บ้านลึกลับสไตล์ Marrakesh


นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( เมษายน 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

เมื่อ 20 ปีก่อนผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ Trevor Hopkins หนีความหนาวเหน็บของกรุงลอนดอนไปหาความอบอุ่นจากไอแดดของฤดูหนาวที่ Marrakesh เมืองซึ่งอยู่ทางตะวันตกของประเทศโมร็อกโก แล้วเขาก็ตกหลุมรักเมืองนี้ตั้งแต่นั้น จึงเล่าถึงเส้นทางเดินทางของตัวเองว่า

"ตอนนั้นผมนั่งเรือมาขึ้นบกที่เมืองแทนเจียร์ ซึ่งอยู่ทางเหนือของโมร็อกโก จากนั้นก็ลงใต้ไปที่ Marrakesh และทะเลทราย ที่อยู่ไกลออกไป จริงๆ แล้วผมเดินทางไปทั่วแต่จะต้องกลับมาที่ Marrakesh เสมอ สำหรับผมแล้วที่นี่มีแต่ความเป็นมิตรและน่าตื่นตาตื่นใจไม่รู้จบ อีกหลายปีต่อมาผมก็ชวนเพื่อนๆ ไปพักผ่อนและเข้าพักตามโรงแรมเล็กๆ ในแขตเมืองเก่าต่างๆ พอถึงช่วงกลางทศวรรษ 1990 ผมย้ายไปอยู่แอลเอนานถึง 4 ปี แต่ในท้ายที่สุดก็อดคิดถึงบ้านเกิดที่ลอนดอนไม่ได้จึงย้ายกลับมา"

หลังจากนั้น Trevor เริ่มเดินทางไปพักผ่อนที่ Marrakesh อีก ทุกครั้งที่ไปเขามักเข้าพักที่ B&B โรงแรมสไตล์โบฮีเมียของนักออกแบบแฟชั่นมือฉมัง Chelita Salvatori ซึ่งเป็นชาวตรินิแดด และเป็นเพื่อนกับนักออกแบบแถวหน้าของโลก อาทิ Ossie Clark, Manolo Blahnik และ Luciana Martinez de la Rosa

"ที่น่าเศร้าคือ Chelita เสียชีวิตไปเมื่อ 10 ปีก่อน จึงมีการนำเอาทรัพย์สินของเธอออกขายซึ่งประกอบด้วยบ้าน 3 หลังตั้งอยู่ในเขตเก่าแก่ที่สุดของ Marrakesh ผมจึงซื้อเอาไว้สองหลังคือส่วนของเรือนรับรองและส่วนต่อขยายที่อยู่ติดกัน"

เมื่อซื้อมาไว้ในครอบครองแล้ว Trevor วางแผนบูรณะบ้าน หลังใหม่ของตัวเองอย่างเป็นระบบ

"จริงๆ แล้วจะพูดว่า บ้านในส่วนที่ผมซื้อเอาไว้อยู่ในสภาพ ทรุดโทรมหมดสภาพแล้วก็ไม่ผิดนัก ผมจึงขอให้เพื่อนศิลปินคือ

Jennifer Lloyd ช่วยออกแบบให้ เพราะเธอรับงานคล้ายคลึงกันนี้ที่โมร็อกโกอยู่แล้วและผมชอบสไตล์เรียบง่ายมาก เราตัดสินใจสร้างบ้านขึ้นมาใหม่โดยเริ่มจากส่วนของฐานรากขึ้นมาเลย นอกจากนี้ ยังติดตั้งระบบระบายน้ำและระบบไฟใหม่ทั้งหมด ส่วนรูปทรงของห้องยังคงเดิมเอาไว้แต่รื้อผนังออกสองสามจุดเพื่อเพิ่มพื้นที่ และให้รับแสงสว่างได้มากขึ้น"

จากประสบการณ์ของอาชีพผู้ผลิตรายการโทรทัศน์ นั่นย่อมหมายความว่า Trevor ต้องสามารถควบคุมให้งานแล้วเสร็จตามกำหนดและในงบประมาณที่ตั้งไว้ด้วย

"งานก่อสร้างเริ่มต้นในเดือนพฤษภาคม และผมก็ยืนกรานว่าจะต้องย้ายเข้าช่วงเทศกาลคริสต์มาสให้ได้ ผมทำได้จริงๆ"

พอมาถึงเรื่องงานตกแต่ง Trevor ลังเลใจระหว่างการตกแต่งให้เป็นแบบ Arabian Nights หรือคงไว้ซึ่งความเรียบง่าย "ทีแรกห้องนั่งเล่นทาสีน้ำตาลปนแดง แต่มันจะเบื่อง่าย ผมจึงทาสีใหม่เป็นสีขาวซึ่งดูดีกว่ามาก ส่วนสีสันในห้องนั้นคิดว่าผลไม้และ ดอกไม้ที่นำมาประดับก็ให้สีสันมากเกินพอแล้ว"

เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ส่วนใหญ่จะซื้อจากตลาดนัดของมือสอง เช่น เก้าอี้มีที่วางแขนสไตล์ฝรั่งเศสยุคทศวรรษ 1930 สองตัวที่ตั้งอยู่ในห้องนั่งเล่น ที่สำคัญ Trevor ไม่ลืมใช้ประโยชน์จากความงามในท้องถิ่นโดยเฉพาะระบบไฟส่องสว่างต่างๆ

ห้องนั่งเล่นเป็นตัวอย่างของการดัดแปลงได้อย่างดีเยี่ยม เพราะทั้งสองด้านของห้องจะมีเก้าอี้แสนสบายไว้ให้นั่งอ่านหนังสือ พูดคุย หรือสำหรับทั้งสองกิจกรรมในเวลาเดียวกัน ส่วนหิ้งของเตาผิงติดฝาผนัง (chimney piece) ที่เป็นรูปโค้งนั้นเป็นความคิดของ Jennifer ล้วนๆ "เธอยืนกรานให้เป็นรูปโค้งเพราะจะทำให้ความร้อนจากเตาผิงแผ่ออกไปทั่วทั้งห้องดีกว่าจะเน้นให้ไปตกอยู่ตรงจุดใดจุดหนึ่งเท่านั้น รูปทรงโค้งนี้จึงเหมาะ กับห้องนี้อย่างที่สุด"

หิ้งของเตาผิงติดฝาผนังรูปโค้งนี้ยังติดตั้งอยู่ในห้องนอนใหญ่ชั้นบนด้วย ห้องนี้เน้นวัสดุธรรมชาติและเก้าอี้มีที่วางแขนสไตล์วินเทจคลุมด้วยผ้าลินินฟอกขาวแบบสวีเดนซึ่งให้ความรู้สึกนุ่มสบายจนเกินคำบรรยายเลยทีเดียว

ชั้นบนยังเป็นที่ตั้งของห้องนอนสำรองอีกสองห้อง ห้องหนึ่งนั้นเดิมเป็นห้องเก็บอาหารสัตว์ Trevor จึงต้องการให้คงสภาพความเป็นชนบทเรียบง่ายเอาไว้ จึงสร้างฐานเตียงและเฮดบอร์ดไว้ระหว่างท่อนซุงค้ำหลังคาสองท่อนซึ่งมั่นคงแข็งแรงมาก ท่อนซุงนี้ทาด้วยน้ำปูนขาวจึงมีสีขาวบริสุทธิ์กลมกลืนกับผนังและคานค้ำหลังคา

ในค่ำคืนกลางฤดูร้อน ปาร์ตี้จะจัดกันที่ลานบ้านซึ่ง Trevor เนรมิตให้เป็น โอเอซิสอันสุขสงบที่สมบูรณ์แบบด้วยต้นมะกอกและเสียงน้ำไหลเอื่อยๆ

แม้ว่าจะตั้งอยู่บริเวณใจกลางของเขตเก่าแก่ แต่บ้านหลังนี้ก็ให้ความรู้สึกว่าได้แยกตัวเองออกมาจากโลกภายนอกอย่างที่ Trevor เล่าว่า "จะพูดว่าบ้านใน Marrakesh เต็มไปด้วยความลึกลับก็เห็นจะไม่ผิด เพราะโดยทั่วไปแล้วจะสร้างให้ หน้าต่างเปิดออกสู่ลานบ้านมากกว่าจะเปิดออกสู่ถนน เมื่อผมอยากให้บ้านเงียบสงบ ก็ให้บรรยากาศนี้ได้อย่างสมบูรณ์ แต่ก็สามารถทำให้เป็นสถานจัดเลี้ยงได้อย่างวิเศษด้วย เราเคยจัดดินเนอร์ปาร์ตี้ที่เชิญแขกมาร่วมงานถึง 30 คนได้สบายๆ"

นอกจากจะเป็นบ้านแสนสุขแล้ว Trevor ยังใช้บ้านหลังนี้เป็นที่ตั้งบริษัท Medina Productions ด้วย เขาเล่าอย่างตื่นเต้นว่า "เพียงบินออกจากลอนดอนมาสามชั่วโมงครึ่งผมก็ได้มาอยู่อีกโลกหนึ่งแล้ว ยิ่งได้รู้จัก Marrakesh และบริเวณโดยรอบมากขึ้นเท่าไร ผมก็ยิ่งหลงรักที่นี่มากขึ้นเท่านั้น นับจากมาถึงที่นี่ครั้งแรกจนถึงวันนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปมากมาย แต่ผมถือว่าเป็นการผจญภัย อย่างแท้จริง แม้จะมีการปรับตัวเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว แต่ Marrakesh ก็ยังมีมนต์เสน่ห์อีกมากและไม่เสื่อมคลายเหมือนชาวเมืองที่ทั้งร่าเริงและเฉลียวฉลาด

Trevor ตั้งชื่อบ้านหลังโปรดของเขาให้เป็นอนุสรณ์กับเจ้าของเก่าผู้ล่วงลับไปแล้วว่า Dar Chelita


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.