|
'สตราทีจิคฯ'ย้ำซื้อSSCที่29บ.
ASTVผู้จัดการรายวัน(27 พฤษภาคม 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
นายปริญญา กิจจาธนพันธ์ กรรมการ บริษัท สตราทีจิค เบฟเวอร์เรจเจส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่าตามที่บริษัทหลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดทำรายงานแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำเสนอซื้อหุ้นในครั้งนี้ แต่รายงานดังกล่าวไม่ได้สะท้อนถึงจุดมุ่งหมายและวัตถุประสงค์การทำคำเสนอซื้อของบริษัท ดังนั้นจึงขอสรุปประเด็นที่เชื่อว่าจะเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาตัดสินใจของผู้ถือหุ้นดังนี้
การเสนอคำซื้อหุ้นบริษัทเสริมสุข จำกัด (มหาชน) หรือ SSC ในครั้งนี้ มีสาเหตุจากบริษัทมีความกังวลและตระหนักถึงความจำเป็นในการลงทุนเพื่อเสริมสร้างอนาคตที่มั่นคงในระยะยาวให้กับกิจการ อีกทั้งบริษัทมีแนวทางชัดเจนที่จะดำเนินการตามแผนงาน เพิ่มเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของธุรกิจ แต่การที่จะบรรลุเรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นต้องใช้ระยะเวลา รวมถึงอาศัยความร่วมมือสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นซึ่งเข้าใจถึงความจำเป็นในการซื้อหุ้นครั้งนี้ และยินดีเพื่อถือหุ้นต่อไปเพื่อผลประกอบการที่ดีในระยะยาว
ส่วนผู้ที่หุ้นที่มีความเห็นแตกต่างและไม่ปรารถนาจะมีส่วนร่วมกับแผนระยะยาว คำเสนอซื้อหุ้นของบริษัทจะเปิดโอกาสให้สามารถทำกำไรจากการลงทุนในหุ้นของกิจการโดยการจำหน่ายหุ้นให้กับบริษัท โดยราคาเสนอซื้อหุ้นตามแบบ 247-4 คือ 29 บาทต่อหุ้นนั้น เป็นราคาที่ผ่านการพิจารณาและคำนวณอย่างถี่ถ้วนแล้ว
เนื่องจากราคาซื้อหุ้นที่ 29 บาทต่อหุ้น นั้นเป็นราคาที่เกือบสูงสุดในรอบระยะเวลา 10 ปี โดย ณ วันที่บริษัทได้ประกาศเจตนาซื้อหุ้น SSC ราคาเสนอซื้อของบริษัทนั้นสูงกว่าราคาปิดของหุ้นที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 16 เม.ย. 53 ( ซึ่งเป็นที่มีการซื้อขายหุ้น SSC ในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันสุดท้ายก่อนที่สตราทีจิคฯจะประกาศเจตนาทำคำเสนอซื้อ) ถึง 44 % และสูงกว่าราคาซื้อขายเฉลี่ย 90 วันย้อนหลังถึง 61 % ซึ่งราคาดังกล่าวได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุนมืออาชีพ และนักลงททุนสถาบัน
เพราะราคาเสนอซื้อของบริษัทเท่ากับ 22 เท่าของกำไรต่อหุ้นของ SSC สำหรับปี 52 โดยช่วง 5 ปีที่ผ่านมา หุ้นของ SSC มีการซื้อขายที่อัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) เฉลี่ยที่ 12.6 เท่า
นอกจากนี้ นับตั้งแต่ปี 47 นั้น SSC มีการจ่ายปันผลเฉลี่ยที่ 1.10 บาทต่อหุ้น ซึ่งหากพิจารณาจากข้อมูลการจ่ายเงินปันผลในอดีตนี้ ราคาเสนอซื้อของบริษัทสามารถเทียบเคียงได้เท่ากับการที่ผู้ถือหุ้นได้รับการจ่ายเงินปันผลล่วงหน้าถึง 26 ปีนับจากนี้ โดยการจ่ายเงินปันผลช่วงสองปีที่ผ่านมาของ SSC เป็นการจ่ายปันผลที่เกินกว่ากำไรที่ทำได้ในแต่ละปี ซึ่งไม่ใช่วิธีที่ปฏิบัติได้ในระยะยาว
อีกทั้งช่วงสามปีก่อนที่บริษัทได้ทำคำเสนอซื้อนี้ หุ้นของ SSC มีปริมาณการซื้อเฉลี่ยต่อวันเพียง 106,080 หุ้น หรือ 0.039 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด ซึ่งเมื่อการทำคำเสนอซื้อในครั้งนี้สิ้นสุดลง บริษัทคาดว่าสภาพคล่องของหุ้นที่ถือโดยผู้ถือหุ้นรายย่อย ( Free Float ) จะมีจำนวนน้อยลงไปอีก
" เราขอย้ำความชัดเจนอีกครั้งว่า การเสนอซื้อหุ้นของSSC ในครั้งนี้เป็นการซื้อเพื่อยังคงดำเนินธุรกิจต่อไปเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจของ SSC ในระยะยาว รวมถึงการลงทุนในโรงงานและเครื่องจักร และสร้างความมั่นคงในอนาคตให้เสริมสุขและพนักงาน มิได้ทำเพื่อเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์การใช้สินทรัพย์ที่ดินในส่วนที่เป็นสาระสำคัญของกิจการ การปิดโรงงาน ขายสินทรัพย์ และลดจำนวนพนักงาน เพื่อรับรู้มูลค่าเพิ่มจากที่ดินที่ใช้ดำเนินการในปัจจุบัน"
สำหรับ ผู้ถือหุ้นบางรายอาจจะยังคงถือหุ้นอยู่และคาดหวังว่าบริษัทจะเพิกถอน SSC ออกจากตลาดหลักทรัพย์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และยืนยันว่าไม่มีความประสงค์นำหุ้น SSC ออกจากตลาดหลักทรัพย์ ตามที่ระบุไว้ในแบบ 247-4 และยืนยันในคำเสนอซื้อหุ้นของบริษัทในครั้งนี้ ว่าราคาเสนอซื้อดังกล่าวเป็นราคาที่แท้จริง ที่สามารถซื้อขายได้ เป็นราคาที่ยุติธรรม เป็นราคาสุดท้ายที่เสนอต่อผู้ถือหุ้นทุกรายในขณะนี้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|