ภายหลังจากที่เงียบหายไปปีกว่า บัดนี้ บริษัทนิวเอร่า จำกัด ก็ได้เริ่มก้าวย่างของตัวเองอีกครั้งหนึ่งด้วยการปล่อยรถยนต์นั่งฟอร์ดเทลสตาร์
รุ่นประกอบพิเศษออกสู่ท้องตลาด ท่ามกลางกระแสข่าวลือที่แพร่สะพัดไปทั่ววงการผู้ประกอบรถยนต์ก่อนนี้ว่า
บริษัทนิวเอร่า ซึ่งกำเนิดขึ้นมาได้เพียงปีกว่านี้ กำลังจะเลิกการผลิตรถฟอร์ดในประเทศไทย
ก้าวย่างครั้งนี้ของบริษัทนิวเอร่า จำกัด ได้สร้างความตะลึงงันให้กับผู้ที่ปล่อยข่าวลือ
และผู้ที่เชื่อข่าวลือนั้นขึ้นมาทันตาเห็น
ก่อนหน้านี้ บริษัทนิวเอร่า จำกัด ได้ก่อตั้งขึ้นในประเทศไทยเมื่อปลายปี
2528 ด้วยการติดต่อกับบริษัทรถยนต์ฟอร์ดในออสเตรเลียเพื่อจะเป็นตัวแทนประกอบรถยนต์ฟอร์ดขึ้นในประเทศไทยแทนบริษัทแองโกล-ไทยมอเตอร์
ซึ่งกำลังมีปัญหาและกำลังเตรียมยกเลิกสัญญาการเป็นผู้แทนจำหน่ายและประกอบรถยนต์ฟอร์ดในประเทศไทย
ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามที่กลุ่มนิวเอร่าซึ่งประกอบด้วยคนหนุ่มไฟแรงหลายกลุ่มปรารถนาเดือนมกราคมของปี
2529 บริษัทนิวเอร่าภายใต้การนำของ ที. เค. ชุง นักธุรกิจเชื้อสายจีนถือสัญชาติแคนาดา
ก็ปล่อยรถยนต์รุ่นแรกออกมา เป็นรถกระบะฟอร์ดมาราธอนสู่ท้องตลาด และในเดือนเมษายนก็ปล่อยรถเก๋งนั่งฟอร์ดเลเซอร์ออกสู่ท้องตลาดอีกรุ่นหนึ่ง
กลุ่มนิวเอร่า ได้เช่าโรงงานประกอบรถยนต์ของบริษัทกรรณสูตเจนเนอรัลแอสเซมบลี
จำกัด ที่บางชันเป็นโรงงานประกอบรถยนต์ของตัวเอง
การเช่าโรงงานประกอบรถยนต์ของบริษัทกรรณสูตเจนเนอรัลแอสเซมบลี จำกัดนั้น
เป็นที่ทราบกันมานานแล้วในวงการรถยนต์ว่า มีปัญหาเองการชำระค่าเช่ากันมาตลอด
จนกระทั่งเมื่อรถยนต์ 2 รุ่นที่นิวเอร่าผลิตออกมาแล้วเป็นเวลาถึง 1 ปีเต็ม
บริษัทนิวเอร่า จำกัดไม่ได้มีการเคลื่อนไหวอะไรออกมาอีกเลย ในขณะที่กระแสข่าวของบริษัทกรรณสูตเจนเนอรัลแอสเซมบลี
สะพัดไปทั่วในช่วงดังกล่าวว่า มีปัญหาเรื่องการขาดทุนขนาดหนัก จนอาจจะต้องเลิกกิจการ
และมีเจ้าหนี้หลายรายสนใจเข้าไปเทคโอเวอร์
กระทั่ง เมื่อช่วงต้นปี 2530 นี้ กรมศุลกากรได้ประกาศขายทอดตลาดชิ้นส่วนรถยนต์
(ซีเคดี) เฟี๊ยต ที่กรรณสูตเจนเนอรัลแอสเซมบลีสั่งมาจากอิตาลีตั้งแต่ พ.ศ.
2527 แล้วไม่มีปัญญาที่จะไปรับซีเคดีดังกล่าวได้ ข่าวกรมศุลกากรขายทอดตลาดซีเคดีของรถเฟี๊ยตดังกล่าว
ทำให้ใคร ๆ ต่างก็มองว่า กรรณสูตเจนเนอรัลแอสเซมบลีกำลังย่ำแย่ มีรายได้เพียงทางเดียวคือค่าเช่าจากนิวเอร่าดังกล่าว
แหล่งข่าวรายหนึ่ง ได้ให้ข่าวกับ "ผู้จัดการ" ว่า บริษัทนิวเอร่ายังคงค้างค่าเช่าโรงงานอยู่จำนวนมากและอยู่ในระหว่างการทวงถามกันอยู่
และช่วงดังกล่าวนี้เอง ซึ่งเป็นช่วงที่มีข่าวลือออกมาว่า นิวเอร่าจะเลิกการผลิตรถยนต์ฟอร์ด
"คือเราก็หาที่ใหม่ไปเรื่อย ๆ ไม่ได้เลิกหรอก ถ้าหากว่าเราเลิกผลิตจริงทำไมรถรุ่นใหม่นี้ถึงออกมาได้ล่ะ"
สมหมาย สุวรรณพิมพ์ผู้จัดการโรงงานของนิวเอร่า กล่าวกับ "ผู้จัดการ"
พลางหัวเราะพลางอย่างไม่อยากตอบคำถามนี้กับ "ผู้จัดการ" นัก
วันที่ 6 พฤษภาคม 2530 ที่โรงแรมไฮแอทเซ็นทรัล พลาซ่า บริษัทนิวเอร่า ก็ได้จัดงานแนะนำรถยนต์ฟอร์ดเทลสตาร์รุ่นประกอบพิเศษของตัวเองขึ้นมา
ด้วยการเชิญตัวแทนจำหน่ายและสื่อมวลชนเข้าร่วมงานในครั้งนี้
รถฟอร์ดเทลสตาร์ของนิวเอร่ารุ่นนี้ ทางบริษัทนิวเอร่าได้ตั้งชื่อว่า NEW
TELSTAR LIMITED EDITION เหตุที่ต้องมีคำว่า LIMITED EDITION นี้ขึ้นมา ก็เนื่องจากว่ารถรุ่นนี้ผลิตขึ้นมาด้วยจำนวนจำกัด
คือแค่ 120 คนเท่านั้น ทางนิวเอร่าต้องการที่จะเน้นคำว่ามีจำนวนจำกัด
ความจริงแล้วรถฟอร์ดเทลสตาร์นั้น เริ่มมีรถรุ่นแรกตั้งแต่เมื่อปี 2526
เพียงแต่ในเมืองไทยไม่ค่อยมีโผล่มาให้เห็นกันเท่านั้นเอง
ทางนิวเอร่าได้แถลงข่าวบอกถึงรถรุ่นนี้ว่า เป็นรถสตาร์ทีเอกซ์-4 ขนาด 1600
ซีซี 4 ประตู และฟอร์ดเทลสตาร์ ทีเอกซ์-5 ขนาด 1800 ซีซีแฮทซ์แบค ซึ่งได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นทั้งทางด้านเทคนิค
ตลอดจนวัสดุและอุปกรณ์มาตรฐานที่เพิ่มมากขึ้นอย่างครบครันจนต้องเรียกรุ่นนี้ว่าเป็นรุ่นประกอบพิเศษใหม่และมีความเชื่อมั่นว่า
ฟอร์ดเทลสตาร์ใหม่นี้จะประสบผลสำเร็จทางด้านการตลาดในกลุ่มรถยนต์ขนาดกลางได้เป็นอย่างดี
รถฟอร์ดเทลสตาร์ของนิวเอร่ารุ่นใหม่ของนิวเอร่านี้ ดู ๆ ไปแล้วคล้าย ๆ
กับการนำลักษณะของโตโยต้าโคโรลล่า รุ่น 5 ประตูผสมผสานกับรสมาสด้า626 จีแอล
โดยเฉพาะฟอร์ดเทลสตาร์ทีเอกซ์-5 นั้นคล้ายกับโตโยต้ารุ่นแฮทช์แบคมากทีเดียว
แต่มีการปรับปรุงสันขอบซึ่งของโตโยต้าเป็นเหลี่ยมนั้น ฟอร์ดก็ทำให้เป็นสันกลมมน
จนหลายคนบอกว่าเหมือนมาสด้า 626 มากกว่าเพียงแต่สภาพภายใน ถูกทำให้กว้างขึ้น
และรูปร่างของฟอร์ดจะดูยาวกว่า
ที่ดูแล้วใหม่จริง ๆ ก็คือไฟเลี้ยวข้างซึ่งติดฝังในกันชนทั้งซ้ายและขวา
กับไปหน้าที่มีการปรับปรุงให้ใหญ่และโตขึ้นกว่าเดิมกำลังการส่องสว่างเพิ่มมากขึ้น
ไฟท้ายก็ถูกปรับปรุงใหม่บนแผงไฟท้ายถูกตกแต่งทำให้กลมกลืนสวยงามดูแปลกตาออกไป
ส่วนสภาพภายในนั้น แผงหน้าปัดได้ถูกออกแบบเป็นตัวเลขและเข็ม ซึ่งดูแปลกตาไปอีกอย่าง
เห็นครั้งแรกก็นึกว่าเป็นจอโทรทัศน์
"คุณไปได้ข่าวลือมาจากไหนว่าเราจะเลิก ผมไม่อยากพูดเรื่องนี้เลย ถ้าจะพูดผมควรจะพูดพร้อมกับผู้จัดการของกรรณสูตเจนเนอรัลฯ
เขาด้วย เพื่อว่าจะได้พูดออกมาตรงกัน ข่าวลือที่ออกมาคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ได้ก็แล้วแต่
แต่เราก็ได้ออกรถรุ่นนี้มาแล้วเห็นไหม บริษัทของเราเป็นเหมือนกับเด็กทารก
เรามีทีมงานบริหารที่เป็นคนหนุ่ม (เฉลี่ยประมาณ 34) เราจึงต้องการจะให้องค์กรคนหนุ่มนี้เติบโตขึ้น"
ที. เค. ชุง กล่าวกับ "ผู้จัดการ" ในขณะที่ยืนดูรูปร่างลักษณะของรถรุ่นใหม่กันอยู่นั้น
สำหรับผู้ที่สนใจรถรุ่นนี้ขึ้นมา แล้วอยากทราบราคาเพื่อประเมินว่าจะซื้อได้หรือไม่
ก็บอกได้แค่ว่า รุ่นทีเอกซ์-4 1600 ซีซีนั้นราคาสี่แสนห้าหมื่นบาท ส่วนทีเอกซ์-5-1800
ซีซีนั้นราคาห้าแสนสามหมื่นบาท ตอนี้มีผู้สั่งจองไปแล้ว 30 คัน ยังเหลืออยู่อีก
90 คันเท่านั้น หลังจากนั้นจะมีการผลิตกันอีกหรือไม่อันนี้ "ผู้จัดการ"
ไม่แน่ใจ