มิตรผลรุกทำไฟฟ้าจากชานอ้อยในจีน


นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( มิถุนายน 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

กลุ่มมิตรผลขยายศักยภาพผู้นำด้านพลังงานทดแทนสู่อุตสาหกรรมพลังงานใหม่ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ด้วยงบลงทุนกว่า 1,300 ล้านบาท ก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาด 32 เมกะวัตต์ โดยใช้ชานอ้อยเป็นเชื้อเพลิง พร้อมทำสัญญา 15 ปีขายไฟ 30 เมกะวัตต์ให้กับรัฐบาลจีน คาดเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้ต้นปี พ.ศ.2554

เป็นเวลากว่า 8 ปีนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2545 ที่กลุ่มมิตรผลขยายธุรกิจสู่อุตสาหกรรมพลังงานทดแทนด้านไฟฟ้าชีวมวล โดย นำชานอ้อยที่เหลือจากกระบวนการผลิตน้ำตาลไปใช้เป็นเชื้อเพลิง ในการผลิตไอน้ำและกระแสไฟฟ้า เพื่อนำกลับมาใช้ในกระบวน การผลิต รวมทั้งอุตสาหกรรมต่อเนื่องอื่นๆ ของกลุ่มมิตรผล เพื่อ ลดต้นทุนการใช้ไฟฟ้าภายในโรงงานและรักษาสมดุลสิ่งแวดล้อม ทั้งยังสามารถนำไฟฟ้าที่เหลือใช้จากการผลิตน้ำตาลจำหน่ายให้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ถึง 76 เมกะวัตต์นั้น นับว่า ประสบความสำเร็จตรงตามเป้าหมายในการพัฒนาอุตสาหกรรมน้ำตาลควบคู่กับอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าชีวมวลที่ได้กำหนดไว้อย่างต่อเนื่อง

จากความสำเร็จดังกล่าว ผนวกกับความเชี่ยวชาญของบุคลากรและเทคโนโลยีที่ทันสมัย กลุ่มมิตรผลจึงมีแนวคิดที่จะนำ รูปแบบการดำเนินงานด้านไฟฟ้าชีวมวลที่มีประสิทธิภาพจากประเทศไทยมาพัฒนาต่อยอดให้กับธุรกิจของกลุ่มในต่างประเทศ ในวันนี้ กลุ่มมิตรผลมองเห็นถึงศักยภาพของโรงงานน้ำตาลในมณฑลฟูหนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่สามารถนำชานอ้อย ที่เหลือมาเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าชีวมวล จึงได้ตัดสินใจลงทุนสร้างโรงงานไฟฟ้าชีวมวล โดยใช้เงินลงทุนจำนวน 280 ล้านหยวน หรือกว่า 1,300 ล้านบาท บนพื้นที่ 34 ไร่บริเวณต่อจากโรงงานน้ำตาลฟูหนาน นับเป็นโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งแรกในจีนที่ผลิตไฟฟ้าจากชานอ้อย 100% ขณะที่โรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ในจีนจะใช้เชื้อเพลิงจากถ่านหินและพลังงานลม

“การจัดการวัตถุดิบที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงจะใช้รูปแบบคล้ายกับ ประเทศไทย คือ เน้นการส่งเสริมการปลูกอ้อยเพื่อลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตต่อไร่ การให้ความรู้เพิ่มเติมโดยทีมส่งเสริมด้านการจัด การไร่อ้อย อาทิ ระบบชลประทานน้ำหยดในไร่อ้อย การจัดหาวัสดุ คลุมดินเพื่อกันความชื้น วิธีการกำจัดศัตรูพืชในไร่อ้อย เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะช่วยให้ชาวไร่มีผลผลิตคุณภาพสูงแล้ว ยังช่วยให้เราได้ชานอ้อยคุณภาพเป็นวัตถุดิบอย่างเพียงพอด้วย” สุวัฒน์ กมลพนัส กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจไฟฟ้าในกลุ่มมิตรผลระบุ

การก่อสร้างโรงงานไฟฟ้าชีวมวลในฟูหนานแบ่งเป็น 5 ระยะ ประกอบด้วย ระยะที่ 1 การเตรียมการจัดจ้างบุคลากร ออกแบบโรงไฟฟ้าและปรับพื้นที่ก่อสร้าง ระยะที่ 2 ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้า ซึ่งขณะนี้ได้เริ่มดำเนินการแล้วตั้งแต่ไตรมาส 1/2553 ที่ผ่านมา ระยะที่ 3 ติดตั้งเครื่องจักร และเริ่มอบรมบุคลากรโดยจะจัดส่งเจ้าหน้าที่จากจีนมาอบรมที่ประเทศไทยและจัดส่งเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญจากไทยไปช่วยงานที่จีนในระยะเริ่มต้น ระยะที่ 4 ทดสอบการดำเนินงาน และทดลองเดินเครื่องจักร ระยะที่ 5 เริ่มเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าและจำหน่ายไฟจริง

โรงไฟฟ้าชีวมวลในฟูหนานเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีกำลัง การผลิต 32 เมกะวัตต์ เดินเครื่องผลิตไฟ 10 เดือน ด้วยเทคโน โลยีหม้อน้ำแรงดันสูงประเภท 100 บาร์ ที่มีประสิทธิภาพในการเผาไหม้เชื้อเพลิงอย่างสมบูรณ์ โดยไฟฟ้าที่ผลิตได้จำนวน 30 เมกะวัตต์ จะจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าของมณฑลกวางสีภายใต้เงื่อนไข สัญญา 15 ปี การก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งนี้ไม่เพียง แค่เพิ่ม จำนวนกระแสไฟฟ้าที่จะแจกจ่ายไปยังชุมชนเท่านั้น แต่ยังถือเป็น โอกาสในการสร้างอาชีพและรายได้เพิ่มให้กับประชาชนในท้องถิ่น ด้วยเช่นกัน

การบุกเบิกอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าชีวมวลในจีนของกลุ่มมิตรผลได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนทั้งด้านนโยบายและ การให้ความช่วยเหลือด้านราคา (Adder) เนื่องจากเป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับการประกาศเดินหน้าแผนพัฒนาอุตสาหกรรมของจีน ที่ได้รับการตีพิมพ์เมื่อไม่นานมานี้ ในการสนับสนุนการใช้พลังงาน ทดแทนรูปแบบอื่นในอุตสาหกรรมและลดการใช้พลังงานจากถ่านหิน ซึ่งก่อให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นจำนวน มาก แผนดังกล่าวระบุชัดเจนว่าจีนเร่งพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงาน ทดแทน โดยเฉพาะพลังงานจากแสงอาทิตย์ ลม และชีวมวล ในปี พ.ศ.2596 หรืออีกประมาณ 40 ปีจากนี้ไปพลังงานใหม่เหล่านี้จะมีสัดส่วนคิดเป็นร้อยละ 40 ของปริมาณการใช้พลังงานทั้งหมดของประเทศเป็นการเปิดแนวรุกใหม่ที่น่าสนใจติดตามไม่น้อยในห้วงยาม ที่กระแสพลังงานทดแทนกำลังเป็นที่กล่าวขวัญถึงเช่นนี้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.