|
ชาลอต โทณวณิก: “All I do...is quit”
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( พฤษภาคม 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
"การทำงานในฐานะผู้บริหารมืออาชีพจะต้องไม่ยึดติดกับลาภยศสรรเสริญหรือหลงใหลในความสำเร็จ จึงอยากจะเลือกทางเดินเองว่าจะขอไปทำงานที่เป็นของตัวเอง เกรงใจคุณสุรางค์ (คุณแดง) มากเพราะถูกมองว่าจะมาแทนที่ ถูกหาว่ามีปัญหากับคุณแดงมาโดยตลอด...การลาออกของดิฉันก็พิสูจน์ว่า ดิฉันไม่ได้มีความคิดอยากจะเป็น "เจ้าแม่" ใดๆ หรือแทนที่ใครตามที่ถูกจับตาและปฏิเสธมาตลอด (แต่ไม่ค่อยมีใครเชื่อ)"
ข้างต้นเป็นข้อความเปิดใจเรื่องการลาออกจากเก้าอี้ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท มีเดีย สตูดิโอ จำกัด ของชาลอต โทณวณิก ซึ่งทยอยปรากฏบนหน้าทวีตเตอร์ของเธอ เมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา ก่อนหน้าการแถลงข่าวเรื่องเดียวกันนี้ไม่นาน
แม้ว่าข่าวการยื่นใบลาออกของเธอจะมีมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ แต่หลังจากนั้นเธอก็ไม่ยอมปริปากยอมรับหรือปฏิเสธ ถึงขนาดสรรหามุกมาใช้ปลีกตัวเพื่อหลบเลี่ยงการตอบคำถามนักข่าวในงานแถลงที่มีเดียฯ กับเอไอเอสเป็นเจ้าภาพ แล้วจึงส่งข้อความไปขอโทษที่ต้องฝ่าวงล้อมนักข่าวออกมาโดยไม่ลา
ไม่ว่าจะเกี่ยวกันหรือไม่ ช่วงเวลาไล่เลี่ยกับข่าวลือที่ว่า ผู้บริหารช่อง 7 อนุมัติใบลาออกของเธอแล้วก็ถูกนำมาผูกโยงอย่างเป็นเหตุเป็นผลกับข่าวการเข้าโรงพยาบาลของเธอ
ความอึดอัดจากการที่ไม่สามารถตอบคำถามนักข่าว ซ้ำยังต้องหนีหน้าอย่างหนัก ไม่ใช่วิสัยปกติของชาลอต เพราะครั้งที่เธอยังอยู่กับแบงก์กรุงศรีฯ และควบตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการตลาดให้กับช่อง 7 ยามนั้น เธอออกหน้าให้ข่าวกับสื่อมวลชนบ่อยราวกับควบเก้าอี้โฆษกช่อง 7 อีกตำแหน่ง
งานแถลงข่าวจัดขึ้น ณ เมเจอร์รัชโยธิน โดยใช้ชื่องานเก๋ไก๋ว่า All I Say...All I Do โดยประเด็นที่นักข่าวสนใจไม่ใช่การประกาศลาออก แต่เป็นการเปิดใจถึงสาเหตุที่แท้จริงและก้าวต่อไปจากนี้
ชาลอตเกริ่นนำว่า ใบลาออกของเธอเขียนขึ้นด้วยความสมัครใจ ยื่นไว้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และมีผลตั้งแต่วันที่ 30 เมษายน นี้
"ในระยะเวลาไม่ใช่แค่ 3 ปี แต่จริงๆ 7 ปี ที่ได้ทำงานร่วมกับช่อง 7 มาตั้งแต่อยู่แบงก์กรุงศรีฯ ก็เคยเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดช่อง 7 คือไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน พี่ก็เกรงใจคุณแดงมากๆ เพราะทุกคนจะมองว่าพี่จะไปแทนคุณแดง จะไปเป็นเจ้าแม่ มีความขัดแย้งกัน ไม่ถูกกัน เรื่องเหล่านี้ไม่เคยมี แต่บางครั้งอาจจะมีบ้างที่นโยบายที่บอร์ดวางมา กับที่เราต้องการอยากให้เป็นไป มันไม่ไปด้วยกัน พอถึงจุดนี้ก็มองว่า เราน่าจะมอบลูกให้เขาไป แล้วเราเองก็ไปทำด้านอื่น"
ในที่สุด ชาลอตก็ยอมเปิดใจ หลังจากที่ถูกสื่อมวลชนถามบ่อยครั้งว่า "ลาออกเพราะมีปัญหาขัดแย้งกับสุรางค์ เปรมปรีดิ์ (คุณแดง) หรือไม่?"
พร้อมกันนี้ เธอยังปฏิเสธว่า การลาออกครั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวกับผลการดำเนินงานที่อาจไม่เป็นไปความคาดหมายของบอร์ด เพราะตลอด 3 ปีที่ดำรงตำแหน่ง CEO รายได้ของรายการที่มีเดียฯ ผลิตเติบโตต่อเนื่อง โดยปี 2550 มีรายได้ 676 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2549 ซึ่งมีรายได้ 607 ล้านบาท ขณะที่ปี 2551 รายได้เพิ่มเป็น 742 ล้านบาท และปีที่ผ่านมามีรายได้ถึง 843 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี หลังจากออกจากรั้ว 7 สี ชาลอตตั้งใจจะเปิด บริษัทที่ปรึกษาเล็กๆ รับปรึกษาธุรกิจด้านการเงิน การตลาด และธุรกิจบันเทิง ดูเหมือนว่า ก้าวต่อไปของชาลอตก็ยังคงดำเนินไปบนเส้นทางชีวิตที่เธอหวังไว้ตั้งแต่วันที่เดินออกจากแบงก์กรุงศรีฯ เข้าสู่ถนนสายบันเทิงใหม่ๆ เพียงแต่แผนนี้มาเร็วกว่ากำหนดเกือบ 7 ปี เพราะเธอเคยหวังว่าจะเปิดบริษัทของตัวเองเมื่อวัยเกษียณหรือหลังจาก 10 ปีที่มีความสุขกับมีเดียฯ
เสร็จภารกิจแถลงข่าว ชาลอตเข้ามาบรรยายความรู้สึกและตอบข้อความที่ผู้ให้กำลังใจส่งผ่านหน้าทวีตเตอร์อย่างต่อเนื่อง จนล่วงมาถึงวันที่ 30 เมษายน
วันที่เธอประกาศบนทวีตภพว่า เป็นวันสิ้นสุดชีวิตการเป็นลูกจ้าง มุ่งไปข้างหน้า จะมองหลังก็คือมองลูกน้องว่าสุขสบายกันดีหรือไม่ ...และอยากเดินจากมาด้วยเสียงหัวเราะรอยยิ้มมากกว่าน้ำตา
พร้อมกับข้อความส่งถึงผู้ให้กำลังใจเธอว่า "It's life but not end of world!"
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|