คุณหญิงสุวรรณี พัวไพโรจน์ น้ำนิ่งไหลลึก

โดย ปัณฑพ ตั้งศรีวงศ์
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( มีนาคม 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

จากคอลัมน์ "รายงานผู้จัดการ" นิตยสารผู้จัดการ ฉบับเดือนเมษายน 2532 (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน www.gotomanager.com)

ผู้หญิงที่ถูกพูดถึงและมีข้อฉงนสนเท่ห์ต่อตัวเธอมากครั้งที่สุดในรอบสามเดือนแรกของปีนี้ เห็นทีจะต้องยกให้คนชื่อ "คุณหญิงสุวรรณี พัวไพโรจน์" ซึ่งดังกระหึ่มสุดขีด เมื่อเป็นคนไทยคนแรกซึ่งได้ร่วมลงทุนกับธนาคารแห่งรัฐของลาว จัดตั้ง "ธนาคารพาณิชย์แห่งแรกขึ้นในลาว"

ธนาคารพาณิชย์แห่งนี้อาจมีชื่อเก๋ไก๋ว่า "กสิกรลาว" ซึ่งกว่าที่จะเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้นั้น ข่าวซอกแซกแจ้งกับ "ผู้จัดการ" ว่า คุณหญิงเธอมีอารมณ์บูดอยู่หลายเพลา ทั้งนี้เพราะมีเสียงเชิงถากถางดูแคลนว่า "เชื่อเถอะ...คนอย่างคุณหญิงสุวรรณีมีหรือจะทำได้สัดส่วน 70% ที่ได้มานั้น ในที่สุดก็ต้องวิ่งเต้นหาแบงเกอร์คนไทยรายอื่นเข้ามาร่วม"

บ๊ะ...เล่นอะไรไม่ว่า ผ่าดันมาดูถูกอดีตนายกสมาคมชาวอีสานอย่างคุณหญิงว่าบ่มิไก๊ อย่างนี้ก็เหมือนกับลบเหลี่ยมกันง่ายเกินไป ว่าแล้วก็มีข่าวสายคุณหญิง กระชุ่นอย่างหนักแน่นออกมาว่า "แผนการลงทุนนี้ คุณหญิงขอเดินหน้าลุยด้วยตนเองทั้งหมด และขณะนี้กำลังหาสถานที่จัดตั้งอยู่ คาดว่าอีกไม่ช้ารูปธรรมของงานจะปรากฏให้เห็น"

"สะออนหลายที่คุณหยิงเอ็ดจังซี้" (ยินดีมากครับที่คุณหญิงใจกล้าท้าพิสูจน์อย่างนี้) แต่อย่างว่าแหละ เรื่องยากๆ พรรค์อย่างนี้ก็ต้องคอยดูกันต่อไปว่า ความใฝ่ฝันของคุณหญิงจะสัมฤทธิผลได้มากน้อยเพียงใด??

แต่ที่หลายคนสนใจมากในเวลานี้ก็คือว่า "คนอย่างคุณหญิงสุวรรณีมีดีอะไรมากนักหรือถึงกับที่รัฐบาลลาวยินยอมให้ใบอนุญาตจัดตั้งธนาคารพาณิชย์ ทั้งๆ ที่โครงการนี้ก็มีหลายคนคิดที่จะดำเนินการอยู่เหมือนกัน"!!

นอกจากนี้ธุรกิจด้านอื่นๆ ของคุณหญิงก็เป็นที่สนใจของหลายคนอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จของโครงการสยามคอนโดมิเนียม สี่แยก อ.ส.ม.ท.ที่สามารถขายพื้นที่ได้เต็ม 100% ภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว และล่าสุดข่าวคราวของคุณหญิงเกี่ยวกับสายสัมพันธ์ทางธุรกิจร่วมกับผู้ถือหุ้นใหญ่ของแบงก์แห่งหนึ่งที่อยู่แถวถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ที่มักมีลูกเล่น อะไรตลกๆ นอกระบบแบงก์พาณิชย์อยู่เสมอ

ประเด็นนี้ "ผู้จัดการ" พยายามถามไถ่และขอนัดสัมภาษณ์คุณหญิงจนนับครั้งไม่ถ้วน ยังไม่ได้รับการตอบรับอย่างเป็นทางการ ก็เลยยังไม่รู้ว่าคุณหญิงจะตอบปฏิเสธสายสัมพันธ์ลึกๆ ดังกล่าวนั้นหรือไม่?

ความเด่นดังของคุณหญิงสามารถวัดได้จากงานแต่งงานลูกชายเมื่อ 16 มีนาคมที่โรงแรมเซ็นทรัลพลาซ่า ซึ่งงานในคืนนั้น ปรากฏโฉมหน้าพ่อค้า นักธุรกิจ นักการเมืองไปร่วมงานด้วยอย่างคับคั่ง!!

สำหรับประวัติความเป็นมาของคุณหญิงที่ "ผู้จัดการ" ทราบมานั้น บอกจริงๆ ว่าออกจะสับสนอยู่ไม่น้อย เพราะบางสายก็บอกว่าพื้นเพเดิมของคุณหญิงเป็นคนสุรินทร์ แต่ว่า บางคนก็บอกว่ารากเหง้าเหล่ากอของคุณหญิงที่แท้จริงนั้นเป็นคนอุบลฯ และก็มีอีกหลายคนพูดว่า อันที่จริงพื้นฐานทางครอบครัวของคุณหญิงนั้นเป็นคนอ่างทองแค่นี้เอง

แต่ไม่ว่าอะไรก็ตาม คุณหญิงเธอก็สามารถเว้าภาษีอีสานได้อย่างสบายๆ!!

พื้นฐานทางธุรกิจของครอบครัวคุณหญิงนั้น ทำกิจการโรงงานไม้แปรรูป และไซโล ขณะที่ฝ่ายสามีคือเล็ก สิงห์สมบุญ ร่ำรวยมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง และเป็นเจ้าของท่าทรายถมดิน ซึ่งทั้งคู่ได้ขยับสายธุรกิจเข้าสู่เมืองกรุง ด้วยการตั้งโรงเรียนอนุบาลเพ็ญสันต์ และอีกหลายธุรกิจจนเป็นที่ฮือฮา ก็ตอนที่ขยับโครงการสยามคอนโดมิเนียม ซึ่งโครงการนี้ที่ขายได้เต็ม 100% ก็เพราะสามารถดึงเอาพรรคราษฎรกับพรรคพลังธรรม ให้เข้าไปใช้สถานที่จัดตั้งที่ทำการพรรคได้สำเร็จ

กับคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบัน นอกจากจะเป็นที่ยอมรับของ พล.อ.เทียนชัย ศิริสัมพันธ์ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคราษฎรแล้ว คุณหญิงยังมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดีกับ พล.อ. มานะ รัตนโกเศศ รมว.ศึกษาธิการ ส.ส.นครพนม คนอีสานบ้านเดียวกันกับคุณหญิง ซึ่งคุณหญิงเองก็เคยเป็นนายกสมาคมชาวอีสานมาแล้วถึง 2 สมัย เรียกได้ว่าถ้าไม่กว้างขวางจริง คงไม่ได้รับการยอมรับอย่างนี้แน่นอน

ซึ่งก็มีความเป็นไปได้ว่า เหตุที่คุณหญิงได้รับใบอนุญาตจากรัฐบาลลาวให้จัดตั้งธนาคารพาณิชย์ได้นั้น นอกจากความที่มีชื่อเสียง เป็นนักลงทุนระดับชาติแล้ว อาจเป็นเพราะ สายสัมพันธ์และความรู้สึกทางจิตใจ ในฐานะที่เป็นคนอีสานที่มีขนบธรรมเนียมและจารีตประเพณีใกล้เคียงกับลาว

"ตระกูลพัวไพโรจน์กับสิงห์สมบุญ แม้จะไม่โด่งดังมากนัก แต่ถ้าไปแถวสุรินทร์ ศรีสะเกษ แล้วเอ่ยชื่อสองตระกูลนี้ต้องเป็นที่รู้จักกันทั่ว ส่วนตัวคุณหญิงสุวรรณีเองก็ยัง

ไม่ได้ทิ้งอีสานไปเสียทีเดียว แกยังมีธุรกิจการค้าที่ให้คนอื่นดูแลในภาคนี้อีกมาก" แหล่งข่าว กล่าวกับ "ผู้จัดการ"

"ผู้จัดการ" อยากจะสรุปสั้นๆ ถึงตัวคุณหญิงสุวรรณี พัวไพโรจน์ว่า เธอเป็นผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่เราจะเขียนถึงอย่างลึกๆ และละเอียดอีกครั้งในอนาคต


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.