โพสต์ฯชิงดำNBT-"สนธิญาณ"เมิน


ASTV ผู้จัดการรายวัน(23 มีนาคม 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

วานนี้(22 มี.ค.) ที่สถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ หรือช่อง11 / เอ็นบีที ได้กำหนดให้เป็นวันที่รับข้อเสนอของเอกชนเข้ารับการคัดเลือกเพื่อร่วมผลิต รายการข่าวกับทางสถานีเอ็นบีที สัญญา 1 ปี นับจากเดือน พ.ค.2553- เม.ย. 2554 นี้ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างปรกติ และพบว่า เมื่อครบระยะเวลาที่กำหนดไว้คือ เวลา 16.30 น. มีบริษัทที่ร่วมยื่นซองข้อเสนอเข้ารับการคัดเลือกเพื่อร่วมผลิตรายการข่าว กับทางสถานีเอ็นบีที ทั้งหมด 4 ราย คือ บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน), บริษัท ไดมอนด์ไฟต์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด บริษัท อินดิเพนเด้นท์ นิวส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (INC)และบริษัท โพสต์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน )

อย่างไรก็ตาม เดิมก่อนหน้านี้ เป็นที่ทราบกันว่า ทาง บริษัท กรีน มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด ถือเป็นอีกบริษัทหนึ่งที่สนใจร่วมยื่นซองข้อเสนอเข้ารับการคัดเลือกเพื่อ ร่วมผลิตรายการข่าวกับทางเอ็นบีทีด้วยนั้น แต่ในวินาทีสุดท้ายได้ตัดสินใจที่ไม่ยื่นหนังสือร่วมผลิตรายการกับทางเอ็นบี ทีแล้ว

นายสนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม ผู้บริหาร บริษัท กรีน มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า สาเหตุที่ตัดสินใจไม่ยื่นหนังสือในครั้งนี้ เนื่องจากพบว่า รายละเอียดนโยบายของการนำเสนอข่าวที่ทางเอ็นบีทีต้องการ ดูจะเป็นการนำเสนอข่าวแบบทางราชการ ซึ่งเป็นนโยบายที่ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกับที่ทางบริษัทได้วางไว้ ทั้งนี้มองว่าเมื่อทางเอ็นบีทีเลือกที่จะนำเสนอข่าวในลักษณะแบบนั้น ขณะที่ปัจจุบันข่าวมีความก้าวหน้าไปมาก ทั้งในแง่ข้อมูล การแข่งขันและการนำเสนอ แต่ทางเอ็นบีทีเลือกที่จะนำเสนอข่าวแบบพื้นๆ ก็ย่อมทำให้ผู้ชมติดตามข่าวกับทางเอ็นบีทีน้อยลง ดังนั้นเมื่อพิจารณาแล้วว่า ทิศทางข่าวไปเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับนโยบายของบริษัทฯ ในแง่ของเชิงธุรกิจก็คงไม่สามารถตอบโจทย์ให้ออกมาเป็นรายได้ตามที่วางไว้ จึงได้ตัดสินใจที่จะไม่เข้าร่วมยื่นหนังสือในครั้งนี้

ด้านนายฉัตรชัย ตะวันธรงค์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินดิเพนเด้นท์ นิวส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (INC) กล่าวว่า ตามที่ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ หรือ เอ็นบีที ได้ทำหนังสือเชิญชวนให้ผู้ผลิตรายการข่าวเข้ามาร่วมผลิตรายการข่าวประจำวัน ของสถานี โดยให้เข้ามายื่นซองข้อเสนอเข้ารับการคัดเลือกเพื่อร่วมผลิตรายการข่าวกับ ทางสถานีเอ็นบีทีได้ภายในวันที่ 22 มี.ค.นั้น ทางบริษัท ถือเป็นบริษัทหนึ่งที่ได้ยื่นหนังสือเพื่อต้องการเข้าร่วมผลิตข่าวในครั้ง นี้ด้วย

อย่างไรก็ตามพบว่า มีบริษัทที่สนใจร่วมผลิตรายการข่าวกับทางเอ็นบีทีหลายบริษัท แต่ทางเรามั่นใจว่า เรามีศักยภาพเพียงพอที่จะแข่งขันกับอีกหลายๆบริษัทเหล่านั้นได้ ส่วนสำคัญมองว่าจากการที่ไอเอ็นซี ได้ร่วมงานกับทางเอ็นบีที ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ทางบริษัทมีความเข้าใจและรู้ลึกถึงระบบระเบียบการทำงานที่ทำร่วมกัน อย่างลงตัวมาตลอด รวมถึงรู้จักแนวทางการดำเนินงานของทางเอ็นบีทีอยู่แล้วนั้น จะเป็นข้อได้เปรียบที่เชื่อว่า น่าจะทำให้ทางบริษัทได้เข้าร่วมผลิตข่าวกับทางเอ็นบีทีอีกครั้ง

นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า ถึงแม้ว่าตลอด 2 ปีที่ผ่านมา การได้ร่วมงานกับทางเอ็นบีที จะทำได้เพียงพอมีกำไรอยู่บ้างก็ตาม แต่การทำงานกับทางเอ็นบีที ทำให้เราได้รู้จักการทำงานของทางภาครัฐมากขึ้น ซึ่งช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เราทำงานคู่กับทางเอ็นบีที ที่มาพร้อมนโยบาย การเปลี่ยนถ่ายสู่ การเป็นองค์การ “โทรทัศน์แห่งชาติ” ซึ่งหมายความว่า การที่จะได้เข้ามาร่วมงานกับทางเอ็นบีทีในปีนี้ ทางเราพร้อมที่จะสนับสนุนและร่วมเดินหน้าไปกับทางเอ็นบีทีสู่ความเป็นทีวี แห่งชาติด้วย เพราะการร่วมผลิตข่าวในปีนี้ ถึงแม้ว่าช่วงเวลาที่ได้นั้นจะเท่ากับปีก่อน แต่การทำงานในปีนี้จะเป็นการทำงานร่วมกัน ไม่ใช่เป็นการรับจ้างผลิตอย่างที่ผ่านมา

ด้านนายปฐม อินทโรดม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรายที่เข้าร่วมประมูลด้วย กล่าวว่า ทางเออาร์ฯถือเป็นอีกบริษัทหนึ่งที่สนใจยื่นซองข้อเสนอเข้ารับการคัดเลือก เพื่อร่วมผลิตรายการข่าวกับทางสถานีเอ็นบีที โดยมองว่าเป็นการขยายธุรกิจที่น่าสนใจ ทั้งนี้มองว่าการเข้ามาร่วมผลิตรายการข่าวครั้งนี้ ความเป็นไปได้ก็มองไว้ที่ระดับปานกลาง โดยทางเรามองว่าเรามีเรื่องของเน็ตเวิร์คที่น่าจะมาช่วยเสริมให้กับทางเอ็น บีทีได้พัฒนาขึ้นอีกไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยี คลังข้อมูล และทีมข่าวที่ได้เตรียมทาบทามไว้อีกบางส่วน จึงให้ความสนใจเข้ามาร่วมยื่นหนังสือครั้งนี้

สำหรับค่ายโพสต์พับลิชชิ่งนั้น แหล่งข่าวจากผู้เข้าร่วมประมูล กล่าวว่า ถือเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวรายหนึ่ง เพราะเคยมีประสบการณ์ด้านการผลิตสื่อทีวีไม่ว่าจะเป็นทางช่องทีเอ็นเอ็น และช่อง 5 มาแล้ว รวมทั้งยังมีสื่ออยู่ในมืออีกเช่น หนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์รายวัน หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ เป็นต้น และเริ่มขยายไปสู่สื่อนิวมีเดียต่างๆแล้ว มีความพร้อมด้านเงินทุนและบุคลากร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับช่วงเวลาที่ทางเอ็นบีที เปิดให้เข้าร่วมผลิตรายการข่าวนั้น ประกอบด้วย 1.ข่าวเช้า วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 06.00-08.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 07.00-08.00 น. 2.ข่าวเที่ยง วันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 12.00-13.00 น. 3.ข่าวค่ำ วันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 17.30-18.00 น. (ข่าวภูมิภาค) จันทร์-อาทิตย์ เวลา 18.00-20.00 น. (ข่าวภาคค่ำ) และจันทร์-อาทิตย์ เวลา 20.00-20.30 น. (ข่าวในพระราชสำนัก) 4.ข่าวต้นชั่วโมง วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 09.00-09.10 น. เวลา 10.00-10.10 น. เวลา 11.00-11.10 น. เวลา 15.00-15.10 น. เวลา 16.00-16.10 น. เวลา 22.00-22.05 น. เวลา 23.00-23.05 น. วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-10.05 น. เวลา 11.00- 11.05 น. เวลา 15.00-15.05 น. เวลา 16.00-16.05 น. และ 5.ข่าวดึก วันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 00.30-01.30 น.

โดยหลังจากที่วันที่ 22 มี.ค. ได้เปิดรับซองข้อเสนอเข้ารับการคัดเลือกเพื่อร่วมผลิตรายการข่าวกับทางสถานี เอ็นบีทีจากบริษัทต่างๆแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ ในวันที่ 25 มี.ค.นี้ จะเป็นวันที่ให้บริษัทที่ยื่นหนังสือมา ได้เข้าร่วมแสดงวิสัยทัศน์ และแนวทางการทำงาน รวมถึงพูดคุยรายละเอียดต่างๆ และในวันที่ 29 มี.ค. จะเป็นวันที่จะเปิดเผยรายชื่อบริษัทที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ที่เข้ามา ร่วมผลิตรายการข่าวกับทางเอ็นบีทีต่อไป


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.