ออฟฟิศเมทระดมทุนเข้าตลาด


ASTVผู้จัดการรายวัน(24 มิถุนายน 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

นายวรวุฒิ อุ่นใจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการขออนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปจำนวน 20 ล้านหุ้น คิดเป็น 25 % ของทุนจดทะเบียนหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์ มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในเดือนกรกฎาคมนี้

ทั้งนี้ บริษัทเป็นผู้ประกอบการประเภท Distance Trade ในธุรกิจสินค้าเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงานที่ไม่มีหน้าร้านเป็นของตนเองแต่จะขายผ่าน 2 ช่องทางหลัก คือการขายผ่านระบบแค็ตตาล็อก ภายใต้ตราสินค้าของผู้ผลิตชั้นนำและตราสินค้าของบริษัท (House Brand) โดยจะรับคำสั่งซื้อทางระบบ Call Center และอีกช่องทางหนึ่งจะขายทางออนไลน์หรือระบบ E-Commerce ผ่านเว็บไซต์ www.officemate.co.th ที่เน้นให้บริการกลุ่มลูกค้าองค์กรซึ่งปัจจุบันมีกว่า 70,000 องค์กรทั่วประเทศ

ล่าสุดบริษัทฯยังได้ขยายธุรกิจไปสู่กลุ่ม Home Use โดยเปิดเว็บไซต์ www.trendyday.com ในปี 52 เพื่อจำหน่ายสินค้า Life Style ทันสมัยที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน และยังมีสินค้าอุปกรณ์สำนักงานที่อินเทรนด์ รวมถึงสามารถสื่อสารและรับความบันเทิงผ่านสังคมออนไลน์รูปแบบลักษณะพิเศษที่หลากหลายตอบสนองกลุ่มผู้ใช้บริการ

นายวรวุฒิกล่าวว่าวัตถุประสงค์ของการระดมทุนในครั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจในอนาคต ตลอดจนการพัฒนาเว็บไซต์ trendyday.com อย่างเต็มรูปแบบ โดยตั้งเป้าหมายที่จะผลักดันสู่รูปแบบห้างสรรพสินค้าออนไลน์ที่ครบวงจรรายแรก เพราะเล็งเห็นศักยภาพของธุรกิจ E-Commerce ในประเทศไทยที่มีอัตราเติบโตสูงถึง 30% ต่อปี จากฐานผู้ใช้อินเตอร์เน็ต 16-17 ล้านคน ที่มีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ในการซื้อสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตมากขึ้น ซึ่งธุรกิจดังกล่าวเป็นตลาดที่น่าสนใจและมีช่องทางการเติบโตที่ค่อนข้างสูง แต่ปัจจุบันยังไม่มีใครเป็นผู้นำตลาดได้ชัดเจน ขณะออฟฟิศเมทมีจุดแข็งที่รายอื่นทำไม่ได้ อาทิ ความชำนาญทางด้านการจัดการสินค้า ความรวดเร็วในการจัดส่ง ความปลอดภัยและน่าเชื่อถือในการรับบริการชำระเงิน ทั้งเงินสดหรือบัตรเครดิตที่พนักงานให้บริการถึงบ้าน

" ปัจจุบันออฟฟิศเมท เป็นผู้ประกอบรายแรกและรายเดียวที่มีการนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกิดจากการวิจัยและการพัฒนาซอฟแวร์ของตนเองเข้ามาบริหารจัดการในทุกส่วนงาน ซึ่งถือว่าเป็นจุดแข็งในการดำเนินธุรกิจ อาทิ การสั่งซื้อสินค้าผ่าน Call Center ระบบบริหารสินค้าคงคลัง ระบบจัดซื้อ ระบบการจัดส่งระบบบัญชีและการเงิน รวมถึงการพัฒนาระบบงานภายนอกเพื่ออำนวยความสะดวกในการทำงานให้กับลูกค้า เช่น ระบบ e-Procurement และการสั่งซื้อสินค้าผ่านเว็บไซต์ www.officemate.co.th และ www.trendyday.com " นายวรวุฒิ กล่าว

นายวรวุฒิกล่าวว่า ในปี 53 บริษัทฯ ตั้งเป้าอัตราการเติบโตของรายได้ไว้ที่ 20% จากปี 52 ที่มีรายได้รวมเท่ากับ 914 ล้านบาท คาดว่าน่าจะอยู่ที่ระดับเกิน 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากฐานลูกค้าเดิมและ ลูกค้าใหม่ที่บริษัทฯวางแผนเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดด้วยการนำระบบ e-Procurement เข้ามาช่วยในการสั่งซื้อพิเศษเฉพาะองค์กร รวมทั้งลูกค้ากลุ่ม trendyday.com

สำหรับผลการดำเนินในไตรมาส 1 ปี 53 บริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 282 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% จากช่วงเดียวกันของปี 52 และมีกำไรสุทธิ 14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 86% จากช่วงเดียวกันของปี 52 ซึ่งเป็นผลมาจากทิศทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นประกอบกับนโยบาย " สั่งซื้อเพียง 499 บาท รับบริการส่งฟรีทั่วไทย " ทำให้ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างมาก


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.