เส้นทางวิทยาคม 40 ปี คือธุรกิจและบารมี อบ วสุรัตน์


นิตยสารผู้จัดการ( กรกฎาคม 2529)



กลับสู่หน้าหลัก

นาน ๆ โรงแรมระดับห้าดาวอย่างรอยัล ออคิด เชอราตัน จะเปิดห้องบอลรูมเต็มขนาดต้อนรับผู้คนหลากหลายระดับอย่างอุ่นหนาฝาคั่งสักครั้ง ซึ่งดูไม่แตกต่างจากวันปิดงานแสดงสินค้าที่เคยเฟื่องฟูมาก ๆ มาระยะหนึ่งเท่าใดนัก

จะผิดแผกก็ตรงที่ปลายทางงานนี้อยู่ที่ COCKTAIL RECEPTION เหมือน ๆ งานฉลองธุรกิจทั่ว ๆ ไป

ผู้มาร่วมงาน มีตั้งแต่อดีตประธานรัฐสภา รัฐมนตรี นายธนาคารใหญ่ พ่อค้าเบิ้ม ๆ นักอุตสาหกรรมจนถึงครูและข้าราชการตัวเล็ก ๆ ทำหน้าที่จัดซื้อวัสดุอุปกรณ์…

วันนั้นคือค่ำของวันที่ 17 มิถุนายน 2529

นับย้อนจากวันนั้นไป 40 ปีเต็มพอดี คือวันที่บริษัทวิทยาคมกำเนิดขึ้น โดยเป็นผู้แทนจำหน่ายเครื่องพิมพ์ดีดเรมิงตัน ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานในเมืองไทยจนถึงวันนี้ประมาณ 80 ปีแล้ว

ทว่าเครื่องพิมพ์ดีดเรมิงตันได้ค่อย ๆ กลืนและเลือนไปกับกาลเวลา พร้อม ๆ กับการเติบโตของธุรกิจที่ก้าวไปสู่ความสลับซับซ้อนมากขึ้น

ขณะเดียวกันผู้ก่อตั้งบริษัทวิทยาคมค่อย ๆ เปิดตัว เป็นที่รู้จักและยอมรับจากวงการต่าง ๆ จนถึงปัจจุบัน เป็น "ดาวค้างฟ้า" ของวงการธุรกิจและการเมือง

เขาคือ อบ วสุรัตน์ อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง อดีตประธานสภาหอการค้า และอดีตตำแหน่งผู้มีบารมีอีกหลายตำแหน่ง…

เมื่อก่อนเครื่องพิมพ์ดีดเรมิงตันมีคนรู้จักมากกว่า อบ วสุรัตน์ แต่ปัจจุบันเขากลับโด่งดังมากกว่าเครื่องพิมพ์ดีดเรมิงตันและวิทยาคม

มีหลายคนที่ไม่รู้ว่า อบ วสุรัตน์ มีอดีตและปัจจุบันอันลึกซึ้งกับบริษัทวิทยาคม

แต่บางคนก็รู้ว่า วิทยาคม คือสมบัติชิ้นสุดท้ายของ อบ วสุรัตน์ ที่เหลืออยู่

เวลาประมาณ 18.30 น. งานฉลองครบรอบ 40 ปีของบริษัทวิทยาคมเปิดขึ้นอย่างเอิกเกริก แขกคลาคล่ำเบียดเสียดกันชมนิทรรศการแสดงสินค้าของวิทยาคมที่ทางบริษัทลงทุนยกเครื่องไม้เครื่องมือมาโชว์มาแสดงให้ดู โดยมีผู้บรรยายประกอบ ตั้งแต่เครื่องพิมพ์ระบบออฟเซ็ท เครื่องเอ็กซเรย์ คอมพิวเตอร์ควบคุมโรงงาน ฯลฯ

กว่าจะฝ่ามาถึงห้องเลี้ยงรับรองก็หิวได้ที่พอดี

นับเป็นงานที่ค่อนข้างมีลักษณะมวลชนและแปลกกว่างานอื่น ๆ เป็นงานฉลองครบรอบ 40 ปีที่แฝงด้วยสีสันธุรกิจ มีเป้าหมายการตลาดไปสู่ลูกค้าระดับกว้างจริง ๆ

ใจกลางของงานเริ่มจริง ๆ ประมาณเวลา 19.00 น. ด้วยการปูพื้นด้วยบรรยากาศแบบไทย ๆ -รำไทยอวยพรกลมกลืนไปกับกลิ่นวิสกี้ บรั่นดี เครื่องแต่งกายหลากสีสันกับเฟอร์นิเจอร์แวววาว

พิธีทางการเริ่มต้นเมื่อพลโทผ่อง มีคุณเอี่ยม ประธานกรรมการบริษัทวิทยาคมขึ้นเวทีกล่าวเปิดงาน ตามด้วย อบ วสุรัตน์ ผู้ก่อตั้ง ซึ่งปัจจุบันไม่มีตำแหน่งอะไรในบริษัทถูกลูกสาวจูงขึ้นเวทีรำลึกความหลังครั้งก่อตั้งบริษัท พิธีอย่างเป็นทางการเป็นงานปิดท้ายด้วย อุปจิต วสุรัตน์ บุตรชายคนโตของอบ ในฐานะกรรมการผู้อำนวยการขึ้นเวทีวาดแผนในอนาคตของวิทยาคมให้แขกในงาน (ส่วนใหญ่เป็นลูกค้า) ฟังกัน

งานนี้ ลลนา วาสนาส่ง ลูกสาวคนสวยของพิชัย วาสนาส่ง โฆษกทีวีอาวุโสทำหน้าที่ดำเนินรายการ และพากษ์เป็นภาษาอังกฤษให้แขกชาวต่างชาติที่มางานจำนวนนับสิบรู้เรื่องด้วย

ว่ากันว่าแขกวันนี้นับเป็นจำนวนพันคน ผู้ที่รุมล้อมและเป็นศูนย์กลางก็คือบุรุษสายตาไม่ดี อบ วสุรัตน์ นั่นเอง

ล่วงเลยเวลา 2 ทุ่มผู้คนเริ่มทยอยออกจากงาน พร้อม ๆ กับการรับแจกหนังสือ "40 ปีบริษัทวิทยาคม จำกัด" ติดไม้ติดมือกลับไปอ่านที่บ้าน

หนังสือเล่มนี้หนาประมาณ 100 หน้า พิมพ์ด้วยกระดาษอย่างดี เรื่องราวชักนำให้ผู้อ่านรู้จักความเป็นมาของบริษัทวิทยาคม ความดีของหนังสือเล่มนี้มีอยู่ตอนแรก ๆ ที่กล่าวถึง Dr. H McFarland มิชชั่นนารีผู้สร้างประโยชน์แก่สังคมไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4

ผู้ที่เรียนประวัติศาสตร์ก็คงพอจะจำกันได้ว่าเขาคือผู้นำพิมพ์ดีดเครื่องแรกมาใช้ในประเทศไทย และเป็นผู้หนึ่งที่พัฒนาเครื่องพิมพ์ดีดภาษาไทยเป็นเครื่องแรกด้วย

ต่อมาเขาได้รับบรรดาศักดิ์เป็นพระอาจวิทยาคม ซึ่งถูกนำมาตั้งเป็นชื่อบริษัทวิทยาคม นั่นเอง

จุดเน้นอีกจุดหนึ่งของหนังสือเล่มนี้คือบทบาทของอบ วสุรัตน์ ที่คนเขียนพยายามหาจุดมายกย่องชมเชยค่อนข้างจงใจ แต่กลับไม่ได้ให้รายละเอียดมากนักเกี่ยวกับบริษัทนี้ เพียงแต่วาดภาพคร่าว ๆ สั้น ๆ เกี่ยวกับการเพิ่มตัวสินค้า การขยายตัวทางธุรกิจเพียงด้านเดียว

น่าเสียดายที่บริษัทวิทยาคมอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งสมควรจะนำข้อมูลมาเผยแพร่ได้มากกว่านี้ ในแง่มุมต่าง ๆ (อย่างที่ "ผู้จัดการ" เขียนมาหลายเรื่อง)

หนังสือเล่มนี้พิมพ์สองภาษาทั้งไทยและอังกฤษ อ่านไปอ่านมาก็ชักสงสัยว่าต้นฉบับแปลจากภาษาไทยหรือแปลจากภาษาอังกฤษกันแน่!

อย่างไรก็ตาม ก็ต้องชมเชยกันว่าบริษัทที่มีประวัติเก่าแก่อย่างวิทยาคมนี้ ให้ความสำคัญในการบันทึกเรื่องราวไว้ให้อนุชนรุ่นหลังศึกษาพอประมาณ โดยปกติแล้วธุรกิจในบ้านเราไม่ค่อยจะนิยมทำกัน--ก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุอันใด?

งานฉลองครบรอบ 40 ปีของวิทยาคมจบไปแล้ว เสียงผู้คนพูดคุยอึงคนึงยังคงก้องอยู่ในความทรงจำของ อบ วสุรัตน์ ผู้ก่อตั้งและปลุกปั้นบริษัทนี้ แม้ร่างกายของเขาจะไม่แงแรงนัก แต่ทางเดินของความเป็นนักธุรกิจผู้ยิ่งยงคนหนึ่ง นักการเมืองผู้คร่ำหวอดคนหนึ่ง เขาก็ควรภาคภูมิใจ เพราะจำนวนและบุคคลที่มางานนี้ย่อมแสดงถึงบารมีที่มีอยู่ของเขา

หนังสือ 40 ปีวิทยาคม…พูดถึงเขาอย่างชื่นชม เรื่องราวของบริษัทนี้ถูกบันทึกเป็นประวัติส่วนหนึ่งของชีวิตเขา แม้ว่าทุกวันนี้บริษัทนี้จะต้องประสบมรสุมทางธุรกิจบ้าง คือขาดทุนครั้งแรกในรอบ 40 ปี หนักหนาพอประมาณตั้งแต่ปี 2527 (อายุ 39 ปี) แม้ไตรมาสแรกของปี 2529 จะมีกำไรบ้าง (1.023 ล้านบาท) ก็หาใช่ว่าสถานการณ์จะดีขึ้นตลอดไปไม่ สัญญาณเหล่านี้บ่งชี้ว่าประวัติศาสตร์หน้าต่อไปของวิทยาคม ซึ่งเขาไม่ได้เขียนนั้นจะต้องดำเนินให้ดีและใช้ความระมัดระวัง

ลูก ๆ ของเขาในฐานะผู้สืบทอดจะต้องทำงานกันด้วยสติปัญญาทั้งมวล มิฉะนั้น อบ วสุรัตน์ คงไม่สบายใจในบั้นปลายชีวิตเป็นแน่ เพราะวิทยาคมคือส่วนหนึ่งของชีวิต อบ วสุรัตน์



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.