|
คิวเฮ้าส์ปรับเกมสู้ ผุดไฟติ้งแบรนด์ขายบ้านระดับล่าง
ASTV ผู้จัดการรายวัน(18 พฤษภาคม 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
คิวเฮ้าส์ฯ แตกบริษัทลูกใหม่ “เดอะคอนฟิเด้นซ์” รุกตลาดบ้านจัดสรร-คอนโดฯราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท ภายใต้แบรนด์ ‘เดอะทรัสต์’ หวังปิดจุดอ่อนฐานลูกค้ากลุ่มระดับล่าง ปูพรมทีเดียว 7 โปรเจกต์ มูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท ยอมรับการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดระดับบนที่ครองอยู่ 30-40% ค่อนข้างยาก วางเป้าภายใน 3 ปี สัดส่วนรายได้ โครงการหรูเหลือ 40%
เจ้าตลาดโครงการบ้านหรู บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH ในเครือแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ฯ ได้ปรับแผนธุรกิจครั้งใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา โดยการเปิดแบรนด์น้องใหม่ “คาซ่าวิลล์ ”ที่ชูคอนเซ็ปต์สร้างเสร็จก่อนขาย มุ่งเจาะกลุ่มตลาดบ้านระดับกลาง เพื่อเป็นการต่อยอดกลุ่มลูกค้าโครงการบ้านหรู ที่ปัจจุบัน บริษัทยังครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ค่อนข้างมาก แต่ด้วยภาวะตลาดอสังหาฯ เศรษฐกิจ และพฤติกรรมของลูกค้าที่ปรับเปลี่ยนไป ทำให้คิวเฮ้าส์ต้องปรับแผนการตลาดครั้งใหม่
โดยนายรัตน์ พานิชพันธ์ กรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ควอลิตี้ เฮ้าส์ฯ กล่าวว่า เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพการเติบโตในการทำธุรกิจในปีนี้ จึงได้กำหนดเป้าหมายขยายธุรกิจให้ครอบคลุมที่อยู่อาศัยทุกกลุ่มลูกค้า ล่าสุดได้เปิดบริษัท เดอะ คอนฟิเด้นซ์ จำกัด ซึ่งมี บริษัท คาซ่าวิลล์ จำกัด ถือหุ้น 100% เพื่อพัฒนาที่อยู่อาศัยราคาต่ำกว่า 3 ล้านบาท แยกการพัฒนาออกเป็น ประเภทบ้านเดี่ยว ภายใต้แบรนด์ เดอะทรัสต์ วิลล์ , ทาวน์เฮาส์ 2ชั้น แบรนด์เดอะทรัสต์ ทาวน์, ทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น แบรนด์ เดอะ ทรัสต์ ซิตี้ และคอนโดฯ แบรนด์ เดอะทรัสต์ เรสซิเด้นซ์ และบ้านแฝด ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดว่าจะใช้แบรนด์ใด
โดยในปีนี้ เดอะคอนฟิเด้นซ์ฯ มีแผนจะพัฒนาโครงการใหม่รวม 7 โครงการ มูลค่ารวม 7,014ล้านบาท แบ่งออกเป็น โครงการทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น 2 โครงการ ได้แก่ เดอะทรัสต์ ทาวน์ ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ ราคาเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท มูลค่า 470 ล้านบาท เปิดขายไตรมาส 3 โครงการทาวน์เฮาส์ เดอะทรัสต์ทาวน์ วงแหวน-ลำลูกกา ราคาเริ่มต้น 1.6ล้านบาท มูลค่า 614 ล้านบาทเปิดขายในไตรมาส 4
โครงการบ้านเดี่ยว เดอะทรัสต์วิลล์ วัชรพล-หทัยราษฎร์ ราคาเริ่มต้น2.9ล้านบาท มูลค่า 571 ล้านบาทเปิดขายในไตรมาส4 และโครงการ เดอะทรัสต์ ซิตี้ งามวงศ์วาน25 รูปแบบทาวน์เฮาส์ 3 ชั้น ราคาเริ่มต้น3.5ล้านบาท มูลค่าโครงการ 560ล้านบาทเปิดขายในไตรมาส4 ของปีนี้
ส่วนที่เหลืออีก 3โครงการจะพัฒนาเป็นโครงการคอนโดฯ แบรนด์ เดอะทรัสต์ เรสซิเด้นซ์ นวลจันทร์ ราคาเริ่มต้น1.5ล้านบาท จำนวน1,100ยูนิต มูลค่ารวม 1,320 ล้านบาท เปิดขายในไตรมาส 3 โครงการเดอะทรัสต์ เรสซิเด้นซ์ ปิ่นเกล้า ราคาเริ่มต้น1.5ล้านบาท จำนวน1,439ยูนิต มูลค่ารวม2,159 ล้านบาท เปิดขายในไตรมาส 4 และโครงการเดอะทรัสต์ เรสซิเด้นซ์ งามวงศ์วาน25ราคาเริ่มต้น1.2ล้านบาท จำนวน1,100 ยูนิต มูลค่ารวม 1,320ล้านบาท
“ โครงการคอนโดฯแม้จะกำหนดเวลาในการเปิดขายไว้แล้ว แต่หากยังไม่ได้ใบอนุญาตก่อสร้าง หรือผ่านการทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม จะยังไม่เปิดขายโครงการ ซึ่งทุกโครงการอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมหรือ EIA อยู่ ”
ทั้งนี้ จากการเปิดขายโครงการใหม่ทั้ง7 โครงการดังกล่าวในปีนี้จะทำให้ในบริษัท เดอะ คอนฟิเด้นซ์ มียอดรับรู้รายได้ในปี53 ประมาณ 200ล้านบาท ในปี 54 จะมียอดรับรู้รายได้1,680 ล้านบาท และในปี55ที่ 3,356ล้านบาท สำหรับโครงการของบริษัททุกๆโครงการดังกล่าวจะใช้ระบบการก่อสร้างสำเร็จรูป หรือการก่อสร้างระบบพรีแฟบ ซึ่งจะช่วยร่นระยะเวลาในการก่อสร้างลง
ปูพรมแบรนด์คาซ่า เร่งยอดขาย
นายรัตน์ กล่าวว่า สำหรับ “คิวเฮ้าส์” และคาซ่า วิลล์ นั้น ในปีนี้มีแผนจะพัฒนาโครงการใหม่รวม 14โครงการมูลค่ารวม 17,745ล้านบาท แบ่งออกเป็นคิวเฮ้าส์ 4 โครงการ ประกอบด้วยโครงการ Q.House A venue พระราม5 (North) มูลค่าโครงการ 2,390ล้านบาทเปิดขายไตรมาสที่ 2, โครงการQ.House A venue พระราม5 (South) มูลค่ารวม3,830 ล้านบาทเปิดขายในไตรมาสที่2 ,โครงการลัดดารมย์ Elegance เชียงใหม่ มูลค่ารวม 1,189 ล้านบาท เปิดขายไตรมาสที่3 และโครงการวรารมย์ Premium วัชรพล -จตุโชติ มูลค่ารวม1,800 ล้านบาทเปิดขายในไตรมาสที่ 3
ส่วนที่เหลืออีก 10โครงการพัฒนา พัฒนาภายใต้บริษัท คาซ่า วิลล์ ประกอบด้วยโครงการ คาซ่า วิลล์ พระราม2(3) มูลค่า478ล้านบาท โครงการคาซ่า วิลล์ รังสิต คลอง2 มูลค่า1,490ล้านบาท โครงการคาซ่า วิลล์ รามอินทรา-วงแหวน มูลค่า900ล้านบาท โครงการคาซ่า วิลล์ พระราม2 (4) มูลค่า424 ล้านบาท โครงการคาซ่า ซิตี้ พระราม 2 มูลค่า126ล้านบาท (ปิดการขายตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 53) โครงการคาซ่าซิตี้ สุขุมวิท101/1 มูลค่ารวม 230ล้านบาท โครงการคาซ่า ซิตี้ เกษตร-นวมิทนร์ มูลค่า 230 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีโครงการคอนโดฯไฮไรส์ 36 ชั้น โครงการ คิว หลังสวน จำนวน177ยูนิต มูลค่า 3,510 ล้านบาท เปิดขายไตรมาสที่3 โครงการคาซ่าคอนโด ท่าพระ จำนวน 274 ยูนิต มูลค่า 540ล้านบาทเปิดขาย ไตรมาสที่2 และโครงการค่าซ่าคอนโด สุขุมวิท 97 จำนวน224ยูนิตมูลค่ารวม 518ล้านบาท
นายประวิทย์ โชติวิวัฒนาพันธ์ กรรมการและผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการบริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ฯ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีสินค้ารองรับความต้องการลูกค้าเฉพาะตลาดบนและตลาดระดับกลาง ในขณะที่การขยายเพิ่มส่วนแบ่งตลาดระดับบน ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนอยู่ 30-40% นั้น หากจะขยายเพิ่มขึ้นไปเป็นเรื่องที่ทำยาก ส่วนตลาดระดับกลางนั้นหลังจากที่ได้ขยายเข้ามาจับตลาดดังกล่าว ก็ได้รับการตอบรับที่ดีจนทำให้มีการเปิดตัวโครงการใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง
ในขณะที่ตลาดระดับกลาง-ล่างนั้นบริษัทยังไม่มีสินค้าออกมารองรับ ซึ่งการขยายตลาดดังกล่าวนี้ถือเป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น เพื่อช่วยให้การสร้างรายได้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ในช่วง3ปีจากนี้ ได้กำหนดสัดส่วนเป้ารายได้มาจาก บริษัท คอนฟิเด้นซ์ 20%บริษัท คาซ่าฯ 40% และบริษัท ควอลิ้ตี้ เฮ้าส์ฯ 40% จากในปัจจุบันมีรายได้จาก ควอลิ้ตี้เฮ้าส์ฯ 50% และบริษัท คาซ่า วิลล์ฯ 50%
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|