|
ADVANC คืนชีพทะยานเหนือวันยึดทรัพย์ สร้างกำไรมหาศาล - เชื่อทักษิณยังถือเพียบ
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(12 เมษายน 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
จับตาหุ้น ADVANC สบช่องทุบหุ้นช่วงตัดสินคดียึดทรัพย์ พร้อมสวมรอยต่างชาติดันหุ้นขึ้นจนถึง 90 บาท พร้อมถือต่อกินปันผลอีกต่อ หากจับจังหวะให้ดีกินส่วนต่างกว่า 32 บาทต่อหุ้น คาดทักษิณยังถือหุ้นใน ADVANC เหตุรับเงินสดทุกวัน ส่วนแบ่งการตลาดเหนือเจ้าอื่น เงินอุดหนุมผู้ชุมนุมเสื้อแดงไม่ใช่ปัญหาหากเลือกช่องทางนี้
ท่ามกลางการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่เรียกร้องรัฐบาลให้ยุบสภา หลังจากที่ทราบคำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ที่ตัดสินคดียึดทรัพย์ของทักษิณ ชินวัตร จำนวน 4.6 หมื่นล้านบาทเมื่อ 26 กุมภาพันธ์ 2553
ผลของคำตัดสินดังกล่าวได้ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เริ่มปรับลดลงจากราคา 88 บาทในวันที่มีการตัดสินคดี เนื่องจากเกรงกันว่าความผิดของทักษิณ ชินวัตร ในฐานะนายกรัฐมนตรีขณะนั้นจะส่งผลให้มีการตรวจสอบเพิ่มเติม ย่อมอาจส่งผลกระทบต่อกิจการและราคาหุ้นของ ADVANC จนราคาปรับลดลงมาที่ 76.75 บาทเมื่อ 5 มีนาคม 2553
จากนั้นราคาหุ้นได้เริ่มปรับตัวขึ้นตามแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศที่เข้า มาซื้ออย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการนัดชุมนุมใหญ่ตั้งแต่ 12 มีนาคมเป็นต้นมา จนดัชนีตลาดหลักทรัพย์ปรับเพิ่มขึ้นเหนือ 800 จุด และราคาหุ้น ADVANC ได้ปรับเพิ่มขึ้นจนมาปิดตลาดที่ 90 บาทเมื่อ 5 เมษายน นับว่าเป็นการแกว่งตัว
ช่วงของราคาที่ปรับลดลงจาก 88 บาทถึง 76.75 บาท ปรับลดลงไป 11.25 บาท จากนั้นราคาหุ้นได้ปรับขึ้นไปที่ 90 บาทหรือเพิ่มขึ้น 13.25 บาท หากใครสามารถจับจังหวะของราคาหุ้นให้ดีจะสามารถทำกำไรได้ถึง 24.50 บาท ราคาปิดเมื่อวันที่ 5 เมษายนถือว่าเป็นราคาที่ปรับสูงจากวันที่มีการตัดสินคดี
เรื่องของช่วงจังหวะดังกล่าวไม่มีใครตอบได้ว่าใครจะได้ประโยชน์จากส่วนนี้ไป บ้าง แต่สิ่งที่เราได้เห็นนั่นคือเรื่องของช่วงราคาที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้ อย่างเป็นกอบเป็นกำ ราคาหุ้นที่สวิงขึ้นเท่ากับผลของคำตัดสินของศาลไม่ได้สร้างผลกระทบในเชิงลบ ต่อหุ้นของ ADVANC แถมกลับสร้างผลตอบแทนได้มากกว่าเดิม
สวมรอยแรงซื้อต่างชาติ
แม้ว่าในช่วงแรกหลังคำตัดสินที่ราคาหุ้นตัวนี้ปรับลดลงนั้น เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของภาครัฐได้ออกมาเตรียมที่จะดำเนินการตรวจ สอบเพิ่มเติม แต่หลังจากนั้นเมื่อสถานการณ์ทางการเมืองเริ่มแรงขึ้น เรื่องการตรวจสอบก็เงียบไป ขณะที่หุ้น ADVANC ถือว่าเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่นักลงทุนต่างประเทศต้องการลงทุน เมื่อมีแรงโถมซื้อเข้ามาในหุ้นขนาดใหญ่ หุ้นตัวนี้จึงปรับขึ้นตามแรงซื้อที่โถมเข้ามา
นักลงทุนต่างประเทศที่ซื้อเข้ามาในช่วงนี้ คงไม่สามารถแยกได้ว่าเป็นนักลงทุนกลุ่มใด หากกลุ่มทุนการเมืองของไทยที่เปิดพอร์ตการลงทุนในต่างประเทศไว้แล้วส่งคำ สั่งซื้อหรือขายเข้ามาก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ แถมยังไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากเป็นเงินที่มาจากต่างประเทศ
นอกจากนี้หุ้น ADVANC ยังจะมีรายการจ่ายเงินปันผลอีกหุ้นละ 8.30 บาท โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 12 เมษายนนี้ และจะมีการจ่ายเงินปันผลในวันที่ 30 เมษายนนี้ หากใครสามารถที่จะเก็บส่วนต่างของราคาหุ้น ADVANC ที่ปรับลดลงจนถึงราคาที่ปรับขึ้นไปถึงระดับ 90 บาทแล้วถือเพื่อรอรับเงินปันผลอีก ผลตอบแทนจากการลงทุนในครั้งนี้น่าจะได้รับราว 32.80 บาทต่อหุ้น
ในกรณีนี้ถ้าเครือข่ายคุณทักษิณ ใช้ช่วงจังหวะของราคาหุ้น ADVANC หาทุนเพื่อการเคลื่อนไหวเพื่อการชุมนุมก็สามารถทำได้ไม่ยากนัก ส่วนจะได้มากน้อยเพียงใดคงต้องขึ้นกับจำนวนหุ้นที่ใช้ในการลงทุน
สูตรเดิมได้ผลทุกครั้ง
การใช้ตลาดหุ้นเป็นแหล่งหาเงินนั้นถือว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ เนื่องจากที่ผ่านมาเซียนหุ้นรายคนก็ใช้วิธีการนี้เข้ามาสร้างประโยชน์ อีกทั้งช่องทางที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดให้มีการใช้อยู่ในเวลานี้ ยิ่งทำให้นักลงทุนเหล่านี้สามารถหาประโยชน์ได้ง่ายขึ้น
อย่างกรณีของการใช้วิธีการยืมใบหุ้นเพื่อทำการซื้อขาย ที่มีบริษัทหลักทรัพย์เปิดให้บริการอยู่ก็สามารถดำเนินการได้โดยไม่จำเป็น ต้องถือหุ้นอยู่ ก็สามารถสั่งซื้อหรือขายได้เมื่อครบกำหนดก็คืนใบหุ้นดังกล่าวพร้อมกับค่า บริการ ผู้ที่ลงทุนลักษณะนี้จะได้ส่วนต่างของราคาหุ้น หรือถ้ามีการถือหุ้นอยู่แล้วยิ่งทำให้ดำเนินการได้สะดวก
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์กล่าวว่า เราเชื่อว่าคุณทักษิณยังเหลือหุ้นใน ADVANC อีกไม่น้อย เนื่องจากเป็นธุรกิจที่ได้เงินสดตลอดเวลาทุกวัน อีกทั้งในด้านของระบบการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของค่ายนี้ได้เปรียบใน เรื่องคุณภาพสัญญาณ รวมถึงฐานของผู้ใช้บริการมากกว่ารายอื่น อีกทั้งผู้บริหารของ ADVANC ยังเป็นผู้บริหารชุดเดิมที่ร่วมงานกับทักษิณ ชินวัตร มาตั้งแต่ก่อนเข้าสู่แวดวงการเมือง
หากพวกเขายังเหลือการถือหุ้นอีกราว 100 ล้านหุ้น ภายใต้ชื่อของตัวแทนจากต่างประเทศ คิดเป็นสัดส่วนแค่ 3% เศษเท่านั้น ช่วงจังหวะเวลาอย่างนี้คงหาเงินหลักร้อยล้านบาทได้ภายในเวลาไม่กี่วัน ส่วนจะได้มากกว่านี้หรือไม่คงต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของทีมงาน
แม้ว่าเดิมการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงจะกำหนดไว้ระหว่าง 12-14 มีนาคม แต่การชุมนุมที่ยืดเยื้อมาจนถึงเดือนเมษายน ทำให้ค่าใช้จ่ายในการชุมนุมย่อมเพิ่มขึ้น การหาเงินเพื่อสนับสนุนการชุมนุมนั้นคงไม่ใช่ปัญหาสำหรับเจ้าของม๊อบตัวจริง อย่างทักษิณ ชินวัตร แม้ว่าเงินจำนวน 7.6 หมื่นล้านบาทจะถูกยึดทั้งหมดก็ตาม
เรื่องอย่างนี้คงยากต่อการหาหลักฐานหรือตรวจสอบ คงมีแต่เพียงผู้ที่ดำเนินการอยู่เท่านั้นที่จะทราบ ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นจุดอ่อนของการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตลาด หลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลัก ทรัพย์(ก.ล.ต.) อีกทั้งทีมงานของอดีตนายกค่อนข้างมีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจ รวมถึงมีเครือข่ายในวงการหุ้นค่อนข้างมาก หรือแม้กระทั่งน้องชายของอดีตนายกอย่างพายัพ ชินวัตร ก็มีความเชี่ยวชาญการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มาก ถือว่าเป็นระดับเซียนหุ้นคนหนึ่งของเมืองไทย
นี่เป็นเพียงแค่หุ้นตัวเดียวเท่านั้นที่สามารถสร้างเม็ดเงินจำนวน ไม่น้อย เชื่อว่ายังมีหุ้นพลังงานอีกจำนวนไม่น้อยที่ถือผ่านตัวแทน ที่สร้างผลตอบแทนให้กับนักการเมืองกลุ่มนี้เช่นเดียวกับหุ้น ADVANC
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|