|
'ธนชาต'ฟุ้งสินเชื่อโต3%
ASTVผู้จัดการรายวัน(19 เมษายน 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
"ทุนธนชาต"ฟุ้งสินเชื่อรวมไตรมาสแรกโต 3% รับอานิสงส์ยอดขายรถยนต์พุ่ง พร้อมเน้นขยายธุรกิจบัตรเครดิตเพิ่ม ลั่นหลังควบรวมสคิบปรับสัดส่วนสินเชื่อรวมเป็นรายใหญ่-เอสเอ็มอี 50%-เช่าซื้อ50%
นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัททุนธนชาต จำกัด (มหาชน) (TCAP) เปิดเผยว่า การเติบโตสินเชื่อรวมในไตรมาส 1 ของ 2553 ที่ผ่านมาของบริษัททุนธนชาตมีการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปลายปี 2552 ประมาณ 3% ซึ่งเป็นการเติบโตตามการฟื้นตัวของยอดจำหน่ายรถยนต์ รวมทั้งภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวมากขึ้น
โดยสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในไตรมาส 1 นั้น มีการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 4% จากปลายปีที่แล้วหรือปล่อยสินเชื่อได้ประมาณ 8,000 – 10,000 ล้านบาท โดยในช่วงปลายปีที่แล้วฐานสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของบริษัททุนธนชาตซึ่งอยู่ที่ 2.06 แสนล้านบาท แต่ในช่วงเดือน มี.ค. 2553 ฐานสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ปรับเพิ่มขึ้นมาเกือบระดับ 3 แสนล้านบาท
ทั้งนี้ ในปีนี้บริษัททุนธนชาตจะยังคงให้ความสำคัญกับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เป็นหลัก โดยตั้งเป้าหมายรักษาอันดับหนึ่งของธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ในปีนี้ให้ได้ เนื่องจากปัจจุบันการแข่งขันทางด้านสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มีความรุนแรงมากขึ้นหลังจากที่ธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่เริ่มหันมารุกสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มากขึ้น
"ยังไงเราก็ต้องให้ความสำคัญกับสินเชื่อรถยนต์มากที่สุด เพราะเป็นธุรกิจหลักของเรา และเราจะต้องรักษาความเป็นเบอร์หนึ่งของเราให้ได้ แม้การแข่งขันจะมีความรุนแรงและคู่แข่งจะเป็นแบงก์ขนาดใหญ่ แต่เราคงไม่ยอมเสียความเป็นเบอร์หนึ่งให้ใครง่ายๆ" นายสมเจตน์ กล่าว
นอกจากนี้บริษัททุนธนชาตจะเน้นธุรกิจทางด้านบัตรเครดิตเพิ่มมากขึ้นในปีนี้ โดยเป้าหมายหลักของธุรกิจบัตรเครดิตคือการนำเสนอแคมเปญต่างๆที่จะสามารถเป็นตัวกระตุ้นให้ลูกค้ามีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตให้มากที่สุด ทั้งในเรื่องของการซื้อสินค้าหรือชำระค่าบริการต่างๆ
ในส่วนของสินเชื่อรายใหญ่และสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี)ในปีนี้บริษัททุนธนชาต ก็จะหันมาให้ความสำคัญมากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากปัจจุบันสภาพคล่องของบริษัททุนธนชาตอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูง ซึ่งทำให้สามารถเข้าไปในกลุ่มลูกค้าสินเชื่อรายใหญ่และสินเชื่อเอสเอ็มอีได้มากขึ้น โดยปัจจุบันฐานสินเชื่อรายใหญ่และสินเชื่อเอสเอ็มอีของบริษัททุนธนชาตอยู่ที่ประมาณ 7.6 หมื่นล้านบาท
โดยปัจจุบันสัดส่วนสินเชื่อรวมของบริษัททุนธนชาตแบ่งเป็นสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 74% ของฐานสินเชื่อรวม สินเชื่อรายใหญ่ 20% และสินเชื่อรายย่อยอีกประมาณ 6-7% แต่หลังจากการซื้อกิจการของธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) (SCIB) เสร็จเรียบร้อยแล้วนั้นบริษัททุนธนชาตจะปรับลดสัดส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ลงมาเหลือ 50% และอีก 50% จะเป็นสินเชื่อรายใหญ่และสินเชื่อเอสเอ็มอี
"หลังจากควบรวมกับธนาคารนครหลวงไทยแล้ว เราคงต้องปรับสัดส่วนสินเชื่อใหม่ เพราะฐานสินเชื่อส่วนใหญ่ของธนาคารนครหลวงไทยจะเป็นสินเชื่อรายใหญ่กับสินเชื่อเอสเอ็มอี แต่ของเราจะเป็นสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งเมื่อควบรวมกันแล้วสัดส่วนสินเชื่อของเราคงจะเป็นรถยนต์ 50% และรายใหญ่กับเอสเอ็มอี 50%" นายสมเจตน์ กล่าว
สำหรับเป้าหมายหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในปีนี้นั้นคาดว่าเอ็นพีแอลจะมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีที่แล้วซึ่งเอ็นพีแอลอยู่ที่ระดับ 2.49% ซึ่งในปีนี้ บริษัททุนธนชาตตั้งเป้าหมายเอ็นพีแอลไว้ที่ระดับ 2.6-2.7%
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|