เป็นธรรมดาที่แวดวงสังคมชั้นสูงหรือไฮโซไซตี้ในทุกสมัยของสปอร์ตสคลับจะประกอบไปด้วยบุคคล
4 ประเภทคือ
หนึ่ง บุคคลที่มั่งคั่งร่ำรวยและอยู่ในแวดวงข้าราชสำนัก
สอง บุคคลที่ไม่ร่ำรวย แต่โดยชาติกำเนิดดีและได้รับการศึกษาอบรมระดับสูง
สาม พ่อค้านักธุรกิจที่ร่ำรวยและพยายามชักนำตวเองให้เข้าไปใกล้ชิดในแวดวงไฮไซไซตี้
สี่ บุคคลที่ไม่ร่ำรวยและไม่ใช่ข้าราชสำนัก แต่กระหายที่จะชักนำตัวเองให้ใกล้ชิดในแวดวงพวกที่ร่ำรวยและข้าราชสำนัก
พงส์ สารสินประธานสปอร์ตสคลับจัดเป็นบุคคลในประเภทแรก เพราะต้นสกุลสารสินคือพระยาสารสินสวามิภักดิ์หรือเทียนฮี้
สารสินแพทย์ทางด้านศัลยกรรมคนแรกของไทย พงส์ สารสิน ได้รับการรับรองอย่างดีในทามกลางบุคคลสามประเภทหลัง
เมื่อเขาเข้าไปสู่การเป็นประธานราชกรีฑาสโมสร จึงเสมือนเขาได้บรรลุเป้าหมายรวดเร็วกว่าที่เขาคิดเสียอีกบนเส้นทางธุรกิจและการเมือง
แต่สำหรับสมาชิกคนอื่น ๆ ที่ขณะนี้สปอร์ตสคลับมีอยู่ถึงจำนวน 9,312 คน
ต่างก็เป็นบุคคลที่จัดว่าส่วนใหญ่มีชาติตระกูลและความร่ำรวย
สมาชิกคนหนึ่งสามารถให้ภรรยาและลูกเข้ามาใช้สิทธิ์ได้จนกว่าลูกจะมีอายุเต็ม
20 ปีจึงจะต้องสมัครเป็นสมาชิกเต็มตัวโดยอัตโนมัติ โดยจ่ายค่าบำรุงเดือนละ
250 บาทสำหรับคนโสดถ้มีภรรยาก็เพิ่มอีก 50 บาท และลูกเล็กก็เพิ่มอีกคนละ
25 บาท
"กรรมการกำลังจะพิจารณาว่าลูกของสมาชิกที่เป็นก่อนปี พ.ศ. 2523 ได้เป็นสมาชิกโดยอัตโนมัติ
แต่สำหรับลูกของสมาชิกที่เป็นหลักจากปี 2523 เราก็จะจัด CATAGORIES ให้เขาใหม่"
แหล่งข่าวเลาให้ฟัง
ส่วนหนึ่งในสปอร์ตสคลับที่ยังสะทอ้นจากตรีประเพณีโบราณสมัยขุนนางศักดินาอยู่มาก
ๆ ก็คือสุภาพสตรีโสดผู้เป็นสมาชิกประเภท LADIES PRIVILEGES จะถูกกำหนดไม่ให้มีสิทธิ์มีเสียงใด
ๆ ทั้งสิ้น
ถึงกระนั้นสปอร์ตสคลับก็เป็นคนระดับไฮโซไซตี้ ที่อาศัยการพบปะสังสรรค์ส่วนตัวเป็นสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงไปสู่ผลประโยชน์ทางธุรกิจและตำแหน่งหน้าที่ทางการงานไปด้วย
ฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจกับค่านิยมที่เศรษฐีใหม่หลายคนพยายามจะมีหรือเป็นบุคคลในวงสังคมชั้นสูงนี้
จนกระทั่งมี WAITING LIST ยาวเหยียดเป็นผู้ยอมอดทนรอนานนับเป็นเวลา 5-10
ปีเพื่อจะมีสถานภาพสมาชิกในสปอร์ตสคลับ หรือบางคนก็ไม่ง้อด้วยฤทธิ์ร่ำรวยไปตั้งคลับตัวเองก็มี
เช่นโครงการสนามกอล์ฟกรีนวัลเล่ย์ของชันต เรืองกฤตยา
ในปีที่แล้วสปอร์ตสคลับเพิ่งจะเปิดรับสมาชิกใหม่เพิ่มอีก 383 คนเท่านั้นเอง
หลังจากปิดรับสมาชิกใหม่ในเมื่อ 6-7 ปีที่ผ่านมาแต่ก็ยังเหลือ WAITING LIST
อีกประมาณ 600 คน
กว่าจะเป็นสมาชิกได้ ต้องผ่านกฎเหล็กที่ใช้กันมาตั้งแต่โบราณกาลสมัยรัชกาลที่5
แล้ว ระบบกลั่นกรอง (SCREENING RROCESS) นี้กลายเป็นจารีตประเพณีที่ยึดถือกันมานานถึงปัจจุบัน
เพื่อเลือกเฟ้นบุคคลที่มี SOCIAL BACKGROUND ดี
ขั้นตอนแรกต้องหาสมาชิกสามัญสองคนซึ่งเป็นสมาชิกมาไม่ต่ำกว่าหนึ่งปี เป็นคน
PURPOSER แนะนำประวัติชีวิตและการทำงานโดยย่อ ๆ ว่าสมควรเป็นสมาชิกเพราะเหตุใดเขียนยาวมากระดับวิทยานิพนธ์กลาย
ๆ
เมื่อเสร็จขั้นแรกแล้วก็จะมีครับรองหรือที่เรียกว่า SECONDER เป็นผู้ค้ำประกันอีกคน
จกนั้นก็ส่งเอกสารเข้าไปทางคลับออฟฟิสเชียลก็จะรับและจัดตามลำดับก่อนหลังพอถึงคิวซึ่งต้องกินเวลาประมาณ
3-4 ปี ถ้าหากคิวยาวมากทางผู้บริหารสปอร์ตสคลับก็จะระบายไปให้ทางโปโลคลับ
ซึ่งเข้ามาอยู่ในสังกัดเมื่อราว 10 ปีที่แล้ว ดังนั้นโปโลจึงกลายเป็นคลับสำหรับเศรษฐีใหม่ส่วนใหญ่
ปัจจุบันโปโลคลับมีสมาชิก 1,380 คนและมีรายรับค่าสมาชิกใหม่เมื่อปีที่แล้ว
18.2 ล้านบาท
หลังจากอดทนรอนานนับปีจนกระทั่งถึงคิวตัวเองแล้วชื่อก็จะปรากฏขึ้นบน BOOK
งานนี้ไม่จบง่าย ๆ เพียงเท่านั้น ภายในหนึ่งเดือนผู้สมัครจะต้องล่าลายเซ็นของสมาชิกให้ได้
20 ชื่อหรือหาผู้รับรองเป็นสมาชิก 20 คน พร้อมกับกรรมการ 5 คนในกีฬาแต่ละประเภท
ซึ่งขณะนี้สปอร์ตสคลับมีกีฬาอยู่ 21 ประเภท
ความหมายของการหาผู้รับรองมากมายเช่นนี้ก็เพื่อแสงดฐานะและชื่อเสียงตัวเองเป็นที่ยอมรับหรือรู้จักกันดีเพียงใด
แต่ถ้าหาผู้รับรองไม่ได้ครบตามกำหนดก็เป็นอันวาต้องตกกระป๋องไป
หลังจากหาลายเซ็นได้ครบ ทางผู้จัดการสปอร์ตสคลับจะปิดสมุดแล้วเรียกผู้นั้นไปชำระค่าแรกเข้า
(ENTRANCE FEE) ซึ่งเพิ่งขยับราคาเป็น 80,000 บาทจากเดิม 40,000 บาทเมื่อคราวประชมใหญ่เดือนตุลาคมที่ผ่านมานี้เอง
จากนั้นก็ต้องเสียค่าบำรุงล่วงหน้า 6 เดือน
ค่าบำรุงหรือ MEMBERSHIP FEE ของสปอร์ตสคลับค่อนข้างต่ำ สำหรับพวกสมาชิกเก่าที่เป็นก่อนปี
2523 เสียอัตราเก่าเดือนละ 250 บาท แต่สมาชิกหลังจากปี 2523 เสียเดือนละ
1,000 บาท
พอเรียบร้อยในขั้นนี้แล้ว ทางสปอร์ตสคลับก็จะนัดวันสัมภาษณ์ ซึ่งจะจัดเดือนละสองครั้งคือต้นเดือนและปลายเดือนก็ต้องคิวรอกันอีกรอบ
พอถึงวันสัมภาษณ์ ผู้สมัครก็ต้องให้ผู้แนะนำ (PURPOSER) และผู้รับรอง (SECONDER)
เข้าไปแนะนำตัวเองต่อคณะกรรมการอำนวยการทั้ง 12 คน
การสัมภาษณ์ทั้งหมดหรือกรอกข้อความในประวัติทั้งหมดจะใช้ภาษาอังกฤษเป็นมาตรฐาน
การใช้ภาษาอังกฤษจะปรากฏให้ได้ยินและได้เห็นทั่วไปตามป้ายห้ามนำสุนัขเข้า
ห้ามใช้ผ้าเช็คตัวสองผืน หรือในการประชุมจะพูดและบันทึกการประชุมเป็นภาษาอังกฤษด้วย
ทั้งนี้เพราะในยุคแรกของสปอร์คสคลับ เป็นที่ชุมนุมของฝรั่งมังค่าส่วนใหญ่ที่มาค้าขายติดต่อกับไทยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ขณะที่เหล่าพระราชบุตรหรือขุนนางไทยยังอยู่ระหว่างการศึกษาเล่าเรียนในต่างประเทศเพื่อกลับมาบริหารราชการแผ่นดินในเวลาต่อมา
สโมสรนี้จึงเป็นที่สังสรรค์ระหว่างคนไทยและต่างประเทศตามพระบรมราโชบาย
หลังจากผ่านการสัมภาษณ์ฟุดฟิดฟอไฟแล้วคระกรรมการก็จะลงชื่อให้คะแนน่าผ่านหรือไม่ผ่านดดยการหยิบเอาลูกบอลซึ่งมีสีขาวและสีดำจำนวน
12 ลูกมาลงให้ ถ้าหากมีลุกบอกดำเพียงลูกเดียวก็แสดงว่า REJECT ไม่รับจะต้องได้รับคะแนนเป็นลูกบอลขาวล้วนทั้งหมดจึงจะถือว่าผ่านด่านสุดท้ายนี้ไป
เมื่อผ่านการกลั่นกรองเช่นนี้แล้ว ก็จะถูกจัดชั้นอีกครั้งหนึ่งว่ามีสิทธิ์เป้นสมาชิกประเภทที่ไม่มีสิทธิ์โหวตเสียง
(NON-VOTING MEMBER) ที่ทางสปอร์ตสคลับได้อำนวยความสะดวกแก่ชาวต่างประเทศระดับผู้บริหารสูงสุดขององอค์กรสำคัญ
ๆ เช่นเชลล์ เอสโซ่หรือแบงก์ต่างประเทศที่ส่งผู้บริหารมาประจำไทย กลุ่มนี้จะจ่ายค่า
ENTRANCE FEE ปีละ 80,000 ลาท
หรือเป็นสมาชิกอีกประเภทหนึ่งคือ FULL MEMBER ผู้มีสิทธิ์ในการโหวตเสียง
ซึ่งสัดส่วนคนไทยมีถึง 4,490 คนหรือประมาณ 83% ของจำนวนสมาชิกสามัญที่อยู่กรุงเทพ
5,576 คน
แต่เหนือสิ่งอื่นใดความสำคัญของการจะเข้าสปอร์ตสคลับได้ขึ้นอยู่กับว่าคุณได้ำทำไห้เข้าตากรรมการได้มากน้อยแค่ไหนประกอบด้วย
เมื่อได้เข้าแวดวงไฮโซไซตี้ในสปอร์ตสคลับแบบยืดอกได้ความภาคภูมิใจแล้ว
หลายคนคงร้องยี้ว่าไม่เห็นเป็นเหมือนคาดหวังไว้ หรือไม่ก็พอใจกับสุรา นารี
พาชี กีฬาบัตรที่มีเพียบ
อย่างนี้ที่เขาเรียกว่ารสชาติของชีวิตไฮโซไซตี้จริง ๆ