เขาเป็นชายร่างเล็กที่อารมณ์ดีอยู่เป็นนิจ วันนี้ผมสีดำของเขามีแซมผมสีดอกเลาเพียงประปราย
เพื่อนรุ่นเดียวกันเรียกเขาว่า "เจียม" เด็กรุ่นน้องเรียกเขาว่า
"พี่เจียม" และคนทั่วไปที่ไม่คุ้นเคยนักเรียกเขาว่า "คุณเจียม"
และดูเหมือนว่า เจียม ลิ้มสดใสจะพอใจกับคำเรียกหลังที่สุด
เจียมคลุกคลีอยู่ในวงการโฆษณามาตลอด 23 ปีตั้งแต่เรียนจบจากโรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชย์
เมื่อปี 2507 ก็เริ่มงานโฆษณากับบริษัท สตูดิโอ-วัน ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายสื่อโฆษณาทันที
ครั้นจุฬาฯ เปิดแผนกสื่อสารมวลชนขึ้น เจียมก็ไม่พลาดโอกาสที่จะเพิ่มพูนความรู้ให้ตนเอง
ด้วยการเรียนไปด้วยทำงานไปด้วย และเจียมก็ได้เป็นนิเทศศาสตร์บัณฑิตรุ่นแรกสมใจ
และเขาเป็นผู้มีบทบาทสำคัญคนหนึ่งในการพัฒนาหลักสูตรวิชาการโฆษณาของคณะนิเทศศาสตร์
จุฬาฯ
เจียมวนเวียนอยู่ในธุรกิจโฆษณาเรื่อยมาบางแห่งเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ บางแห่งนานจนชินชา
แต่เอเยนซี่ที่ทำให้ชีวิตในโลกโฆษณาของเจียมเติบโตอย่างมีคุณภาพอย่างเห็นได้ชัดคือที่
เอส. เอส. ซี.แอนด์ บี. ลินตัส บริษัทโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย 10 ปีที่ลินตัสเจียมเริ่มจากพนักงานธรรมดาไต่เต้าจนถึงระดับกรรมการบริหาร
ที่ลินตัสเจียมผ่านงานบริหารงานลูกค้า ส่งเสริมการขายสื่อโฆษณา งานบุคล
และสุดท้ายเจียมก็จากลินตัสมาพร้อมกับตำแหน่งกรรมการบริหาร ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อโฆษณาและฝ่ายบุคคล
อาจเป็นเพราะเพดานที่ลินตัสตันแล้วสำหรับนกอย่างเจียม เขาจึงออกมาทำงานด้านการตลาดให้กับบริษัท
กรีนแลนด์ มาร์เก็ตติ้ง ซึ่งจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค
จะว่าไปแล้วในชีวิตงานโฆษณาของเจียมนั้นไม่ว่าจะอยู่ที่ใด งานหลักของเจียมก็จะอยู่กับสื่อโฆษณา
คงไม่ผิดหรอกที่จะบอกว่าเขาเป็น "MEDIA มืออาชีพ"
ในปี 2506 เจียมร่วมกับเพื่อน ๆ ก่อตั้งบริษัท วิคเตอร์ โปรโมชั่น เป็นเอเยนซี่โฆษณาที่เจียมบอกว่าเล็ก
แต่เจียมก็มีตำแหน่งใหญ่ที่สุดในนั้นคือ เป็นกรรมการผู้จัดการ
สำหรับ MEDIAมืออาชีพอย่างเจียมที่คลุกคลีอยู่ในวงการโฆษณามาตลอดนั้นก็สมควรอยู่หรอกที่จะได้เป็นเจ้าของเอเยนซี่เล็ก
ๆ สักแห่ง และก็มีอีกสิ่งหนึ่งที่คนในวงการโฆษณามอบให้เขานั่นคือตำแหน่ง
นายกสมาคมโฆษณาธุรกิจแห่งประเทศไทยเมื่อกลางปี 2529 หลังจากที่เจียมได้รั้งตำแหน่งเลขาสมาคมฯ
มาแล้ว 3 สมัย
ถ้าจะกล่าวถึงการวางแผนสื่อโฆษณา บรรดาเอเยนซี่มักต้องกรข้อมูลจากการวิจัยเพื่อประกอบการตัดสินใจ
ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภค ข้อมูลเกี่ยวกับตัวสินค้า
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลการวิจัยสื่อโฆษณา
แม้ในขณะนี้ในเอเยนซี่ใหญ่ ๆ จะมีฝ่ายวิจัยประจำบริษัทอยู่แล้วก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถทำงานวิจัยได้ละเอียดทุกเรื่อง
งานวิจัยส่วนใหญ่ยังต้องว่าจ้าง หรือซื้อข้อมูลจากบริษัทที่รับทำวิจัยเฉพาะ
ในปัจจุบันนี้บริษัทใหญ่ ๆ ได้แก่ ดีมาร์ และ อาร์ ดี อาร์ แต่งานวิจัยด้านสื่อโฆษณานั้นเอเยนซี่ส่วนใหญ่ก็ซื้อข้อมูลจากดีมาร์
"จะว่าไปผลการวิจัยก็ใช่ว่าจะให้ผลแน่นอน 100% เพราะเป็นเพียงการสุ่มตัวอย่างในแต่ละกรณีความน่าเชื่อถือขึ้นอยู่กับจำนวนตัวอย่างและคุณภาพของตัวอย่าง
ถึงอย่างไรข้อมูลเหล่านี้ก็พอจะเป็นแนวทางในการวางแผนสื่อที่สำคัญจะสามารถเอาไปอ้างอิงกับลูกค้าได้"
มีเดียมือโปรคนหนึ่งกล่าวกับ "ผู้จัดการ"
แต่ข้อมูลสื่อโฆษณาขณะนี้แพงมาก เอเยนซี่เล็ก ๆ แทบไม่มีโอกาสได้ใช้ "ข้อมูลจากการวิจัยสื่อโฆษณาดีมาร์ขายเดือนละประมาณ
430,000 บาท ปีหนึ่งมีบิลลิ่งสัก 10 ล้าน ถ้าซื้อข้อมูลก็ไม่ต้องใช้ทำอย่างอื่นแล้ว"
เอเยนซี่รายเล็กรายหนึ่งโอดครวญ
ไม่เพียงแต่ข้อมูลทางการวิจัยสื่อมีราคาแพงเท่านั้น แต่ในขณะนี้มีการถกเถียงกันมากเรื่องความลำเอียงหรือความใกล้เคียงความเป็นจริงของผลการวิจัย
จนมีสื่อบางสื่อคิดว่าตนไม่ได้รับความยุติธรรมจากงานวิจัยสื่อโฆษณานั้นถึงกับเป็นเรื่องเป็นราวฟ้องร้องกันแล้วก็มี
และทางออกหนึ่งสำหรับงานวิจัยสื่อโฆษณาที่จะทำให้ได้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา
และราคาไม่แพงเกินไปที่มีการกล่าวถึงมากคือ การจะให้สมาคมโฆษณาฯ เป็นตัวกลางในการเก็บรวบรวมข้อมูลทางสื่อต่าง
ๆ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ตรงไปตรงมามากขึ้น
"มีบางสื่อมาคุยจะขอให้ทางสมาคมฯ ตรวจสอบและทำวิจัยเรื่องสื่อให้เหมือนกัน
แต่ทางสมาคมยังไม่มีการพูดกันในที่ประชุมใหญ่ ถ้าที่ประชุมตกลงก็อาจเป็นไปได้
ก็จะต้องช่วยกันเรื่องค่าใช้จ่ายเรื่องคนต้องมีความพร้อมในอีกหลาย ๆ ด้าน"
เจียมตอบข้อถกเถียงที่เป็นอยู่กับ "ผู้จัดการ" สั้น ๆ
เจียมเป็นนายกสมาคมโฆษณาที่เติบโตจากสาย MEDIA มาโดยตลอด เขาเหมาะสมแล้วกับปัญหาเรื่องนี้
นายกสมาคมในแต่ละสมัยก็มีผลงานที่แตกต่างกันออกไป วินิจ สุรพงษ์ชัย นายกสมาคมฯ
คนก่อนมีผลงานในการจัดงานเอเชียน แอดเวอร์ไทซิ่ง คองเกรสส์ ซึ่งทำให้อุตสาหกรรมโฆษณาในเมืองไทยเป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติมากขึ้น
ในปีนี้ในสมัยที่เจียมรั้งตำแหน่งนายกสมาคมฯ ผลงานชิ้นเอกของเขาอาจจะทำให้สมาคมฯ
เป็นตัวกลางวิจัยสื่อโฆษณาให้เอเยนซี่และสื่อต่าง ๆ เพื่อความเที่ยงตรงของข้อมูลยิ่ง
ๆ ขึ้นก็เป็นได้