เมืองไทยประกันภัย แนะ 5 วิธี รับมือเสรีประกันเพื่อธุรกิจอยู่รอดให้น้ำหนักสำคัญที่งานบริการ
พร้อมการพัฒนาเทคโนโลยีทันสมัยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแบ็กออฟฟิศ ควบคู่อู่ออนไลน์
กว่า 50 แห่งในปัจจุบัน จากเครือข่ายที่มีอยู่ 200 แห่ง ทั่วประเทศ
นางนวลพรรณ พรรณเชษฐ์ กรรมการ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทเมืองไทยประกันภัย จำกัด
เปิดเผยว่า เมื่อมีการเปิดเสรีธุรกิจประกันภัยขึ้นมาแล้วจะทำให้มีการแข่งขันมากขึ้น
บริษัทที่จะอยู่รอดได้จะต้องมีการปรับตัวเพื่อให้สามารถอยู่รอดในธุรกิจนี้ โดยตนมองว่าธุรกิจประกันภัยที่จะแข่งขันกันให้อยู่รอดได้ในปัจจุบันนี้ต้องประกอบไปด้วยสิ่งสำคัญ
5 ประการ สิ่งแรกคือ บริษัทจะต้องพัฒนาสินค้าของตนเองให้มีความทันสมัย และตรงต่อความต้องการของลูกค้า
2. เรื่องราคา และเงื่อนไขจะต้องเป็นธรรมกับทั้งบริษัทประกันและผู้ซื้อ
3. ความมั่นคงของบริษัท เพราะลูกค้าปัจจุบันไม่ได้มองที่ราคาเพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่มองถึงความมั่นคงด้วย
โดยนางนวลพรรณ กล่าวว่า เรื่องเงินทุนของบริษัทเป็นสิ่งที่ลูกค้าได้ถามถึงเช่นกันเวลา
ที่ตนเข้าไปเสนองาน ส่วนข้อที่ 4. นั้นถือเป็นหัวใจของ ธุรกิจทุกตัวก็คือ การบริการ
และ 5. เทคโนโลยีที่ทุกบริษัทจะต้องมีการปรับปรุงให้ทันสมัยอยู่เสมอ
นางนวลพรรณ กล่าวว่า สำหรับการลงทุนในระบบเทคโนโลยีนั้น บริษัทได้นำมาใช้กับอู่ด้วยการพัฒนาให้เป็นอู่ออนไลน์
ซึ่งปัจจุบันมีทั่วประเทศประมาณ 50 แห่ง จากอู่ในเครือทั้งสิ้นประมาณ 200 แห่ง
โดยมีอู่อีกหลายแห่งที่สนใจร่วมลงทุนกับบริษัทเพื่อพัฒนาระบบการดำเนินงานให้เป็นแบบออนไลน์
บริษัทพยายามที่จะขยายอู่ออนไลน์ออกไปในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยจะเลือกจังหวัดใหญ่
เพราะมีศักยภาพเพียงพอที่จะขยายงานได้ และบริษัทยังนำระบบดังกล่าวมาใช้กับสำนักงานตัวแทนประกันภัยตามต่างจังหวัดด้วย
นอกจากนี้ บริษัทยังได้เพิ่มความ สะดวกสบายแก่ลูกค้าประกันภัยทางทะเลและการขนส่งด้วยการทำแบบประกัน
อี-คาร์โก ซึ่งจุดนี้จะทำให้ลูกค้าสามารถออกกรมธรรม์ได้เอง