ก่อนจะสิ้นชื่อ... “นครหลวงไทย” ยังมีเวลาสร้างความทรงจำ

โดย สุภัทธา สุขชู
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( พฤษภาคม 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

เป็นที่แน่นอนแล้วว่าภายหลังกระบวนการเข้าซื้อกิจการธนาคารนครหลวงไทยของธนาคารธนชาตแล้วเสร็จ ในปี 2554 เมื่อนั้น ตำนาน "นครหลวงไทย" คงถึงเวลาปิดหน้าสุดท้ายด้วยอายุขัย 70 ปี

นับจากวันนี้ กล่าวได้ว่า ธนาคารนครหลวงไทยยังพอมีเวลาหายใจต่ออีกราวปีกว่า

นั่นก็หมายความว่า ธนาคารแห่งนี้จะได้ฉลองครบรอบปีที่ 69 ในเดือนพฤษภาคมนี้ และอาจพอมีเวลาได้ฉลองครบรอบ 7 ทศวรรษ เป็นวาระสุดท้าย

ธนาคารนครหลวงไทยก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2484 โดยคณะ บุคคลของรัฐบาลร่วมกับสมาชิกในราชวงศ์ ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 1,000,000 บาท

ช่วงวิกฤติทางการเงินครั้งใหญ่ของประเทศไทยในปี 2540 ธนาคารนครหลวง ไทยก็สามารถรอดพ้นการสิ้นชื่อมาได้อย่าง หวุดหวิด เมื่อกระทรวงการคลังและธนาคาร แห่งประเทศไทยมีมติให้แก้ไขปัญหาในระบบธนาคารพาณิชย์ยุคนั้น ด้วยการยุบธนาคารศรีนครเข้ารวมกับธนาคารนคร หลวงไทย ชื่อ "นครหลวงไทย" จึงยังหยัดยืนมาจนวันนี้

แต่ธนาคารนครหลวงไทยก็ต้องพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ธนาคารธนชาตเข้ามาซื้อกิจการ

ธนาคารธนชาตเป็นธนาคารที่มีผู้ถือหุ้นหลักอยู่ 2 กลุ่มคือ บมจ.ทุนธนชาต ที่มีกลุ่มบริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่มเจ้าของธุรกิจมาบุญครองเป็นผู้ถือ หุ้นหลัก ส่วนสโกเทียแบงก์ถือหุ้นในธนาคาร ธนชาตร้อยละ 48.99 โดยเริ่มเข้ามาถือหุ้น ตั้งแต่ปี 2550

ในวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ธนชาต ได้ชำระค่าหุ้นของนครหลวงไทยจำนวน 1,005.3 ล้านหุ้น หรือ 47.58% ของทุนจดทะเบียน ในราคาหุ้นละ 32.50 บาท คิดเป็น 32,673.2 ล้านบาท ให้กับกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งเมื่อรวมกับหุ้นที่ถืออยู่เดิมอีก 19.3% กลุ่ม ธนชาตจึงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ไปโดยปริยาย ด้วยสัดส่วน 66.8%

"การควบรวมกิจการระหว่างกันจะใช้วิธีการโอนสินทรัพย์และหนี้สินของธนาคารนครหลวงไทยมารวมกับธนาคารธนชาต เมื่อเรียบร้อยแล้วจะเลิกกิจการธนาคารนครหลวงไทยและเอาหุ้นออกมาจากตลาดหลักทรัพย์ฯ หลังจากนั้นจะเหลือ ธนาคารธนชาตธนาคารเดียว" บันเทิง ตันติวิวิท ประธานกรรมการธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) กล่าว

จากที่นครหลวงไทยเคยมีสินทรัพย์ มากเป็นอันดับที่ 7 โดยธนชาตรั้งเป็นอันดับ 8 ภายหลังการควบรวมครั้งนี้ ทำให้ธนาคาร ธนชาตจะมีขนาดสินทรัพย์ราว 8 แสนล้าน บาท กลายเป็นธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 ในระบบธนาคารพาณิชย์ไทย ด้วยจำนวนสาขารวมกัน 671 สาขา แต่ก็ยังทิ้งห่างจากอันดับ 4 ที่มีสาขามากกว่า 800 สาขา

หลังการชำระเงินเพื่อซื้อหุ้นจากกองทุนฟื้นฟูฯ ทั้ง 2 ธนาคารได้ร่วมกันจัดตั้งคณะกรรมการบริหารธนาคารนคร หลวงไทยชั่วคราวขึ้นมา 1 ชุด ประกอบด้วยตัวแทนจากนครหลวงไทย 7 คนและผู้บริหารจากธนชาต 6 คน ได้แก่ ปิยะพงศ์ อาจมังกร, นพดล เรืองจินดา, อนุวัติร์ เหลืองทวีกุล, กฤษยาณี รัตนชัยชาญ, สนอง คุ้มนุช และอรรถวุฒิ แดนทอง ทั้งนี้เพื่อให้นโยบายเป็นไปในทิศทางเดียวกันก่อนการควบรวมกิจการ

ระหว่างรอการควบรวมกิจการแล้วเสร็จ ณ วันนี้อาจกล่าวว่า "SCIB Show Still Must Go On" โดยคณะกรรมการชุดชั่วคราวได้มอบหมายให้ชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่ควบคุม "โชว์" นี้ต่อไปจนครบวาระราวกลางปีหน้า

"สำหรับปีนี้ทั้ง 2 ธนาคารต่างก็มีแผนธุรกิจชัดเจนอยู่แล้วก็ต้องดำเนินการให้บรรลุตามนั้น แต่ก็สามารถเปลี่ยนแปลง ได้ถ้าผู้ถือหุ้นใหญ่เห็นว่าสมควรเปลี่ยน แปลง"

ชัยวัฒน์กล่าวทีเล่นทีจริงว่า การแถลงข่าวครั้งนี้หนาวที่สุดในชีวิต ไม่ใช่เพราะหนาวใจจากการควบรวมกิจการ แต่เป็นอากาศหนาวเย็นราว 4-8 องศาของ กรุงโซล โดยเขาบินตามผู้บริหารระดับสูงและทัพนักข่าวมาเกาหลีใต้ทันทีที่เสร็จสิ้น การแถลงข่าวการชำระเงินซื้อหุ้น

ผู้บริหารนครหลวงไทยให้เหตุผลในการนำทีมนักข่าวร่วมครึ่งร้อยชีวิตไปแถลงข่าวไกลถึงแดนกิมจิว่า เพื่อให้นักข่าว สัมผัสกับโปรแกรมทัวร์ที่ลูกค้าเงินฝาก ผู้โชคดีจะได้รับ ซึ่งเป็น 1 ในหลากหลายแคมเปญดูดเงินฝาก เผลอๆ อาจได้ลูกค้า สินเชื่อบุคคลเพิ่มด้วย เพราะโปรแกรมนี้แน่นไปด้วยแหล่งชอปปิ้งขึ้นชื่อของเกาหลี

นอกจากเหตุผลข้างต้น Press Tour ครั้งนี้น่าจะเป็นโอกาสสุดท้ายที่ผู้บริหารของนครหลวงไทยชุดนี้จะได้สร้าง ความทรงจำอันดีในต่างแดนกับสื่อมวลชนด้วยงบประชาสัมพันธ์แบรนด์ที่ยังมีให้ ใช้ได้

วิรัตน์ ธนทรงพล ในฐานะผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส สายธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม 3 แถลงถึงแนวทางการดำเนินงานของธนาคารในปีนี้ว่า ธนาคารมีเป้าหมายเชิงรุก ได้แก่ การเน้นเพิ่มลูกค้าใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทั้งด้านสินเชื่อและเงินฝาก

"ธนาคารมีแผนที่จะลดค่าเฉลี่ยอายุลูกค้าให้ลดลงมาอยู่ที่ระดับประมาณ 36-45 ปี จากปัจจุบันที่อยู่ระดับประมาณ 45 ปี ซึ่งจะช่วยให้เกิดการซื้อผลิตภัณฑ์ระหว่างบริษัทในเครือมากขึ้น โดยปัจจุบันมีอัตรา Cross selling อยู่ที่ 1.45% ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำกว่าธนาคารอื่น" ศักดิ์ชัย ภิญโญวิทยาวงศ์ กล่าวในฐานะผู้จัดการฝ่าย อาวุโส ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์รายย่อย

เพื่อฉลองครบรอบ 69 ปี ในเดือน พฤษภาคมนี้ ธนาคารมีโปรโมชั่นกระตุ้นเงินฝากด้วยการแจกเหรียญครูบาดวงดีให้กับลูกค้า (ในจำนวนจำกัด) ขณะที่เดือน มิถุนายนก็จะมีโครงการระดมเงินฝากผ่านการออกตั๋วแลกเงิน

กิจกรรมทางด้านการตลาดของธนาคารนครหลวงไทยจะยังเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ทว่าแผนธุรกิจในครึ่งปีหลังธนาคารต้องรอปรับแผนให้สอดรับกับธนาคารธนชาต

สำหรับเป้าหมายด้านสินเชื่อ ชัยนันท์ ลภิธนานุวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายผลิตภัณฑ์ลูกค้ารายย่อย ตั้งเป้าเติบโต 6% ในปีนี้ โดยเน้นการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้ารายย่อยและกลุ่ม SMEs ขณะที่สินเชื่อบุคคลตั้งเป้าเติบโต 8%

"ผมถือว่า นครหลวงไทยเป็นแบงก์ "เก๋ากลาง" เพราะมีขนาดกลางและมีอายุถึง 69 ปี ส่วนธนชาตเป็นแบงก์ "เก่งเล็ก" เพราะมีขนาดเล็กอายุแค่ 8 ปี แต่เติบโตรวดเร็ว เมื่อ 2 แบงก์มารวมกัน ผมอยากนิยามว่าเป็นแบงก์ "เก่งใหญ่ใหม่" แม้จะยังไม่ล้มแชมป์อันดับ 4 แต่ก็ไม่ตกชั้นพรีเมียร์ลีก" ชัยวัฒน์กล่าวเป็นการสิ้นสุดการแถลงข่าวครั้งนั้น

ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ชื่อ "นครหลวงไทย" ที่มีมาเกือบ 70 ปี ต้องหายไปจากหัวใจของคนไทยในเวลาอันรวดเร็ว ว่าที่จอมทัพคนสุดท้ายของธนาคารนครหลวงไทยจึงทุ่มงบประชาสัมพันธ์อีกไม่น้อยเป็นค่าแต่งบ้านใหม่ให้กับหมีแพนด้า สวนสัตว์ จังหวัดเชียงใหม่ และเป็นค่าจัดสร้าง "พระเศรษฐี นวโกฏ ธนาคารนครหลวงไทย" กว่า 5 หมื่นองค์เพื่อให้ประชาชนเช่าบูชา เป็นการทิ้งทวน

งานนี้ก็คงจะพอหวังผลได้บ้างไม่มากก็น้อย เพราะทั้งแพนด้าและพระเศรษฐีนวโกฏิล้วนอยู่ในกระแสความสนใจของคนไทยส่วนใหญ่


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.