ใครเป็นใครในบริษัทค้าน้ำมันรายย่อย


นิตยสารผู้จัดการ( กันยายน 2529)



กลับสู่หน้าหลัก

บริษัทผู้ค้าน้ำมันรายย่อยเหล่านี้ ส่วนใหญ่มีพื้นฐานการกำเนิดมาจากการค้าแก๊สมาก่อนเกือบทุกบริษัท ภายหลังจากการถูกจำกัดโควต้าการนำเข้าแก๊ส และถูกห้ามนำเข้าโดยสิ้นเชิงในปี 2528 แล้ว หลายบริษัทก็ได้ดิ้นรนเพื่อที่จะยืนอยู่ต่อไป ด้วยการหันมาค้าน้ำมันดีเซลหมุนเร็วหรือโซล่าแทนเนื่องจากน้ำมันโซล่ามีราคาไม่แพงนัก พอที่จะซื้อได้

บริษัทน้ำมันอิสาน จำกัดบริษัทนี้ก็เป็นบริษัทหนึ่งที่เติบโตมาจากการค้าแก๊สมาก่อน ผู้เป็นเจ้าของบริษัทนี้ก็คือกลุ่มตระกูลธาระวณิช โดยมีชัช ธาระวณิช เป็นประธานกลุ่ม จุดเด่นของบริษัทน้ำมันอิสานก็คือ ติดต่อกับต่างประเทศได้เก่งมาก ซึ่งทุกฝ่ายก็ยอมรับ และสำหรับ ชัช ธาระวณิช นั้น ต้องยอมรับว่าคนผู้นี้เก่งมากทางด้านนี้ เคยซื้อน้ำมันจากต่างประเทศโดยตรงให้กับโรงกลั่นน้ำมันบางจากมาก่อน ดังนั้นพื้นฐานทางด้านนี้ของ ชัช ธาระวณิชจึงค่อนข้างที่จะแน่น ประกอบกับตระกูล ธาระวณิช เป็นเจ้าที่ดินรายใหญ่ในแถบจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดรอบข้าง ทำให้การปล่อยเงินของแบงก์ค่อนข้างจะง่ายสำหรับกลุ่มนี้ และสำหรับบริษัทนี้หากสาวกันให้ดี ๆ ก็จะไปถึงคน ๆ หนึ่งซึ่งอยู่อย่างเงียบ ๆ แต่ร่ำรวยมหาศาล คนผู้นี้คือ สุวิทย์ มหาแถลง คนผู้นี้เป็นคนที่ทุกคนในบริษัทน้ำมันอิสานเคารพนับถือและเป็นผู้ให้การช่วยเหลือจนบริษัทเติบโตมาจนถึงทุกวันนี้

บริษัทพลังสยาม จำกัดเป็นบริษัทที่กำเนิดมาจากแชร์วงใหญ่ของ นกแก้ว ใจยืนและบริษัทนี้ก็ยืนอยู่ได้นานเหมือนกัน เรียกว่าเกือบสองปีทีเดียว แต่เมื่อแชร์ล้มบริษัทก็ไปไม่รอดก็ล้มตามไปเหมือนกับบริษัทกรเพชรอิมปอร์ตเอ็กซ์ปอร์ต ซึ่งเป็นของนกแก้ว ใจยืน อีกบริษัทหนึ่งหลังจากที่บริษัททั้งสองนี้ล้มแล้ว ทรัพย์สมบัติไม่ว่าจะเป็นถังน้ำมันหรือลูกค้าต่าง ๆ ก็ได้ถูกโอนไปยัง บริษัท อุตสาหกรรมแก๊สสยาม จำกัด ซึ่งยังค้าน้ำมันอยู่จนทุกวันนี้

บริษัท อุตสาหกรรม แก๊สสยาม จำกัด บริษัทนี้เป็นของวรวิทย์ วีรบวรพงศ์ ผู้ค้าน้ำมันรายใหญ่ในเขตสมุทรปราการและมีการลงทุนบางส่วนจากนกแก้ว ใจยืน การเติบโตของบริษัทนี้เติบโตมาจาก การค้าแก๊สแอลพีจีมาก่อน และคนผู้นี้ไม่ค่อยจะชอบนักกับการค้าน้ำมัน ชอบที่จะค้าแก๊สมากกว่า เขาจึงไม่หวังมากในการที่จะสร้างปั๊มน้ำมัน หรือติดต่อกับต่างประเทศให้มาลงทุนร่วมเหมือนอีกหลายบริษัท เขาเองยังหวังว่า โอกาสทองของการค้าแก๊สจะต้องมีมาอีกแน่นอน หลายคนก็ไม่เชื่อว่าเขาจะไปได้ไกลกว่านี้ เพราะเงินทุนขณะนี้ไม่ดีมากนักอาศัยการช่วยเหลือของจอบเบอร์บางกลุ่ม และมีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากว่า ถ้าทางรัฐบาลยึดทรัพย์ นกแก้ว ใจยืนเมื่อไหร่ อุตสาหกรรมแก๊สสยามอาจจะหงายท้องก็ได้

บริษัทสยามสหบริการ จำกัด เจ้าของคือ มงคล สิมะโรจน์ อดีตผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพฯ หรือที่เรียกสั้น ๆ ว่า ขสมก. นั่นเอง มงคลร่ำรวยมาจากธุรกิจของตัวเองที่มีอยู่ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทขนส่งจำกัดเกือบหมด บริษัทสยามสหบริการ นี้ก็เป็นบริษัทที่ทำการขนส่งมาก่อนและถึงตอนนี้ก็ยังรับบริการขนส่งทั้งทางบกและทางทะเลอยู่ ประกอบกับการทำธุรกิจขนส่งเช่นนี้ มงคลจึงมีทั้งรถและเรือเป็นของตัวเองอยู่เป็นจำนวนมาก เรียกว่า น้ำมันที่เขาสั่งเข้ามาขายนั้น เกือบ 30 เปอร์เซ็นต์ ถูกขายให้กับบริษัทตัวเอง

บริษัทฮาร์ทออยล์สยาม อิมปอร์ตเอ็กซ์ปอร์ต จำกัด อร่าม กระบวนรัตน์กับ พ.อ. ประจักษ์ สว่างจิตร อดีตยังเติร์กชื่อดัง ได้ก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมา แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จถูกถอนใบอนุญาตผู้ค้ำน้ำมันไปแล้วเมื่อเร็ว ๆ นี้ อร่าม กระบวนรัตน์ นั้นเดิมเป็นเจ้าของจอบเบอร์ที่เชลล์ไว้เนื้อเชื่อใจมากที่สุดคนหนึ่งและก็เคยเป็นถึงนายกสมาคมผู้ค้าน้ำมันมาก่อน การรู้เรื่องในวงการนี้อร่ามจึงมีมาก ลูกค้าที่อยู่ในมือก็มาก แต่เป็นที่คาดกันมาว่า ถึงแม้จะขอใบอนุญาตผู้ค้ำน้ำมันใหม่ก็คงเหนื่อย เนื่องจาก พ.อ. ประจักษ์ คงไม่เอาด้วยแล้ว และอร่ามเองก็ไม่มีเงิน นอกจากว่าเชลล์จะให้การสนับสนุนขึ้นมาใหม่

บริษัท เจริญมั่นคง จำกัด บริษัทนี้เป็นของวัฒนา อัศวเหมซึ่งร่วมลงทุนร่วมกับลูก ๆ ของสังข์ พัธโนทัย อดีตคนสนิทจอมพล ป. พิบูลสงคราม สังข์ พัธโนทัย ผู้นี้นั้น มีความสนิทสนมแนบแน่นกับทางสาธารณรับประชาชนจีนมากในช่วงที่ไทยตัดความสัมพันธ์กับจีนนั้น นักการเมืองที่จะติดต่ออย่างลับ ๆ กับทางประเทศจีน ก็ติดต่อผ่านคนนี้แหละ ความสัมพันธ์อันแนบแน่นนี้มีมานานจนถึงยุคนี้ประกอบกับวัฒนา อัศวเหมเป็นคนที่สนิทสนมกับสังข์ ทุกคนเรียกวัฒนา อัศวเหมนี้ว่า "พ่อ" ดังนั้นวัฒนา อัศวเหมจึงติดต่อกับทางประเทศจีนได้ง่ายและหวังว่า ด้วยความนับถือที่มีกันมานานนั้น ประเทศจีนจะเข้ามาร่วมลงทุนด้วย แต่แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็ล้มเหลว วัฒนา อัศวเหม โด่งดังและร่ำรวยขึ้นมาในสมัยจอมพลสฤษดิ์และถนอม

บริษัทคอสโมออยล์ จำกัด บริษัทนี้เป็นของบุญเลิศ ชาติวิวัฒน์พรชัย กับกลุ่มตระกูลลาภประชา แม้ว่าจะได้รับใบอนุญาตมาแล้ว และมีการสร้างคลังเก็บน้ำมันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ตาม แต่มีปัญหาในด้านการเงินที่จะเอามาใช้เป็นเงินทุนในการหมุนเวียนซื้อน้ำมัน การเปิด แอลซี. ของบริษัทนี้ จึงมีปัญหามากกับแบงก์โดยเฉพาะที่แบงก์เอเชีย

บริษัทสหไทยพานิช ปิโตรเลียม จำกัด บริษัทนี้มาอย่างโด่งดังมาก เพราะมีรายชื่อคนดัง ๆ อยู่คับคั่งไม่ว่าจะเป็นดิลก มหาดำรงค์กุล แห่งธนาคารนครหลวงไทย วันชัย จิราธิวัฒน์ แห่งกลุ่มเซ็นทรัลหรือ วานิช ไชยวรรณ แห่งกลุ่มไทยประกันชีวิต แต่จะว่าไปแล้ว ผู้ที่อยู่เบื้องหลังบริษัทนี้แท้จริงก็คือกลุ่มที่เป็นเจ้าของ ห้างหุ้นส่วนไทยพานิชบริการ นั่นเอง คนกลุ่มนี้ประกอบไปด้วย คุณจิวเจริญ,ประสิทธิ์ วัฒนกำจร,วิรัช วงศาโรจน์ เคยค้าน้ำมันมาครั้งหนึ่งแล้วในนามห้างหุ้นส่วนไทยพานิชบริการ แต่ก็ล้มเหลว ถูกถอนใบอนุญาตไป ครั้งนี้ขอใบอนุญาตอีกครั้งในนามบริษัทสหไทยพานิชปิโตรเลียม จำกัด ซึ่งก็ได้ดึงบุคคลที่เงินหนา ๆ ดังที่กล่าวแล้วเข้ามาเป็นกรรมการบริษัทด้วย แต่ก็ยังไม่ได้รับอนุญาต

บริษัทพายัพปิโตรเลียม จำกัด ผู้ก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้นมาคือ อำพล ตันทโอภาส กับ จิราพร แซ่บ่าง คนในกลุ่มบริษัทนี้เติบโตมาจากบริษัทน้ำมันอิสานและได้แยกตัวออกมาตั้งบริษัทใหม่ มีความโชกโชนและมีประสบการณ์ในวงการนี้มานาน กำลังขอใบอนุญาตอยู่ในขณะนี้

บริษัทศรีกรุงวัฒนาจำกัด ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า นี่เป็นของสว่าง เลาหทัย ขณะนี้กำลังขอใบอนุญาตอยู่ สว่าง เป็นที่จับตามองของหลาย ๆ คนมากว่าถ้าลงมาเล่นจริงๆ และก็ได้ใบอนุญาตผู้ค้ำน้ำมันแล้ว คนผู้นี้แหละที่จะขึ้นไปสู้กับยักษ์ใหญ่ได้ เนื่องจากความพร้อมทั้งทางด้านการเงิน และการติดต่อกับต่างประเทศถึงกับครั้งหนึ่งเคยมีข่าวออกมาว่าเขาคิดจะเอาพืชผลทางการเกษตรไปแลกเอาน้ำมันจากประเทศอิหร่านมา และคนในวงการน้ำมันก็เชื่อว่าถ้าสว่างทำจริง ๆ โฉมหน้าใหม่ของวงการน้ำมันก็อาจจะเปลี่ยนไป ในลักษณะที่มีการเพิ่มบริษัทใหญ่เข้ามาอีกบริษัทหนึ่ง แต่ปัญหาอยู่ที่แกจะขอใบอนุญาตผู้ค้าน้ำมันได้หรือเปล่า นี่เป็นปัญหาเฉพาะหน้าของ สว่าง เลาหทัย แห่งกลุ่มศรีกรุง



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.