Passion นิวไวน์เมกเกอร์ “วิสุตา โลหิตนาวี”

โดย สุปราณี คงนิรันดรสุข
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( มีนาคม 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

ไวน์ที่ดีต้องผลิตจากผลองุ่นชั้นเลิศที่เจ้าของเอาใจใส่ตั้งแต่คัดพันธุ์-ปลูกเลี้ยงตกแต่งกิ่ง ตัดช่อแตกตา-ดูแลให้ปุ๋ยจนแตกกิ่งติดดอกให้ผลองุ่นคุณภาพดี และเก็บเกี่ยวอย่างถนอม ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ปีนี้มีวันวาเลนไทน์และตรุษจีนอยู่ด้วยกัน ยิ่งสร้างความคึกคักมีส่วนร่วมจำนวนมากขึ้นกว่าทุกๆ ปีในเทศกาล "Harvest Festival 2010" ตามไร่องุ่นสำคัญๆ หลายแห่ง เช่น GranMonte ที่ตั้งรายทางบริเวณที่ราบเชิงเขาดงพญาเย็น

ภาพกลุ่มคนหนุ่มสาวและครอบครัวพ่อแม่ ลูกที่สนุกกับเกมแข่งขันตัดพวงองุ่นสีเข้ม ที่แฝงอยู่ในซุ้มองุ่นใบเขียวที่ปลูกเรียงรายเป็นทิวแถว ท่ามกลางแมกไม้และขุนเขาใหญ่ธรรมชาติที่สะอาดสดชื่นสวยงามยามเช้า สร้างบรรยากาศการท่องเที่ยวเชิงเกษตรหรรษาวันหยุดได้ดีกว่าเสียเงินไปเที่ยวยุโรปเสียอีก

ณ หุบเขาอโศก จะเห็นไร่องุ่นกรานมอนเต้ GranMonte Estate ของครอบครัว "วิสุทธิ์โลหิตนาวี" ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ทั่วบริเวณ มีองุ่นทั้งหมด 5 สายพันธุ์ 20 แปลง แลดูสะอาด และมีระเบียบเป็นทิวแถว อาศัยดินมวกเหล็กของผืนป่าพญาเย็นดุจมารดาที่เลี้ยงดูต้นองุ่นที่ทำไวน์แดงสายพันธุ์ Shiraz/Syrah, Cabernet Sauvignon, Tempranillo ส่วนองุ่นพันธุ์ทำไวน์ขาว เช่น Chenin Blanc, Verdelho/Brazil ก็ให้เติบโตตลอดทั้งปี ยิ่งปีที่แล้วผลผลิตออกมากกว่าเดิมสองเท่าทีเดียว นอกจากนี้ที่ไร่องุ่นแห่งนี้นิยมเก็บองุ่นด้วยมือทั้งหมดเพราะไวน์ที่มีคุณภาพดีราคาแพงมักจะใช้วิธีนี้ทั้งนั้น

ความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดินทองแห่งนี้ กล่าวกันว่าไทยเป็นประเทศแรกที่ปลูกองุ่นทำไวน์ในเขตโซนร้อน ที่มีพิกัดละติจูด 14-18 องศาเหนือ โดยผู้บุกเบิกรายแรก และครองตลาดไวน์ที่ใหญ่ที่สุดของไทยคือ PB Valley "เขาใหญ่ไวน์เนอรี่" ของปิยะ ภิรมย์ภักดี

ตั้งแต่ปี 2542-ปัจจุบัน ประมาณ 10 ปีกว่าที่วิสุทธิ์ โลหิตนาวีได้กรุยทางให้เกิดชุมชนคนรักวิถีแห่งไวน์ (The Way of Winery) เกิดขึ้นที่นี่

10 ปีผ่านมา ครอบครัวของวิสุทธิ์ โลหิตนาวีเป็นตัวอย่างหนึ่งของคนที่มีฝันและจินตนาการที่ต้องการใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ โดยผ่านทางวิถีคนรักไวน์ อาหารอร่อย และดนตรีไพเราะ พวกเขามุ่งมั่นและมานะบากบั่น จนกระทั่งสามารถพลิกฟื้นแผ่นดินให้เป็นขุมทรัพย์แห่งปัญญา และประกาศศักดิ์ศรีคนไทยว่าสามารถทำไวน์ชั้นยอดเยี่ยมให้โลกยอมรับได้ โดยปรากฏในรูปของรางวัล International Awards กว่า 30 รางวัล

ต้นปีนี้โรงบ่มไวน์แห่งแรกของ GranMonte Winery ได้ทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการโดยท่านประธานศาลปกครอง อักขราทร จุฬารัตน์ ซึ่งกล่าวชื่นชมไวน์เมกเกอร์ "วิสุตา โลหิตนาวี" ที่ใครๆ ก็เรียกเธอว่า "นิกกี้" ที่ทำงานดุจศิลปิน ผู้คิดสร้างสรรค์ประกายให้เกิดแก่ไวน์คุณภาพของ Gran-Monte เคียงข้างพ่อ-วิสุทธิ์ แม่-สกุณา พี่ชาย-แสนยา ซึ่งรับผิดชอบการตลาด และน้องสาว-มิมี่ ที่ศึกษาเศรษฐศาสตร์อยู่สหรัฐฯ

วิสุตาเป็นลูกสาวคนเก่งของวิสุทธิ์+สกุณา โลหิตนาวี ที่มีใจรักวิถีแห่งไวน์ เธอเพิ่งเรียนจบเป็นผู้ชำนาญการด้านการปลูกองุ่นและทำไวน์จากมหาวิทยาลัย Adelaide-South Australia สาขา Viticulture and Winery ซึ่งไม่เคยมีคนไทย เรียนมาก่อน แต่เธอได้เรียนรู้วิชาการปลูกองุ่น ดูดิน รู้เรื่องชิมไวน์และวิชา Winemaking advintage ทำเวิร์กชอปผลิตไวน์เอง โดยต้องศึกษาค้นคว้าว่าจะทำไวน์สไตล์ใด ผล ออกมากลุ่มของเธอที่ทำไวน์ขาว ครูให้คะแนนดีที่สุดในชั้นเรียน และทำให้เธอได้ทุนไปฝึกทำงานกับ Wolf Blass ไวน์ชื่อดังของออสเตรเลียสามเดือน

วิสุตาสนุกกับประสบการณ์เรียนรู้ในชาโตว์หลายแห่งที่ฝรั่งเศสและแอฟริกาใต้ ล่าสุดเธอไปทำงานที่ La Fleur de Bouard ของ Chateau Angelus จนเป็นที่ยอมรับของเจ้าของชาโตว์แห่งนี้คือ Mr.Hubert de Bouard รับเป็นที่ปรึกษาและบินมาไทยปีละ 2-3 ครั้งเพื่อติดตามให้ความรู้เรื่ององุ่นและไวน์อย่างพิถีพิถัน

ขณะเรียนและปิดเทอม เธอกลับมาช่วยพ่อแม่ดูแลไร่องุ่น ตลอดเวลา ฤดูกาลเก็บองุ่นในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ผ่านพ้นไป ทุกเช้าจะเห็นภาพหญิงสาวแต่งกายเรียบง่ายใส่ท็อปบู๊ตเดินลุยไล่ดูไร่ สำรวจต้นองุ่นสมบูรณ์หรือตัดเล็มยอดองุ่นที่ทอดยาวเพื่อมิให้ดึงอาหารจากลูกองุ่น หรือถ้าองุ่นให้ผลมากไปก็ต้องตัดทิ้งบ้าง

เมื่อจบกลับมาเมืองไทย ไวน์เมกเกอร์ไฟแรงอย่างวิสุตาได้ทุ่มเททำสิ่งที่เธอรักและอยากทำมากๆ คือ ไวเนอรี่ (GranMonte Winery) ถือว่าเป็นความฝันอันสูงสุดที่พ่อทำให้เธอภาคภูมิใจและเชื่อมั่นตัวเอง

ภายในโรงงานไวน์ที่ต้องควบคุมห้องเก็บถังไวน์ไว้ที่ 17 องศาเซลเซียส เพื่อป้องกันไวน์ระเหย ทุกถังเป็นผลงาน GranMonte ที่มีเสน่ห์ชวนดื่มระดับมาตรฐานโลกทั้งไวน์แดงและไวน์ขาว วิสุตาบอกเลยว่าไวน์สไตล์เธอจะออกแนวดื่มง่ายและมีความเป็นผลไม้มาก โดยเน้นรสชาติแท้ๆ ขององุ่น พันธุ์ที่ให้รสและสีหวานสวยน่าลิ้มลองมากที่สุด เริ่มจาก 2009 Sakuna Rose Syrah (สกุณาโรเซ่ ซึ่งนำชื่อคุณแม่มาตั้งชื่อ), 2009 Spring Chenin Blanc และ 2009 Sole Unwooded Chenin Blanc นี่คือ Top-3 ของGranMonte ที่ประสบความสำเร็จมากๆ

วิสุตาเป็นไวน์เมกเกอร์สาวที่มี passion รับรู้รสที่วิเศษ เธอสามารถแยกแยะรสชาติผลองุ่นที่ให้ผลแตกต่างและท้าทายให้สร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น เช่น ระยะก่อนเก็บผลใกล้สุก ต้องชิมแล้ววัดน้ำตาล กรดและรสชาติว่า น้ำตาลถึงระดับที่ต้องการไหม เช่น ทำไวน์ขาว น้ำตาลจะต้องอยู่ที่ 21-23 บริกซ์ ส่วนไวน์แดงประมาณ 23 บริกซ์ เพราะถ้าบ่มเสร็จแล้วน้ำตาลจะเปลี่ยนเป็นแอลกอฮอล์ประมาณ 12.5%

ขั้นตอนการหมักองุ่นในถังสแตนเลสหรือในถังไม้โอ๊กที่จะทำปฏิกิริยาทำให้ไวน์นุ่มนวล สีสดและมีรสชาติดี ในฐานะไวน์เมกเกอร์สาวที่ชำนาญการและมีประสาทการรับรสที่ดีกว่าผู้ชาย เธอจะต้องคอยเช็กน้ำตาล เช็กแอลกอฮอล์ เช็กอุณหภูมิ และคอยชิมด้วยตัวเองทุกวันว่า พอใจไหมในรสชาติ สีและกลิ่นที่ต้องหอมหวาน ซึ่งมาจากเปลือกองุ่นที่มีความหวานที่หาได้ยาก

นอกจากเป็นชาวไร่องุ่น และไวน์เมกเกอร์ทำไวน์เองแล้ว วิสุตายังดูแลออกแบบฉลากและขวดบรรจุกับฝาปิดขวดที่ส่วนใหญ่ขณะนี้นิยมจุกไม้ก๊อก แต่เธอมีความคิดที่จะเปลี่ยน แปลงเป็นจุกฝาเกลียวเมื่อตลาดคนไทยพร้อมรับ

ถึงแม้ว่าปัจจุบัน ตลาดไวน์ที่ผลิตจากแผ่นดินไทยยังมีส่วนแบ่งในตลาดเพียง 5% ของตลาดไวน์อิมพอร์ตต่างประเทศเท่านั้น ทั้งๆ ที่ความประณีตพิถีพิถันของการทำไวน์ระดับมาตรฐานโลกเกิดขึ้นที่นี่มานานกว่า 20 ปีแล้วก็ตาม

โลกของวิสุตาวันนี้คือ GranMonte และมีเป้าหมายเป็นไวน์เมกเกอร์ที่ทำหน้าที่ดุจศิลปินสร้างสรรค์รสชาติไวน์ไทยสู่ตลาดโลกให้ได้ ท่ามกลางฤดูกาลที่เปลี่ยนไปตามธรรมชาติ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.