าดัชนีตลาดหุ้นคงจะแกว่งไซต์เวย์ โดยมีกรอบการแกว่งที่ 790-800 จุด

ด้านนางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยวานนี้ค่อนข้างที่ผันผวน โดยในช่วงครึ่งเช้าดัชนีฯ เคลื่อนไหวแค่ในกรอบแคบๆ แม้เมื่อคืนที่ผ่านมาธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0-0.25% แต่ก็เป็นไปตามที่คาดการณ์ นอกจากนี้ ความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นต่างประเทศส่วนใหญ่เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและแดนลบ เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ในช่วงบ่ายนี้ดัชนีฯปรับตัวลดลงแรงหลุด 800 จุด จึงทำให้บรรยากาศการลงทุนในช่วงบ่ายถูกกดดัน ขณะที่ทางเทคนิคเมื่อดัชนีฯ หลุด 800 จุดก็เป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีนัก จึงอาจทำให้นักลงทุนกังวลและแบ่งขายหุ้นออกมาบางส่วน ซึ่งฝ่ายวิจัยฯ ก็ยังไม่ทราบถึงข่าวที่ชัดเจนที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรง แต่เบื้องต้นคาดว่านักลงทุนอาจจะกังวลเศรษฐกิจยุโรปและสหรัฐฯ เพราะในช่วงบ่ายเริ่มเห็นแรงขายออกมาในตลาดยุโรป ที่ต่างจากช่วงเช้าซึ่งดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวเพิ่มขึ้น

สำหรับแนวโน้มของดัชนีฯ วันนี้ (25 มิ.ย.) ขึ้นอยู่กับข่าวสารที่เข้ามากระทบต่อการลงทุน เพราะเป็นปัจจัยกดดันต่อการลงทุนในวันนี้ พร้อมกันนี้มีการรายงานจำนวนผู้ขอสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ โดยกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ เทรดดิ้ง50%ของพอร์ต แต่ควรเทรดดิ้งอย่างระมัดระวังประเมินแนวรับดัชนีฯ 780 จุด แนวต้าน 800 จุด


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.