PSLเริ่มทยอยรับเรือใหม่เข้ากอง หวั่นค่าระวางลดกระทบรายได้


ASTV ผู้จัดการรายวัน(23 กุมภาพันธ์ 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

"พรีเชียส ชิปปิ้ง "ทยอยรับเรือใหม่เพิ่มขยายกองเรือ หลังปีก่อนขายเรือเก่าไป 25 ลำ ปลายมีนาคมคว้าเรือมือสองเข้าเสริม 1 ลำ และครึ่งปีหลังรับเรือใหม่เสริมทัพอีก 2 ลำ อ่อยจำนวนเรือลดกระทบรายได้รวม เน้นทำสัญญาเช่าเรือระยะยาวกับลูกค้าเพิ่มลดเสี่ยง คาดค่าระวางเรืออยู่ที่ 12,500 เหรียญสหรัฐ/ลำ/วัน ส่อดึงรายได้ลดลงตาม ยันกระแสเงินสดในมือล้นแถมไร้หนี้ พร้อมจ่ายปันผลผู้ถือหุ้นต่อเนื่อง

นายคาลิด มอยนูดดิน ฮาชิม กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรีเชียส ชิปปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือPSL เปิดเผยว่าปีนี้บริษัทมีกำหนดการที่จะรับมองเรือเพิ่มเข้ามา 3 ลำ โดย ลำแรกจะเป็นเรือมือสองที่มีอายุการใช้งานน้อยเข้ามาประจำการช่วงปลายมีนาคมหรือต้นเมษายนนี้ ส่วนอีก 2 ลำจะเป็นช่วงครึ่งหลังของปี53ซึ่งเป็นเรือที่บริษัทสั่งต่อใหม่ทั้งหมด 18 ลำ โดยจะทยอยรับมอบตลอดระยะเวลา 5 ปีจากนี้ (53 -57)

สำหรับปี 52 บริษัทดำเนินการขายเรือเก่าตามแผนลดอายุกองเรือออกไปแล้วทั้งสิ้น 25 ลำ จากจำนวนกองเรือขนส่งสินค้าทั้งหมด 44 ลำ และรับมอบเรือใหม่เข้ามาสมทบลำแรก เมื่อปลายปีที่ผ่านมา 1 ลำ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของลูกค้าในการเลือกทำสัญญากับบริษัท ว่าถ้าลูกค้าเลือกสัญญา 12 -15 เดือน ก็จะส่งผลต่อ EBITDA ประมาณ 3.28 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ถ้าเลือก 25-28 เดือนก็จะส่งผลต่อ EBITDA ประมาณ 7 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยคาดว่าภายในมีนาคมนี้ จะสามารถสรุปรูปแบบการตัดสินใจได้

ส่วนเรืออีก 1 ลำที่จะรับมอบช่วงมีนาคมนั้น บริษัทจะนำเรือดังกล่าวไปเดินสินค้าให้กับลูกค้าเดิมที่ยังมีสัญญาระหว่างกันอยู่อีก 4-5 ปี เพื่อทดแทนเรือเดิมที่ขายออกไป ซึ่งจะสร้าง EBITDAให้แก่บริษัท 15.29 ล้านเหรียญสหรัฐ

โดยประเมินว่า ปีนี้ค่าระวางเรือของบริษัทจะลดลงมาที่ประมาณ 12,500 เหรียญสหรัฐ/ลำ/วัน ลดจากปีก่อน ที่อยู่ในระดับ 13,459 เหรียญสหรัฐ/ลำ/วัน เหตุจากจำนวนเรือที่ลดลง ขณะมีผู้ประกอบการเดินเรือเข้ามาแข่งขันมากขึ้น แต่ปี 54 บริษัทคาดว่าค่าระวางเรือจะฟื้นตัวกลับมาที่ 15,021 เหรียญสหรัฐ/ลำ/วัน เนื่องจากความต้องการขนส่งสินค้าทางเรือของประเทศจีนมีมากขึ้นตามความต้องการเหล็กและสินแร่ ซึ่งจะส่งผลให้ตลาดโดยรวมดีขึ้น รวมทั้งบริษัทที่จะได้รับมอบเรือที่สั่งต่อใหม่เข้ามาเพิ่มเข้ามา

" ภายใต้จำนวนเรือที่ลดลง จะส่งผลกระทบต่อรายได้รวมของบริษัทลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่การที่บริษัททำสัญญากับลูกค้าในการเช่าเรือระยะยาวถึง 63% ของความสามารถปัจจุบัน จึงช่วยลดความเสี่ยงจากสถานการณ์ตลาดในปัจจุบันนี้ได้ส่วนหนึ่ง" นายคาลิด กล่าว

นอกจากนี้ ยังยืนยันว่าบริษัทมีกระแสเงินสดในมือคงเหลือและไม่มีหนี้ค้างชำระ จึงทำให้เชื่อว่าในอนาคตยังสามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการลงทุนในแง่ของการซื้อเรือสั่งต่อใหม่และเรือเก่าก็ตาม รวมถึงไม่มีแผนหรือนโยบายที่จะลงทุนในธุรกิจอื่นที่นอกเหนือธุรกิจเดินเรือ เพราะเชื่อว่าธุรกิจเดินเรือยังมีอนาคตที่ดี เนื่องจากประเมินว่าความต้องการขนส่งสินค้าทางเรือจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเห็นได้จากความต้องการในสินค้าทั้งจีนและตะวันออกกลางที่ปรับตัวดีขึ้นมาแล้ว


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.