จากแอนเดอร์เซ่น คอนซัลติ้งกลายเป็นเอคเซนเชอร์ ไม่ใช่แค่เปลี่ยนชื่อ แต่ต้องการให้ตลาดรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เกิดขึ้น
การพัฒนาการใหม่ๆ ให้เป็นไปตามกระแสโลก ที่สำคัญชี้ให้เห็นถึงความต่างระหว่างแอนเดอร์เซ่น
คอนซัลติ้ง กับอาร์เธอร์ แอนเดอร์เซ่น
นับจากวันแรกของศตวรรษที่ 21 เป็นต้นไป ชื่อแอนเดอร์เซ่น คอนซัลติ้ง ยักษ์ใหญ่แห่งวงการธุรกิจที่ปรึกษาจะถูกลบทิ้งไป
เหลือไว้แค่ความทรงจำ เมื่อตัดสินใจเปลี่ยนชื่อเป็นเอคเซนเชอร์ (Accenture)
"ธุรกิจของคุณรู้ว่าพวกเราได้เปลี่ยนชื่อใหม่แล้ว นี่คือความภูมิใจและความกระตือรือร้นอันยิ่งใหญ่
และผมอยากให้พวกคุณมีส่วนร่วมอันแสนตื่นเต้นกับพวกเรา" โจ ฟอร์แฮนด์ ซีอีโอแห่ง
เอคเซนเชอร์กล่าว
ปัจจัยการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ของเอคเซนเชอร์ คือ ความมุ่งมั่นสู่อนาคต
(Accent on the future) เป็นการพยายามปรับทิศทางองค์กรก่อนจะกำหนด ตัวเองเป็นผู้นำทางด้านธุรกิจที่ปรึกษา
"เรา จะสร้างและดำเนินงานภายใต้เศรษฐกิจยุคใหม่" ฟอร์แฮนด์บอก
กลยุทธ์ของเอคเซนเชอร์ที่จะนำมาให้ลูกค้าและพาร์ตเนอร์ คือ การขยายช่องทางการบริการในธุรกิจที่ตนเองถนัด
ได้แก่ ธุรกิจที่ปรึกษา เทคโนโลยี การรับดำเนินการ outsourcing การเข้าร่วมดำเนินธุรกิจในบริษัทร่วมทุน
และการเข้า เป็นพันธมิตรและลงทุนในกลุ่มบริษัทเวนเจอร์ แคปปิตอล
"ในภาวะเศรษฐกิจยุคใหม่ ผู้ดำเนินธุรกิจต้องการมากกว่าคำแนะนำ พวกเขาต้องการกลยุทธ์ในการแก้ปัญหาอย่างเต็มรูปแบบ"
ลีนา เมธีดล กรรมการ ผู้จัดการเอคเซนเชอร์ ประจำประเทศไทย กล่าว
บริษัทเข้าใจดีว่าในโลกธุรกิจยุคใหม่นี้ ทุกๆ บริษัทต่างอยากเห็นมูลค่าหุ้น
ของบริษัทของตนเองสูงขึ้น และไม่มีบริษัทใดสามารถที่จะมาเสียเวลากับการรับภาระธุรกรรมประจำวันได้อีกต่อไป
โดยจะสานต่อความเป็นผู้นำในด้านธุรกิจ ของแอนเดอร์เซ่น คอนซัลติ้งต่อไป ด้วยการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจและการลงทุน
ในบริษัทดอทคอมจำนวน 140 บริษัท
"เรามีจุดยืนขององค์กรเพราะว่าในตลาด สิ่งแวดล้อม ระบบเศรษฐกิจการ ดำเนินธุรกิจได้เปลี่ยนไป
และก็ต้องปรับตนเองเพื่อที่จะให้รองรับ ตอบสนองความ ต้องการตลาด เรามีการกำหนดกลยุทธ์ขึ้น
มาใหม่ จะเห็นว่าเราไม่มีเฉพาะธุรกิจที่ปรึกษา เพราะเราจะไม่เป็นบริษัทที่ปรึกษา
อย่างเดียว" ลีนาบอก
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การเปลี่ยนชื่ออย่างเดียว แต่เอคเซนเชอร์ได้ปรับเปลี่ยนองค์กรใหม่ด้วยการพยายามเปลี่ยนเพื่อให้เข้ากับความต้อง
การของตลาด ในแง่ของโซลูชั่นต่างๆ เพื่อ ตอบสนองให้กับลูกค้า โดยต้องการจะปรับเปลี่ยนตัวเองในแง่วิธีการดำเนินธุรกิจ
ที่จะให้บริการลูกค้าเพื่อที่จะรองรับการเปลี่ยนแปลงในตลาดได้
"เราต้องการมุ่งเน้นในการที่จะ create alliance ทำเป็น market al-liance
หรือ business alliance กับบริษัทคู่ค้าที่จะมาสนับสนุนซึ่งกันและกัน กับกิจการที่เราจะดำเนินธุรกิจ
และจะต้อง สร้างสรรค์บริษัทใหม่ เรียกว่า operating company คือ มุ่งเน้นที่จะสร้างบริษัทหลายๆ
แห่งขึ้นมา และบริษัทเหล่านี้อาจจะมีลักษณะต่างกัน แต่สามารถให้บริการ ลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์"
สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เอคเซนเชอร์ประกาศว่าจะสามารถทำให้ตัวเองเติบโตได้เร็ว