|
ทรูวิชันส์ งัดอาวุธเรียลลิตี้สู้ศึก ผุดเกมโชว์ร้านกาแฟ 24 ชั่วโมง
ASTV ผู้จัดการรายสัปดาห์(15 มีนาคม 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
ทรูวิชั่นส์ เดินหน้ายุทธศาสตร์คอนเวอร์เจน สร้างความต่างให้กับคอนเทนต์ ด้วยการจับธุรกิจร้านกาแฟทรู คอฟฟี่ มาเป็นเกมโชว์รูปแบบใหม่ที่จะถ่ายสด 24 ชั่วโมงภายใต้ชื่อ “COFFEE MASTER” เปิดโอกาสให้วัยรุ่นที่มีใจรักการบริหารร้านกาแฟได้เข้าร่วมแข่งขันชิง รางวัล 1 ล้าน พร้อมรับสิทธิบริหารร้านทรู คอฟฟี่ เป็นเวลา 3 ปี มั่นใจว่าเกมโชว์รูปแบบใหม่นี้จะเป็นพื้นที่ใหม่ในการโชว์กึ๋น คาดผลตอบรับดีมีสิทธิลุ้นทำต่อเนื่อง และขยายรูปแบบเกมโชว์ไปสู่ธุรกิจอื่นๆ ในเครือทรู
ท้องทะเลแห่งธุรกิจทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวี ใช้เวลาเพียงปีเศษ เปลี่ยนจากสีฟ้า กลายเป็นสีแดงเดือด เกิดคู่แข่งมากหน้าหลายตา แย่งชิงผู้ชมทั้งในส่วนของผู้ผลิตคอนเทนต์ ไปจนถึงรูปแบบแพลตฟอร์มการรับชม ทำให้ผู้ที่เคยแหวกว่ายเก็บเกี่ยวรายได้อยู่เพียงลำพังในวันก่อน อย่างทรูวิชั่นส์ ต้องปรับเกมเพื่อรับมือทั้งการรักษาฐานลูกค้าเดิม และสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจ ท่ามกลางคู่แข่งเบียดแน่นเต็มท้องทะเล
หมากแรกของทรูวิชั่นส์ เปิดตัวไปพร้อมกับพรีเซนเตอร์คนใหม่ สัญญา คุณากร ชูจุดขายเด่นจุดหนึ่งที่ทรูวิชั่นส์มีเหนือกว่าคู่แข่งทุกราย คือรายการสารคดีจากผู้ผลิตคุณภาพ อย่าง ดิสคัพเวอร์รี่, เนชั่นแนลจีโอกราฟฟิก หรือแอมนิมอล แพลนเนต และหมากที่สอง ก็ตามมาติดๆ
ความสำเร็จของทรู อคาเดมี แฟนเทเชีย ที่มีเพิ่มขึ้นตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ทำให้รูปแบบรายการเรียลลิตี้โชว์กลายเป็นอีกอาวุธสำคัญในการดึงดูดผู้ชม ช่วงที่ผ่านมา ทรูวิชั่นส์ จึงมีการนำเข้า และผลิตรยการเรียลลิตี้ในรูปแบบต่างๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งเรียลลิตี้โชว์จากเกาหลี อย่าง Family Outing หรือ Just Married หรือเรียลลิตี้ไทยๆ อย่าง แพนด้า แชนแนล ก็ล้วนแต่ช่วยให้ทรูวิชั่นส์ขยายกลุ่มผู้ชมได้มากพอควร
ล่าสุด ทรูวิชั่นส์ ก็ผุดรายการเรียลลิตี้โชว์รูปแบบใหม่ออกมาอีกหนึ่งรายการ ภายใต้การดูแลของเจ้าพ่อเรียลลิตี้ อรรถพล ณ บางช้าง สร้างความแปลกใหม่ในรูปแบบรายการที่แตกต่างกับทุกเรียลลิตี้โชว์ที่มีเคยมี มา โดยจับเอาธุรกิจภายใต้เครือข่ายทรูฯที่มีอยู่มาต่อยอด การเดินตามยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนซ์ ที่ดำเนินมาเป็นเวลาหลายปี ตั้งชื่อคอนเทนต์ใหม่นี้ว่า “COFFEE MASTER”
ศุภชัย เจียรวนนท์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานคณะผู้บริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทรูวิชั่นส์ กล่าวว่า ในปัจจุบันพฤติกรรมของวัยรุ่น หรือกลุ่มเฟริส จอบเปอร์ ต้องการเป็นเจ้าของกิจการมากกว่าการเป็นพนักงานทั่วไป รวมไปถึงส่วนใหญ่จะเป็นนักบริหารตั้งแต่อายุยังน้อย แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มของการเป็นเจ้าของกิจการ ดังนั้นการจัดเกมโชว์ในครั้งนี้จึงเป็นการจุดประกายและเป็นการเปิดโอกาสให้ กลุ่มวัยรุ่นยุคใหม่ที่มีแนวคิดดังกล่าวได้แสดงความสามารถของตนเองได้อย่าง เต็มที่
“ทรูฯน่าจะเป็นเจ้าแรกที่มีการเกมโชว์ในลักษณะนี้ เรามองว่ารูปแบบรายการจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผลักดันให้ธุรกิจเติบโต และจะเป็นการสร้างบุคลากร คนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาทำธุรกิจว่าทำอย่างไรถึงจะประสบความสำเร็จ หรือเวลามีปัญหาจะต้องมีการแก้ไขอย่างไร ซึ่งในแง่ของบุคลากรที่ได้เข้าร่วมเกมโชว์ก็จะได้รับประสบการณ์ทางธุรกิจไป เพื่อสานต่อธุรกิจที่จะไปทำ ขณะที่ในแง่ของคนดูทางบ้านก็จะได้รายการที่มีสาระความรู้ที่มีความบันเทิง ใจ”
สำหรับ“COFFEE MASTER”จะเป็นรายการเรียลลิตี้โชว์ 24 ชั่วโมง ซึ่งทรูฯมีการลงทุนกว่า 40 ล้านบาทในการเนรมิตโปรเจคนี้ขึ้นมา เริ่มจากการจำลองร้าน ทรู คอฟฟี่ ขึ้นมาบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า เซ็นทรัลเวิร์ล ฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาลตำรวจ ทำการคัดเลือกผู้เข้าร่วมแข่งขันให้เหลือก 12 คนเพื่อเข้ามาปฏิบัติงานหรือการให้บริการต่างๆจริง โดยการปฏิบัติงานในครั้งนี้จะมีผู้จัดการร้าน เป็นอดีตพระเอกคนดัง พล ตัณฑเสถียร มาคอยดูแลและมอบหมายภารกิจให้ผู้แข่งขันที่เข้ารอบ
การแข่งขันจะเริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 4 เมษายน – วันอาทิตย์ที่ 30 พฤษภาคม รวม 8 สัปดาห์ โดยผู้ชมสามารถชมรายการได้ที่ช่องที่ 22 และชมไฮไลท์ประจำวันทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 20.00-20.30 น.ผ่านช่องทรูอินไซด์ ช่อง 61 และผู้ชนะเลิศการแข่งขันจะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 1 ล้านบาทพร้อมทั้งการบริหารร้าน ทรู คอฟฟี่ สาขาใหม่ พิพิธภัณฑ์รัตนโกสินทร์ที่ตั้งอยู่แถวถนนราชดำเนินเป็นเวลา 3 ปี ซึ่งในระหว่างนี้ผลกำไรทั้งหมดจะตกเป็นของผู้ชนะเลิศ
“ผู้เข้าร่วมการแข่งขัน 12 คนจะถูกแบ่งออกเป็น 2 กะ และจะมีการถ่ายทอดสด 24 ชั่วโมง ซึ่งทุกคนจะต้องทำการบริหารงานในรูปแบบที่จริง เพราะร้านมีการเปิดให้บริการจริง พร้อมเปิดให้เจ้าของสินค้าที่ต้องการจัดกิจกรรมอีเวนต์ต่างๆในร้านกาแฟสาขา นี้ ก็สามารถที่จะเข้ามาใช้บริการได้เหมือนร้านกาแฟทั่วไป ซึ่งจุดนี้ผู้เข้าร่วมแข่งขันก็ต้องรับหน้าที่บริหารจัดการ ”
ธิติฏฐ์ นันทพัฒน์สิริ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ทรูวิชั่นส์ กล่าวว่า กลุ่มเป้าหมายที่จะติดตามชมเกมโชว์รายการใหม่นี้คือ วัยรุ่น กลุ่มคนทำงาน ผู้บริหารที่ชื่นชอบกาแฟ รวมไปถึงเจ้าของกิจการก็จะรับชมรายการนี้เพราะต้องการดูแนวทาง การดำเนินงาน การแก้ไขปัญหาต่างๆที่จะสามารถนำมาปรับเปลี่ยนใช้กับแนวคิดของตนเอง โดยทรูฯตั้งเป้าหมายในรายการใหม่ว่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ที่คิดจะเป็น เจ้าของกิจการในอนาคต รวมไปถึงการได้แสดงให้เห็นถึงการครีเอตรูปแบบรายการใหม่ๆและที่สำคัญคือ รายการได้ตอบสนองพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันและยังได้เป็นพื้นที่ในการ แสดงความสามารถของตนเองได้อย่างเต็มที่
นอกจากนั้นแล้วในแง่ของฐานผู้ชม ทรูฯคาดว่าจะได้ฐานผู้ชมที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว ในแง่ของการรับรู้แบรนด์ของร้าน ทรู คอฟฟี่ ก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย และในอนาคตหากผลการตอบรับของเกมโชว์นี้ดีและมีหลายคนชื่นชอบ ก็มีโอกาสที่จะทำต่อเนื่องและจะขยายไปสู่ธุรกิจที่มีอยู่ในเครือไม่ว่าจะ เป็น ค้าปลีก, ร้านอาหาร, สินค้าโอทอป หรือสินค้าส่งออก ถือเป็นการเดินหน้าตามยุทธศาสตร์คอนเวอร์เจนที่ได้วางไว้
ทรูวิชั่นส์ วางเป้าหมายว่า Coffee Masterจะเป็นอีกหนึ่งรายการที่จะเข้ามาสร้างความแตงต่างกับให้กับการแข่งขัน ในธุรกิจทีวีดาวเทียม และเคเบิลทีวี ในปีนี้ ซึ่งนอกเหนือจากรายการดังกล่าวแล้ว ในปีนี้ยังเตรียมแผนที่จะเปิดช่องใหม่อีก 8 รายการ โดย3รายการเป็นของ อสมท. และอีก 5รายการเป็นของทรูฯ ที่กำลังพิจารณาว่าจะนำเสนอเนื้อหาในลักษณะไหนที่จะตรงใจและผู้ชมได้รับ ประโยชน์สูงสุด
ปัจจุบันทรูฯมีจำนวนสมาชิก1.7 แสนราย คาดว่าในปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 500,000 ราย ขณะที่รายได้จากการโฆษณาคาดว่าจะมีจำนวน 750 - 1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 10% โดยปัจจัยที่ทำให้ทรูฯมั่นใจว่าจำนวนสมาชิกและรายได้จากเม็ดเงินโฆษณาที่จะ เติบโตมาจากคอนเทนต์รายการที่มีคุณภาพมีมาตรฐาน, เอาต์เล็ตการให้บริการของทรูฯ ที่กระจายอยู่ใกล้บ้านผู้บริโภคทำให้ได้เปรียบคู่แข่ง และเรื่องเทคโนโลยีที่มีการลงทุนสูงเพื่อให้สอดรับกับเทรนด์ยุคใหม่ ซึ่งล่าสุดเตรียมที่จะพัฒนา HD หรือHigh Defination ที่จะช่วยให้การรับชมคมชัด คาดว่าจะได้เห็นในช่วงเมษายนนี้
“ความได้เปรียบของทรูฯคือมีฐานผู้ชมที่ชัดเจน สามารถวัดได้ อีกทั้งยังมีข้อมูลการวัดเรตติ้งจากบริษัทใหญ่ที่สามารถนำไปอ้างอิงกับ บริษัทเอเยนซีหรือเจ้าของสินค้า ทำให้การแข่งขันด้านการหารายได้จากโฆษณานั้น เราเชื่อว่าเราเหนือกว่าคู่แข่งอื่นๆ อย่างไรก็ตามมองว่าการแข่งขันในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ดี เพราะทำให้ผู้บริโภคได้มีโอกาสเลือก อีกประการคือทรูฯ ก็จะได้ศึกษาหรือเรียนรู้ว่าคู่แข่งมีการทำอย่างไร ดำเนินแนวทางไปในทิศทางไหน ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ”ธิติฏฐ์ กล่าว
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|