Color Design Center มากกว่าแค่โชว์รูมขายสี

โดย สุภัทธา สุขชู
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( มีนาคม 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

เมื่อความหลากหลายของเฉดสีและนวัตกรรมเชิงฟังก์ชันใช้งานของสี ค่อยๆ ถูกหลอมละลายจนแทบไม่เห็นเค้าความแตกต่าง รูปแบบการดิ้นรนบนสังเวียนธุรกิจของแบรนด์สียักษ์ใหญ่ จึงต้องเริ่มแสวงหาแนวทางสู้ใหม่ๆ โดยหนึ่งในนั้น ได้แก่ การเปลี่ยนจากร้านโชห่วยขายสีมาเป็น Color Design Center ที่ขายมากกว่าสี คือขายคอนเซ็ปต์ใหม่เกี่ยวกับสีทาบ้าน

ทันทีที่เริ่มนึกจะทาสีบ้านหรือสีห้องใหม่ ภาพร้านขายสีตึกแถวที่ทั่วพื้นที่ของคูหาแน่นขนัดไปด้วยกระป๋องสี ที่วางเรียงซ้อนกันจนแทบจะสูงเท่าตัวคน พร้อม กับเจ้าของร้านและลูกจ้างที่ทักทายและให้ความช่วยเหลือได้มากสุดแค่เพียง "ต้องการสีอะไร" อาจลอยเข้าปะทะกับความคิด ให้แตกกระเจิง

ด้วยเข้าใจถึงธรรมชาติของร้านโชห่วยขายสียุคดั้งเดิม บริษัทอั๊คโซ่ โนเบล เพ้นท์ส (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของแบรนด์สี ICI Dulux จึงได้พัฒนาคอนเซ็ปต์ ร้านขายสีรูปแบบใหม่ขึ้นมา

จากร้านห้องแถวทึบอับ กลายเป็นโชว์รูมขายสีที่โปร่งสว่างด้วยเพดานสูง อัน เป็นอานิสงส์เนื่องจากที่นี่เคยเป็นโชว์รูมขายรถมาก่อน และจากร้านที่มักดูรกเลอะ ด้วยสต็อกกระป๋องสีจนแทบไม่มีช่องว่างให้เดิน เปลี่ยนเป็นร้านพื้นที่กว้างขวาง โล่งสบาย มีเพียงกระป๋องสีตัวอย่างจัดวางราว ของตกแต่งไม่กี่กระป๋อง ลูกค้าจึงสามารถเดินชมร้านได้ทั่ว

บรรยากาศร้านขายสีเช่นนี้เห็นได้ใน "ดูลักซ์ คัลเลอร์ ดีไซน์ เซ็นเตอร์" ร้านขายสีคอนเซ็ปต์ใหม่ของดูลักซ์ ซึ่งเพิ่งเปิดตัวร้านแรกบนถนนนวมินทร์ เมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

จากเดิมที่เจ้าของหรือลูกจ้างโชห่วย ขายสีไม่ช่วยแนะนำ บางร้านยังอาจทำราว กับลูกค้าไม่มีตัวตน แต่สำหรับโชว์รูมแห่งนี้ พนักงานทุกคนผ่านหลักสูตร "You-Talk" อันเป็นคัมภีร์บริการลูกค้าของบริษัท อั๊คโซ่ฯ นอกจากสามารถให้คำปรึกษาแบบมืออาชีพ ยังต้องพร้อมยกมือไหว้รับส่งลูกค้าทุกครั้ง และบริการด้วยรอยยิ้มเสมอ

ทั้งนี้ การยกระดับดีไซน์ร้านและมาตรฐานบริการถือเป็นส่วนหนึ่งในแพ็กเกจร้านโฉมใหม่

นอกจากบริการฉันมิตร โชว์รูมใหม่ยังมีบริการที่เรียกว่า Consultant Service หรือบริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทาสี โดยผู้เชี่ยวชาญ บริการออกแบบสีบ้านด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถมองเห็นภาพบ้านหรือห้องถูกทาด้วย สีที่ตั้งใจเลือกผ่านหน้าจอ ภายในไม่กี่นาที

หากยังไม่พอใจสีที่เลือก จะทดลองเอาสีที่ชอบผสมกับสีที่ถูกโฉลก หรือเอาสีโปรดของเจ้าของบ้านทาคู่กับสีโปรดของแฟนก็ได้ และถ้าไม่มีแรงบันดาลใจในการเลือกสี ที่นี่ก็มีคู่มือเลือกสี มีแค็ตตาล็อกสีให้เลือกกว่า 2,000 เฉด และยังมีภาพตัวอย่างห้องในหลากสีหลายอารมณ์มาโชว์เพื่อกระตุ้นจินตนาการด้านสีให้ลูกค้าได้เลือกทดลองฉาบลงบนบ้านผ่านทางหน้าจอได้จนกว่าจะถูกใจ

แต่ถ้าบังเอิญมีสีผนังเก่ากะเทาะหลุดมา หรือมีเศษผ้าบุเฟอร์นิเจอร์สุดรัก แล้วอยากได้สีตามนั้น ก็สามารถนำมาเทียบกับเครื่องมือเทียบเฉดสีที่มีชื่อว่า Spectro Photometer เพื่อแปลงเป็นรหัสสีของดูลักซ์ ก็ยังทำได้

เมื่อได้รหัสสีที่ถูกใจ จากนั้นไม่กี่นาทีลูกค้าก็จะได้สีที่เลือกกลับไปเนรมิตบ้านหรือห้องให้ได้สมใจ ด้วยเครื่องผสมสีที่มีไว้บริการ

อันที่จริง ทั้งโปรแกรมออกแบบสีและเครื่องผสมสี ไม่ถือเป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของวงการสี เพราะแบรนด์ใหญ่แทบทุกแบรนด์ล้วนมีซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์เหล่านี้ทั้งนั้น เพียงแต่ที่ผ่านมา แบรนด์ต่างๆ จะให้บริการออกแบบสีบ้าน และแก้ไขงานจนกว่าลูกค้าจะพอใจผ่านทางโทรศัพท์ ส่งไปรษณีย์ หรืออีเมล โดยมีศูนย์ปฏิบัติการอยู่ที่ออฟฟิศหรือโรงงานของแต่ละแบรนด์ ซึ่งมักใช้เวลานาน 5-10 วันกว่าจะจบเคส เมื่อได้สีแล้ว ลูกค้าก็ต้องนำรหัสสีไปหาซื้อที่ร้านดีลเลอร์แบรนด์นั้นด้วยตัวเอง

แต่ถ้าอยากร่นเวลาก็อาจจะต้องโทรเข้าไปนัดฝ่าย Color Design Center แล้วบุกไปถึงโรงงานสีของแบรนด์นั้นด้วยตัวเอง

จึงอาจกล่าวได้ว่า โชว์รูมขายสีของดูลักซ์แห่งนี้นับว่าเป็น Color Design Center ที่ให้บริการแบบ One-Stop Service แห่งแรกและดูลักซ์ก็เป็นเจ้าแรกที่ยกศูนย์บริการนี้เขยิบเข้าไปใกล้ชิดกับผู้บริโภคมากขึ้น อันเป็นเจตนารมณ์หนึ่งในการพัฒนาคอนเซ็ปต์ของร้านโฉมใหม่ คือเพื่อเป็น "Consumer Connect" ของดูลักซ์

ส่วนเครื่องผสมสี โดยมากแบรนด์สียักษ์ใหญ่มักจัดหาเครื่องผสมสีให้ดีลเลอร์รายใหญ่ของตนเพื่อช่วยลดสต็อกสีให้กับร้านค้า จากเดิมเมื่อออกผลิตภัณฑ์ใหม่ 1 รุ่น ร้านค้า อาจต้องสต็อกสีเป็นสิบๆ เฉดเพื่อเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า ขณะที่เครื่องผสมสีจะใช้สีเบจ เป็นตัวหลัก แล้วใช้แม่สีที่ต้องการผสมลงไป ร้านค้าจึงไม่ต้องสต็อกสีหลายเฉดและไม่ต้องเสี่ยงกับสีค้างสต็อก

เหตุผลที่เราคิดค้นคอนเซ็ปต์ร้านรูปแบบใหม่ขึ้นมา ก็เพื่อช่วยให้ดีลเลอร์ที่เป็นโชห่วยขายสีธรรมดา เพราะด้วยการแข่งขันที่รุนแรงขึ้น ถ้าร้านขายสีไม่อัพเกรดตัวเอง สักวันก็เหมือนร้านโชห่วยทั่วไปที่ต้องล้มหายไปเพราะแข่งกับโมเดิร์นเทรดและร้าน 7-11 ไม่ได้" จรุง กาญจนภูมิ ในฐานะกรรมการผู้จัดการบริษัท อั๊คโซ่ โนเบล เพ้นท์ส (ประเทศไทย) เล่าถึงแรงบันดาลใจที่มาของโชว์รูมคอนเซ็ปต์ใหม่

สำหรับดูลักซ์ คัลเลอร์ ดีไซน์ เซ็นเตอร์ สาขานวมินทร์ ถือเป็นร้านที่ดีลเลอร์และบริษัท อั๊คโซ่ฯ ใช้เงินลงทุนร่วมกันราว 5 ล้านบาท โดยดีลเลอร์รับผิดชอบเรื่องการตกแต่ง ภาย ใต้ Look & Feel ที่บริษัทกำหนด ส่วนเครื่องผสมสี โปรแกรม ออกแบบสี และโปรแกรมในการบริหารการเงิน การขาย และบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า ตลอดจนหลักสูตรฝึกอบรมด้านบริการและวิธีค้าปลีกถือเป็นหน้าที่ของบริษัท

แม้ว่าดีลเลอร์เจ้าของร้านนี้จะไม่เคยอยู่ในธุรกิจสีมาก่อน แต่ก็มาจากวงการขายยาง ซึ่งร้านค้ายางมีการปรับตัวเป็นศูนย์บริการครบวงจรไปเกือบหมดแล้ว จรุงจึงใช้เวลาไม่ถึง 2 วัน ก็สามารถขายคอนเซ็ปต์ร้านใหม่ได้สำเร็จ

ความลำบากหลักกลับไปอยู่ที่การปรับทัศนคติของผู้บริหารบางคนที่คุ้นชินกับการบริหารงานในฐานะผู้ผลิต แต่ไม่คุ้นเคยกับการบริหารธุรกิจค้าปลีก รวมถึงทัศนคติของเจ้าของร้านรุ่นเก่า ซึ่งบางรายก็ทำได้เพียงรอให้ถึงยุคของคนรุ่นใหม่ ดังนั้นการปรับร้านให้ทันสมัยจึงถือเป็นกลยุทธ์ปรับตัวของดูลักซ์ เพื่อเตรียมตัวรองรับความต้องการของเจ้าของร้านเจนเนอเรชั่นที่ 2 ที่กำลังจะมา

"มันไม่ใช่อะไรที่เราจะไปผลักดันเขา ร้านแบบนี้ต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของดีลเลอร์ และต้องให้เขามีทัศนคติที่พร้อม หรือมองเห็นเองว่านี่แหละเหมาะกับลูกหลานของเขา"

ไม่เพียงการเปลี่ยนคอนเซ็ปต์ช่องทางขาย จรุงยังใช้โชว์รูมโฉมใหม่ในการขยายผลคอนเซ็ปต์ใหม่ของสินค้าสี จากวัสดุก่อสร้างไปสู่สินค้าแฟชั่นและตกแต่ง ด้วยการหยิบ กระแสของเทรนด์ใหม่ๆ ในตลาดแฟชั่นมาใช้

ภายในโชว์รูมแห่งนี้จึงมีพื้นที่จัดแสดงห้องตัวอย่าง ซึ่งจำลองผนังที่ถูกทาด้วย สีสันหลากหลายตามเทรนด์สีของปีล่าสุด โดยทุกปี ดูลักซ์จะมีการเปิดตัว Color Futures หรือเทรนด์สีหลักๆ ของแต่ละปี เพื่อให้ความรู้เรื่องสีและสร้างแรงบันดาลใจ ในการเลือกใช้สีให้แก่ลูกค้า

"เราหวังว่าร้านคอนเซ็ปต์ใหม่จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าสีเป็นเหมือนแฟชั่น ไม่ใช่ แค่วัสดุก่อสร้าง แต่เป็นเรื่องของการตกแต่ง เมื่อเป็นเช่นนี้การทาสีก็จะเข้ามาเกี่ยว ข้องกับชีวิตเขามากขึ้น"

จากวงจรชีวิตของสี (Product Lifecycle) ที่ยาวเฉลี่ยถึง 5-7 ปีสำหรับผู้บริโภค คนไทย จรุงเชื่อว่า หากทำให้ผู้บริโภคเห็นว่าสีเป็นสินค้าแฟชั่นหรือตกแต่งได้สำเร็จ วงจรชีวิตของสีจะลดลงเหลือ 2-3 ปี นั่นคือการบริโภคสีจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ

นอกจากนี้ โชว์รูมแห่งนี้ยังมีอีกหน้าที่สำคัญ คือการเป็นชาแนลในการสื่อสาร ทางการตลาดไปยังลูกค้า เหมือนกับที่ผู้บริหารในธุรกิจค้าปลีกมักเชื่อว่า "ร้านค้าคือ ป้ายโฆษณาที่สำคัญที่สุด"

ภาพของ London Eye, Beijing Stadium และ Portofino ของอิตาลี มีขนาด ใหญ่จนดูโดดเด่นถูกติดอยู่ด้านบนของผนัง เพียงเพื่อบอกข้อเท็จจริงที่น้อยคนนักจะรู้ว่า สถานที่อันมีชื่อเสียงระดับโลกเหล่านี้ล้วนใช้สีของบริษัท อั๊คโซ่ฯ

ดูลักซ์ คัลเลอร์ ดีไซน์ เซ็นเตอร์แห่งนี้ไม่เพียงเป็นแฟลกชิปสโตร์แห่งแรกในเมืองไทย โมเดลนี้ยังจะกลายเป็นต้นแบบในการพัฒนาคอนเซ็ปต์ร้านค้าปลีกของสีดูลักซ์ในอาเซียนอีกด้วย

ในธุรกิจสี ร้านขายสีถือว่ามีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจเลือกสีของเจ้าของบ้าน โดยเฉพาะเมื่อการแข่งขันยิ่งดุเดือดเพราะมีผู้เล่นมากราย อีกทั้งนวัตกรรมและเทคโนโลยีของสีเป็นเรื่องที่แทบไม่มีความต่าง ส่วนพฤติกรรมผู้บริโภค มักเลือกโทนหรือเฉดสีก่อนดูที่แบรนด์ ดังนั้นโชว์รูมขายสีจึงยิ่งทวีความสำคัญ เพราะต้องเป็นมากกว่า "ช่องทางขาย" นั่นคือการเป็น "ช่องทางการสื่อสาร" ของแบรนด์นั้น


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.