|
การบินไทยปรับแผนการตลาด
ASTVผู้จัดการรายวัน(5 พฤษภาคม 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
การบินไทยปรับแผนการตลาดสู้วิกฤติการเมืองในประเทศยืดเยื้อ หลัง 47 ประเทศเตือนนักท่องเที่ยวเข้าไทย และเป็นช่วงLow Season เล็งเปลี่ยนขนาดเครื่องบินให้เหมาะสมกับจำนวนผู้โดยสาร และเน้นใช้ไทยเป็นจุดเปลี่ยนเครื่อง เผยเม.ย. Cabin Factor เฉลี่ย 72.16 % ขณะที่เดือนพ.ค. 2553 มียอดจองประมาณ 52% เท่านั้น ตั้งเป้าปรับแผนดัน Cabin Factor ที่ระดับ 70%
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดที่ประเทศไอซ์แลนด์ จนทำให้ประเทศยุโปรประกาศปิดน่านฟ้า และสถานการณ์ความไม่สงบทางการเมืองภายในประเทศ ทำให้ 47 ประเทศ ออก Travel Warning เตือนนักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงการเดินทางมาประเทศไทย ทำให้ผู้โดยสารยกเลิกการเดินทาง ประกอบกับในช่วงเดือนพ.ค.–มิ.ย.ของทุกปีจะเป็นช่วง Low Season ซึ่งการเดินทางจะน้อยลง ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับภาวะในปัจจุบัน บริษัทจึงได้ปรับแผนการตลาด เพื่อลดความเสี่ยงในการพึ่งพาจุดบินใดจุดบินหนึ่งมาเป็นการกระจายความเสี่ยงไปในหลายจุด ซึ่งจะทำให้การบินไทยมีความเข้มแข้งในระยะยาว
ทั้งนี้ ในช่วงเดือนเม.ย.2553 ปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (Cabin Factor) เฉลี่ย 72.16 % ขณะที่เดือนพ.ค. 2553 มียอดจองประมาณ 52% เท่านั้น ซึ่งเป็นผลมาจากความไม่สงบทางการเมืองของไทย ดังนั้นการปรับแผนการตลาดก็เพื่อรักษาระดับ Cabin Factor ช่วง Low Season ไว้ที่ 70% และคาดว่าหากภายใน 1-2 วันนี้ สถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศยุติ Cabin Factor จะดีขึ้นอีก และจะส่งผลให้ช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้จะดีขึ้นไปอีก
“หลักการนอกจากปรับลดเที่ยวบิน เปลี่ยนแบบเครื่องบินให้สอดคล้องกับความต้องการเดินทางแล้ว ยังจะช่วยในกรณีที่หลายประเทศเตือนนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทย มาเป็นการใช้ประเทศไทยสำหรับเปลี่ยนเครื่องบินไปยังปลายทางอื่นแทน” นายปิยสวัสดิ์กล่าว
นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ การบินไทย กล่าวว่า แผนการตลาดที่ปรับใหม่ ประกอบด้วย ปรับลดความถี่และเปลี่ยนแบบเครื่องบิน เส้นทางกรุงเทพ-เอเธนส์ (ไป-กลับ) จากเดิม 4 เที่ยวต่อสัปดาห์ ด้วยเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-300 เหลือ ทำการบิน 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ด้วยเครื่องบิน แบบโบอิ้ง 777-200 ER เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. 2553 เป็นต้นไป
เส้นทางกรุงเทพ-มุมไบ (ไบ-กลับ) ปรับลดเที่ยวบินจาก 10 เที่ยวต่อสัปดาห์ เหลือ 7 เที่ยวต่อสัปดาห์ พร้อมทั้งปรับแบบเครื่องบินให้มีขนาดใหญ่ขึ้นโดยใช้เครื่องโบอิ้ง777-300 แทนเครื่องโบอิ้ง 777-200 ,กรุงเทพฯเดลี(ไป-กลับ) เปลี่ยนขนาดเครื่องบินให้มีขนาดเล็กลงจากเดิมใช้ เครื่องโบอิ้ง 777-300 เปลี่ยนเป็น 777-200 แทน ทั้ง 23 เส้นทางเริ่มตั้งวันที่ 16 พ.ค. 2553 เป็นต้นไป
นอกจากนั้น เส้นทาง กรุงเทพ-ดูไบ(ไป-กลับ) ก็เปลี่ยนขนาดเครื่องบินให้มีขนาดเล็กลงจากเดิมใช้ 340-600 เป็น 777-200 แทน
ส่วนการปรับเปลี่ยนเที่ยวบินโดยใช้กรุงเทพฯ เป็นทางผ่านแทนนั้น นายโชคชัยกล่าวว่า จะเน้นเครือข่ายเส้นทางการบินระหว่างจาการ์ต้า-ยุโรป ผ่านกรุงเทพฯ โดยเพิ่มเที่ยวบินอีก 7 เที่ยวบิน รวมเป็น 14 เที่ยวบิน ต่อสัปดาห์ โดยให้เดินทางถึงกรุงเทพฯ ในเวลาที่สามารถต่อเครื่องไปยุโรปโดยที่ไม่ต้องรอนาน
นอกจากนี้ ยังจะมุ่งเน้นเป็นเครื่องข่ายการบินระหว่างยุโรป-บาหลี ผ่านกรุงเทพฯ โดยปรับเวลาและเปลี่ยนแปลงแบบของเครื่องบิน รวมถึงปรับเวลาให้ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เร็วขึ้นเพื่อให้สามารถรับผู้โดยสารจากยุโรปได้ดี และยกเลิกเที่ยวบินกรุงเทพฯ-ซิดนีย์-บริสเบน-กรุงเทพฯ เป็นการชั่วคราว เพิ่มการบินเส้นทางไป-กลับ บินตรงกรุงเทพฯ-บริสเบน จาก 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เป็น 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์และเพิ่มเที่ยวบินจากเส้นทางกรุงเทพฯ-โอ๊คแลนด์ จาก 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เป็น 5 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2553
ขณะเดียวกัน การบินไทยยังได้จัดโปรโมชั่นจำหน่ายบัตรโดยสารราคาพิเศษในเส้นทางไป-กลับภายในประเทศ ชั้นธุรกิจ และชั้นประหยัด ใน 11 เส้นทางทั่วประเทศ โดยออกบัตรโดยสารได้ตั้งแต่วันที่ 1-31 พ.ค. 2553 และสามารถใช้บัตรโดยสารได้ระหว่างวันที่ 1พ.ค.–30 มิ.ย. 2553
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|