ยืดเวลาGSTEEL-GJSอีกรอบ


ASTVผู้จัดการรายวัน(27 เมษายน 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. แจ้งว่า ตามที่ได้สั่งให้ GSTEEL และ GJS จัดให้มีผู้สอบบัญชีตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) ในรายการที่มีความคลุมเครือไม่ชัดเจน โดยให้นำส่งรายงานการตรวจสอบกรณีพิเศษต่อ ก.ล.ต. ภายในวันที่ 1 มีนาคม 53 และบริษัททั้งสองได้ขอขยายระยะเวลาการนำส่งรายงานดังกล่าวเป็นภายในวันที่ 7 เมษายน 53 เพื่อให้ผู้สอบบัญชีมีระยะเวลาในการตรวจสอบอย่างเพียงพอ และ ก.ล.ต. ได้ขยายระยะเวลาให้ตามที่บริษัทขอมานั้น

ต่อมาเมื่อวันที่ 7 และ 9 เมษายน 53 GSTEEL และ GJS ได้มีหนังสือแจ้ง ก.ล.ต. ขอขยายระยะเวลาการนำส่งรายงานข้างต้นอีกครั้ง เป็นภายในวันที่ 7 พฤษภาคม 53 เนื่องจากเกิดความล่าช้าในการได้รับหนังสือยืนยันข้อมูลสำคัญจากคู่ค้าของบริษัททั้งสองในต่างประเทศ โดยผู้สอบบัญชีเพิ่งได้รับข้อมูลดังกล่าวเมื่อวันที่ 8 เมษายน 53 และปัจจุบันอยู่ระหว่างการจัดทำรายงานโดยจะนำส่งให้บริษัททั้งสองได้ภายในวันที่ 30 เมษายน 53 ซึ่ง

ก.ล.ต. พิจารณาแล้ว จึงขยายระยะเวลาการนำส่งรายงานดังกล่าวตามที่บริษัทขอมา

นอกจากนี้ ก.ล.ต.ยังแจ้งถึงรายงานการเปรียบเทียบ โดยคณะกรรมการเปรียบเทียบสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ได้มีคำสั่งเปรียบเทียบปรับ ในช่วง4 เดือนแรกปีนี้ จำนวน 39 ข้อหา จำนวน 25 ราย รวมมูลค่าเปรียบเทียบปรับ 7.11 ล้านบาท โดยผู้ที่ถูกเปรียบเทียบปรับมูลค่าสูงสุดคือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สามประสิทธิ์ 2 ข้อหามูลค่ารวม 1.22 ล้านบาท เนื่องจาก เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 52 นายจักร จามิกรณ์ ได้ร่วมกันกับ ห้างหุ้นส่วนจำกัด สามประสิทธิ์ และนายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล ซื้อหุ้นบริษัท วินโคสท์ อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด (มหาชน)หรือ WIN เพื่อ หจก. สามประสิทธิ์

ทั้งนี้ ทำให้ หจก. สามประสิทธิ์ ถือหุ้น WIN รวม 162.50 ล้านหุ้น คิดเป็น 33.14 %ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของกิจการ โดยไม่ได้ยื่นประกาศเจตนาในการเข้าถือหลักทรัพย์เพื่อครอบงำกิจการตามแบบ 247-3 และไม่ได้จัดทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของกิจการตามแบบ 247-4 ภายในระยะเวลาที่กำหนด อันเป็นการปฏิบัติฝ่าฝืนมาตรา 247 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยต่อมาเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 52 หจก. สามประสิทธิ์ ได้ลดสัดส่วนการถือหุ้น WIN ลงจนทำให้ถือครองหุ้น WIN ต่ำกว่า 25% จึงสั่งปรับ 757,000 บาท

สำหรับอีกกรณีคือ หจก. สามประสิทธิ์ไม่ได้รายงานการได้มาและจำหน่ายซึ่งหุ้นWIN ที่ถูกต้องครบถ้วนในระยะเวลาที่กำหนดรวม 2กรณี จึงสั่งปรับอีก 467,700 บาท คือ 2 กรณีคือกรณีเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 50 หจก. สามประสิทธิ์ ได้มาซึ่งหุ้น WIN ที่ถือครองในบัญชีหลักทรัพย์ของตนเองและผ่านบัญชีหลักทรัพย์ของบุคคลอื่นรวม 162.50 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 33.14% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของ WIN หจก. สามประสิทธิ์ จึงมีหน้าที่ต้องยื่นรายงานการได้มาซึ่งหุ้นดังกล่าวภายในวันทำการถัดจากวันที่ได้มาซึ่งหุ้นดังกล่าว แต่ หจก. สามประสิทธิ์ รายงานแสดงการได้มาซึ่งหุ้น WIN ดังกล่าวตามแบบ 246-2 เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 50 โดยไม่ได้นำหุ้นที่ถือในชื่อของบุคคลอื่นมารายงานด้วย โดยได้ยื่นรายงานตามแบบ 246-2 ที่ถูกต้องต่อสำนักงานเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 52 จึงเป็นการยื่นรายงานการได้มาตามแบบ 246-2 ฉบับที่ครบถ้วนถูกต้องล่าช้า

กรณี 2 เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 52 หจก. สามประสิทธิ์ จำหน่ายไปซึ่งหุ้น WIN จำนวน 38 ล้านหุ้น คิดเป็น 7.75 % เป็นผลทำให้หุ้น WIN ที่ หจก. สามประสิทธิ์ ถือครองอยู่ลดลงจากเดิม 32.50% คงเหลือ 24.75 % อันเป็นการลดลงผ่านจุดร้อยละยี่สิบห้าของจำนวนสิทธิออกเสียงทั้งหมดของ WIN หจก. สามประสิทธิ์ จึงมีหน้าที่ต้องรายงานการจำหน่ายไปซึ่งหุ้นดังกล่าวตามแบบ 246-2 ต่อสำนักงานภายในสามวันทำการนับแต่วันที่จำหน่ายไป แต่ หจก. สามประสิทธิ์ มิได้รายงานการจำหน่ายไปซึ่งหุ้นดังกล่าวตามแบบ 246-2 ต่อสำนักงานภายในกำหนด โดยได้รายงานตามแบบ 246-2 เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 52 จึงเป็นการยื่นรายงานล่าช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนด นอกจากนี้สั่งปรับนายจักร จามิกรณ์ และนายสรยุทธ เพ็ชรตระกูล รายละ 504,668.77 บาท ฐานสนับสนุนการกระทำของ หจก.สามประสิทธิ์


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.