Mercure Hue จุดหมายใหม่จาก Accor


นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( มีนาคม 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

หากการลงทุนเพื่อเปิดให้บริการโรงแรมแห่งใหม่เป็นภาพสะท้อนความเชื่อมั่นและศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของแต่ละพื้นที่ การเปิดตัวของโรงแรมเมอร์เคียว เว้ เยอบีรา (Mercure Hue Gerbera) เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมาก็กำลังส่งสัญญาณที่น่าสนใจให้กับภาคธุรกิจท่องเที่ยวของไทยได้เป็นอย่างดี

เพราะภายใต้การบริหารจัด การจากเครือข่ายแอคคอร์ บริษัทบริหารจัดการโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกและใหญ่ที่สุดในประเทศเวียดนาม การแถลงข่าวเปิดตัวเมอร์เคียว เว้ เยอบีร่า ซึ่งเปิดให้บริการแล้ว ทำให้เมืองหลวงเก่าและดินแดนแห่งอารยธรรมของเวียดนามแห่งนี้พร้อมที่จะต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก

"เมอร์เคียวเป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการออกแบบและตกแต่งตัวอาคารให้ผสมผสานกับเมืองหรือสถานที่นั้นๆ ได้อย่างลงตัว เมืองเว้เป็นสถานที่ ท่องเที่ยวที่สำคัญและกำลังเป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยวจากนานา ประเทศ ทั้งนี้การเปิดตัวเมอร์เคียว เว้ เยอบีร่า จึงถือเป็นอีกหนึ่ง กลยุทธ์สำคัญของแอคคอร์ในการบุกตลาดและขยายตัวอย่างต่อเนื่องในประเทศเวียดนาม" แพทริค บาสเซท์รองประธานบริหาร ประจำเวียดนาม ฟิลิปปินส์ เกาหลีใต้และญี่ปุ่นของแอคคอร์ระบุ

เมอร์เคียว เว้ เยอบีร่าเป็นโรงแรมเมอร์เคียวแห่งที่สามในประเทศเวียดนาม หลังจากที่ได้เปิดทำการเมอร์เคียว ฮานอย ลา การ์ และเมอร์เคียว ดาลัท ไปก่อนหน้านี้

เมอร์เคียว เว้ เยอบีร่าเป็นโรงแรมสร้างใหม่สไตล์ร่วมสมัย ขนาด 110 ห้อง ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเว้ บนถนนเลอ ลอย ติดกับท่าเรือเฟอร์รี่ ซึ่งถือเป็นทำเลอันยอดเยี่ยมจากภายในห้องพักจะสามารถมองเห็นทัศนียภาพอันงดงามของเมือง รวมถึงภาพอันน่าประทับใจของแม่น้ำเหือง (Perfume River) และสะพานตรังเทียน

"มุมมองจาก 'สกาย บาร์' เลานจ์ บาร์บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรม ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถดื่มด่ำกับทัศนียภาพอันงดงาม ยามค่ำคืนได้อีกด้วย"

นอกเหนือจากสิ่งอำนวยความสะดวกที่โรงแรมที่พักพึงจะมีแล้ว จุดเด่นของเมอร์เคียว เว้น่าจะอยู่ที่การออกแบบให้ห้องพักแต่ละห้องสะท้อนให้เห็นถึงอารยธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ในแบบเว้ ผนวกเข้ากับศิลปะสไตล์ร่วมสมัยในแบบฉบับเมอร์เคียวได้อย่าง ลงตัว

เว้อยู่ห่างจากกรุงฮานอยเมืองหลวงของเวียดนามปัจจุบัน ประมาณ 1 ชั่วโมงโดยเครื่องบิน เว้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ในฐานะที่เป็นดินแดนแห่งประวัติ ศาสตร์อันยาวนานนับแต่ศตวรรษที่ 18 และมีฐานะเป็นเมืองหลวง ในสมัยจักรพรรดิเจียลอง

สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของเว้ ได้แก่ สุสานจักรพรรดิ ไคดินห์ เจดีย์เทียนมู่ (เจดีย์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเว้ และถือเป็นสัญลักษณ์ของเมือง) ป้อมปราการและเขตเมืองต้องห้าม ซึ่งกำลังได้รับการฟื้นฟูอยู่อย่างต่อเนื่อง

บางทีทางเลือกจุดหมายการเดินทางที่มากขึ้น อาจทำให้ความหวังที่จะเห็นการฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวไทยต้องเผชิญกับความยากลำบากมากขึ้นก็เป็นได้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.