ทีวีไดเร็ครุกสู้ปีเสือ ทุ่ม465ล.อดงบการตลาด


ASTVผู้จัดการรายวัน(2 มีนาคม 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

ทีวี ไดเร็ค เดินหน้าลุยธุรกิจต่อเนื่อง ทุ่มอีก 465 ล้านบาท บุกหนักปีนี้ แย้มเตรียมผุดสินค้าภายใต้แบรนด์ทีวี ไดเร็ค สู่ตลาดครึ่งปีหลัง เพิ่มช่องทีวีไดเร็คช่วยโอท็อป เน้นหนักคอลเซ็นเตอร์ ดันยอดขายสู่ 1,432 ล้านบาท โตขึ้น 28% หลังปีก่อนอกหัก ทำได้ 1,114 ล้านบาท ต่ำเป้า 6%

นายทรงพล ชัญมาตรกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวี ไดเร็ค จำกัด เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 2553 นี้ ทางบริษัทฯจะไม่เน้นขยายช่องทางขายเพิ่มเติม แต่จะเน้นช่องทางเก่าซึ่งมีกว่า 10 ช่องทางให้มีศักยภาพมากยิ่ง ขึ้น ภายใต้งบทั้งหมดที่เตรียมไว้กว่า 465 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 100 ล้านบาท

โดยงบดังกล่าวนั้นแบ่งออกเป็น งบด้านการตลาด 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 100 ล้านบาท งบการซื้อแอร์ไทม์ช่องเคเบิ้ลทีวีและทีวีดาวเทียม 42 ช่องจำนวน 100 ล้านบาท งบการเพิ่มพนักงานคอลล์เซ็นเตอร์ (Call Center) 15 ล้านบาท อีก 150 คน จากปัจจุบันมี 200 คน งบปรับปรุงสตูดิโอทีวี ไดเร็ค โฮมชอปปิ้ง 20 ล้านบาท และงบปรับปรุงรีเทล เอ้าเล็ตต่างๆของ ทีวีไดเร็ค ไม่ว่าจะเป็น ร้านไดเร็คทูยู 28 สาขา ร้านทีวีไดเร็คคาราวาน 78 สาขา และอื่นๆ สู่รูปแบบใหม่ ภายใต้แนวคิด ทีวีไดเร็ค โชว์เคส อีกประมาณ 30 ล้านบาท


อย่างไรก็ตาม ปีนี้ทางบริษัทจะมุ่งเน้นช่องทางคอลล์เซ็นเตอร์เป็นหลัก เนื่องจากพบว่า เป็นช่องทางที่มีศักยภาพในการดึงฐานลูกค้าเก่าที่มีกว่า 1 ล้านราย ให้สามารถสั่งซื้อยอดขายให้เพิ่มสูงขึ้นได้มาก รวมไปถึงช่องทางออนไลน์

จากการเปิดตัวเว็บไซต์ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา คาดว่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะเข้าถึงกลุ่มฐานลูกค้าใหม่ๆได้

ทั้งนี้ทางบริษัทยังมีแผนในการที่จะสร้างแบรนด์สินค้า ภายใต้แบรนด์ ทีวี ไดเร็ค เพิ่มขึ้นมาด้วย คาดว่าจะสามารถเปิดตัวได้ในช่วงไตรมาสสามหรือสี่ โดยสินค้าที่ออกจำหน่ายนั้น ยังเป็นสินค้าที่ครอบคลุมการใช้งานที่ผู้บริโภคต้อง

การทั่วไป เบื้องต้นคาดมี 2 แบรนด์ 3 กลุ่มสินค้า คือ เครื่องใช้ไฟฟ้า ของใช้ส่วนบุคคล และสินค้าเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งบริษัทจะลดการนำเข้านสินค้า จากจำนวนซัปพลายเออร์ผู้ผลิตกว่า 20 ราย ในต่างประเทศ ที่มีสัดส่วนสินค้ากว่า 65% และกลุ่มผู้ผลิตในประเทศที่มีสัดส่วน 35% ทั้งนี้มีเป้าหมายที่ต้องการเพิ่มสัดส่วนสินค้าที่ผลิตในประเทศเป็น 60% ภายในปี 2554

ส่วนช่องทางขายผ่านทีวี มาร์เก็ตติ้งนั้น ปีนี้จะได้เห็นรายการขายสินค้าของทางบริษัทผ่านทางทีวีดาวเทียมและเคเบิลทีวี และทางทรูวิชั่นส์ รวมกว่า 42 ช่อง รวมถึงฟรีทีวีทั้งช่อง 3,5,7,และ9 อย่างต่อเนื่องทั้งปี และที่สำคัญคาดว่าปีนี้จะได้เห็นการลงทุนเปิดตัวช่องรายการขายสินค้าของทางทีวีไดเร็คเพิ่มอีก 1 ช่องด้วย ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างทีวี ไดเร็คกับกลุ่มสินค้าโอท็อป จากทั้งหมด 500 รายทั่วประเทศ เชื่อว่าทางบริษัทจะสามารถนำสินค้าเหล่านี้มาจำหน่ายผ่านรายการได้ไม่ต่ำกว่า 100 ราย จากแผนเดิมในปีนี้ที่จะมีเพิ่ม 2 ช่อง คือ ช่อง Shop at Home ในเคเบิลทีวี และช่อง TV Shop ใน ทีวีดาวเทียม

จากแผนการดำเนินงานที่เตรียมไว้ เชื่อว่าสิ้นปี 2553 นี้บริษัทจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,432 ล้านบาท โตขึ้น 28% ขณะที่ปีก่อนทำได้เพียง 1,114 ล้านบาท เติบโตเพียงแค่ 6% ซึ่งต่ำกว่าเป้ามหมายาที่วางไว้ที่ 1,234 ล้านบาท เพราะผลกระทบมาจากสถานการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจเป็นสำคัญ ถึงแม้ว่าผู้บริโภคยังมีกำลังซื้ออยู่ แต่ไม่มีอารมณ์ในการใช้จ่าย

ปัจจุบันทีวี ไดเร็ค มีฐานลูกค้าสมาชิกอยู่กว่า 1 ล้านคน คาดสิ้นปีนี้จะมีเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านคน โดยลูกค้ามียอดการใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 3,700 บาทต่อคนต่อครั้ง ลดลงเล้กน้อย ขณะที่จำนวนลูกค้าสมาชิกนั้นมีการเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 100,000 รายต่อเดือน

สำหรับตลาดแบบตรงนั้น ปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 7,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าในปีนี้มีแนวโน้มการเติบโต 30% สาเหตุหลักน่าจะมาจากการที่มีสถานีทีวีดาวเทียมเกิดขึ้นมาจำนวนมากส่งผลต่อช่องทางการขายที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งคาดว่าจะมียักษ์ใหญ่ 2 รายจากเกาหลีและญี่ปุ่นที่มีแผนจะรุกเข้าตลาดในไทยด้วย


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.