|
แบงก์รับสินเชื่อหด ห่วงก่อการร้ายไม่จบ เอสเอ็มอี-ท่องเที่ยวทรุด
ASTV ผู้จัดการรายวัน(24 พฤษภาคม 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
นายแบงก์เชื่อเหตุรุนแรงกระทบจีดีพีไตรมาส2และสินเชื่อของแบงก์แน่ โดยเฉพาะสินเชื่อเอสเอ็มอี-ผู้ประกอบการท่องเที่ยว แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุเป็นตัวเลขที่ชัดเจนได้ เล็งทบทวนเป้าสินเชื่อเร็วๆนี้
นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) (TMB) เปิดเผยว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ของไทยในไตรมาส 2 ปี 2553นี้จะมีทิศทางแบบใดนั้น ยังไม่สามารถระบุออกมาเป็นตัวเลขการเติบโตที่ชัดเจนได้ ถึงแม้ว่าการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) จะมีการยุติไปแล้วก็ตาม แต่เชื่อว่าเศรษฐกิจของไทยในไตรมาส 2 นี้ จะมีการเติบโตที่ชะลอลงอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ความรุนแรงต่างๆแล้ว ถือว่าแย่มาก ทำให้ยอดการใช้จ่ายภายในประเทศลดลงพอสมควร รวมไปถึงธุรกิจการท่องเที่ยวที่จะต้องเจอกับวิกฤติอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าภาคการส่งออกและอัตราการขยายตัวสินเชื่อไตรมาส 1 ของปีนี้จะกลับมาฟื้นตัวดีขึ้นก็ตามโดยเฉพาะสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาด ย่อม (เอสเอ็มอี) ทั้งระบบที่จะมีการเติบโตได้น้อยกว่าไตรมาส 1 อย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้นเมื่ออัตราการขยายตัวของจีดีพีประเทศไทยไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง ไว้ ตัวสินเชื่อก็คาดว่าจะลำบากด้วยเช่นกัน ซึ่งเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อเอสเอ็มอีของธนาคารทั้งปีนี้ที่ตั้งไว้ที่ 20-30% จะได้ตามเป้าหมายหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องรอดูสถานการณ์ทางการเมืองอย่างต่อเนื่องแล้วจึงค่อยมีการทบทวนเป้า หมายและปรับเปลี่ยนแผนงานใหม่อีกครั้งหนึ่ง
"ต้องยอมรับว่าการชุมนุมมีผลกระทบต่อยอดการปล่อนสินเชื่อไตรมาส 2 นี้ อย่างแน่นอน เพราะไตรมาส 1 ธนาคารมียอดเติบโตสินเชื่อเอสเอ็มอีใหม่ 8,000-10,000 ล้านบาท ซึ่งไตรมาส 2 นี้คงได้ไม่ถึงระดับดังกล่าว ส่วนสินเชื่อเอสเอ็มอีทั้งปีนี้จะได้ตามแผนหรือไม่นั้น ต้องรอทบทวนก่อน เพราะไม่มั่นใจกับสภาพเศรษฐกิจมากนัก" นายสยามกล่าว
ส่วนลูกค้าผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของธนาคารที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการ ชุมนุมนั้น ขณะนี้ยังไม่พบว่าเข้าติดต่อขอความช่วยเหลือจากธนาคารแต่อย่างใด ซึ่งทางธนาคารและสมาคมธนาคารไทยเองก็มีนโยบายและเปิดโอกาสในการหาช่องทางให้ ลูกค้าที่ได้รับผลกระทบเข้ามาปรับโครสร้างการผ่อนชำระหนี้อยู่ตลอดเวลา ดังนั้น จึงคาดว่าหลังจากจบเหตุการณ์แล้วจะมีลูกค้าที่ได้รับผลกระทบเข้ามาติดต่อขอ ความช่วยเหลือกับธนาคารประมาณ 10-20 ราย
ด้านนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) กล่าวว่า อัตราการขยายตัวของจีดีพีในไตรมาส 2 นี้ มองว่าจะน้อยกว่าไตรมาส 1 ที่โต 7-8% คือน่าจะเติบโตได้เพียง 3-4% เท่านั้น เนื่องจากปัญหาการชุมนุมทางการเมืองที่เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมจนกระทั่ง เดือนเมษายนที่มีเหตุการณ์รุนแรงและในปัจจุบันก็มีเหตุการณ์เผาสถานที่ต่างๆ ถึงแม้จะมีการยุติการชุมนุมแล้วก็ตาม ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการขยายตัวจีดีพีทั้งปีนี้ของไทยอยู่ที่ 3.5-5.8%
สำหรับยอดสินเชื่อของธนาคารโดยรวมก็คงจะเติบโตได้ลดลงเช่นกัน โดยเฉพาะสินเชื่อเอสเอ็มอีที่เกี่ยวกับภาคการท่องเที่ยว เพราะขณะนี้เริ่มมีลูกค้าเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบเข้ามาขอความช่วยเหลือ กับธนาคารบ้างแล้วประมาณ 10 รายจากลูกค้าเอสเอ็มอีที่มีอยู่กว่า 1 แสนราย ซึ่งธนาคารก็มีการเสนอแนวทางช่วยลูกค้าในเรื่องของการปรับระยะเวลาชำระหนี้ ออกไป และคาดว่าเมื่อสถานการณ์ทุกอย่างกลับเข้าสู่ภาวะปกติจะมีลูกค้าติดต่อขอความ ช่วยเหลือกับธนาคารไม่ต่ำกว่า 100-200 ราย ซึ่งจะเป็นในส่วนลูกค้าสินเชื่อที่อยู่อาศัยและลูกค้าเอสอเอ็มอี
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|