เคทีบี ลีสซิ่งปรับฐาน ดึงลูกค้าแบงก์ขยายรายใหญ่


ASTVผู้จัดการรายวัน(2 มิถุนายน 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

เคทีบีลีสซิ่งปรับโครงสร้างลูกค้า หันเพิ่มสัดส่วนรายใหญ่เป็น 45% จากเดิม 40% ระบุเพื่อให้สอดคล้องกับฐานลูกค้าของแบงก์กรุงไทย ล่าสุดปล่อยสินเชื่อให้บริษัททีพีซี เพสต์ เรซินวงเงิน 740 ล้านบาท มั่นใจทั้งปีปล่อยได้ตามเป้าโต 15%

นายภิญญาวัฒน์ จันทรกานตานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทเคทีบี ลีสซิ่ง จำกัด (KTB Leasing)เปิดเผยว่า ในปี 2553 นี้บริษัทตั้งเป้าหมายเติบโตยอดการปล่อยสินเชื่อลีสซิ่งไว้ที่ 15% คิดเป็นเม็ดเงินปล่อยใหม่ 8 พันล้านบาท โดยบริษัทจะเน้นปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ประเภทธุรกิจพื้นฐาน ธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโครงการไทยเข้มแข็งของรัฐบาลโดยเฉพาะธุรกิจเช่าซื้อเครื่องจักรทำถนน เนื่องจากบริษัทมีเป้าหมายที่จะปรับฐานลูกค้ารายใหญ่ให้มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 45% ส่วนลูกค้ารายย่อยจะอยู่ที่ 55% จากเดิมสัดส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 40% ต่อ 60% ตามลำดับ แต่คาดว่าสิ้นปีนี้สัดส่วนน่าจะอยู่ที่ 50% ต่อ 50% มากกว่า

"การที่บริษัทตั้งเป้าหมายปรับสัดส่วนลูกค้าระหว่างรายใหญ่และรายย่อยให้เป็น 45% ต่อ 55% เนื่องจากบริษัทต้องการที่จะเพิ่มฐานลูกค้ารายใหญ่ในฐานให้มีมากขึ้นและเพื่อเป็นการเติมเต็มฐานลูกค้ารายใหญ่ให้กับธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (KTB) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น 100% ในบริษัทให้มีมากขึ้น จากเดิมที่ธนาคารกรุงไทยจะมีฐานลูกค้ารายย่อยเป็นหลัก"นายภิญญาวัฒน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม บริษัทมั่นใจว่าทั้งปีนี้ยอดการปล่อยสินเชื่อลีสซิ่งจะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้อย่างแน่นอน เนื่องจากช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทสามารถอนุมัติสินเชื่อได้แล้วกว่า 4.5 พันล้านบาท และมีการเบิกใช้สินเชื่อจริงประมาณ 4 พันล้านบาท ขณะที่ด้านผลประกอบการที่เป็นผลกำไรนั้น ก็ได้ตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 250 ล้านบาท จากผลกำไร 4 เดือนมีผลกำไร 120 ล้านบาท และฐานสินเชื่อคงค้างในสิ้นปีนี้ก็คาดว่าจะเพิ่มเป็น 1.5 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับฐานสินเชื่อคงค้างปัจจุบันอยู่ที่กว่า 1.4 ล้านบาท

ทั้งนี้ จำนวนฐานลูกค้าทั้งหมดของบริษัทจะกระจายอยู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศและมีรายได้ที่แน่นอน โดยในปัจจุบันอยู่ที่ 1.5 แสนราย ซึ่งแบ่งเป็นลูกค้ารายย่อย 1.4 แสนราย ลูกค้ารัฐวิสาหกิจและข้าราชการ 1 แสนราย และลูกค้าที่ใช้บริการเดินบัญชีผ่านธนาคาร(Pay Roll) ซึ่งเป็นลูกค้าเอกชนอีก 1 หมื่นราย และบริษัทมีแผนที่จะลงนามสนับสนุนสินเชื่อลีสซิ่งให้กับกลุ่มลูกค้าที่เป็นรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนรายย่อยมากขึ้น

นายภิญญาวัฒน์ยังกล่าวถึงหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล)ของบริษัทในปัจจุบันอยู่ต่ำกว่า 2% ว่า อยู่ในอัตราไม่สูงเนื่องจากบริษัทจะมีการคัดเลือกลูกค้าเป็นอย่างดี และจะเน้นปล่อยสินเชื่อให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ประจำที่แน่นอน ส่วนลูกค้าที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ก็ยังมีการชำระหนี้ตามปกติ และไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหาความไม่สงบแต่อย่างใด ดังนั้นสัดส่วนการคิดอัตราดอกเบี้ยจึงอยู่ในระดับเดียวกับลูกค้าที่อยู่นอกพื้นที่ดังกล่าว

ล่าสุด บริษัทได้ตอกย้ำความเป็นผู้นำบริการด้านการเงินที่ครบวงจร ด้วยการลงนามในสัญญาสนับสนุนสินเชื่อลีสซิ่ง ให้กับบริษัททีพีซี เพสต์ เรซิน จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นวงเงินถึง 740 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในบริษัทในการต่อยอดธุรกิจ โดยวงเงินดังกล่าวที่บริษัทอนุมัติให้กับบริษัททีพีซีฯนั้น ถือเป็นวงเงินมากที่สุดเท่าที่บริษัทเคยอนุมัติให้กับลูกค้า โดยมีอายุการการผ่อนชำระ 4 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษคงที่ตลอดระยะเวลาสัญญา


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.