"หยุดลือกันเสียที…ผมจะทำงาน"

โดย ศุภชัย พานิชภักดิ์
นิตยสารผู้จัดการ( มิถุนายน 2528)



กลับสู่หน้าหลัก

“เนื่องจากว่าการบริหารบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์และเครดิตฟองซิเอร์ที่อยู่ในโครงการของทางการยังมีความสับสนหรือเข้าใจผิดกันในหมู่ประชาชนพอสมควร จึงอยากจะอธิบายเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องนี้ตั้งแต่มีการช่วยเหลือตามโครงการ 4 เมษายน 2527 การบริหารกลุ่มบริษัทเหล่านี้ในปัจจุบันและการแก้ไขปัญหาในอนาคต”

แรกเริ่มในการนำบริษัทเหล่านี้เข้ามาในโครงการ โดยการโอนหุ้นให้กับทางการนั้น จุดประสงค์ดั้งเดิม หรือความต้องการของทางราชการก็คือ ต้องการหยุดยั้งการสูญเสียความเชื่อมั่นในระบบสถาบันการเงิน ซึ่งประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องอย่างกะทันหันส่วนหนึ่ง และปัญหาการฉ้อโกงของผู้บริหารสถาบันการเงินบางแห่งอีกส่วนหนึ่ง

การขาดความเชื่อมั่นของประชาชนทำให้บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์หลายแห่ง มีประชาชนถอนเงินออกไปกว่าครึ่งหนึ่งของจำนวนเงินก่อนหน้าที่จะเกิดมีปัญหาเมื่อปลายปี 2526 หากทางการไม่เข้าไปแทรกแซงด้วยการโอนหุ้นเพื่อเข้าไปร่วมในการบริหารเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนใหม่แล้ว การขาดความเชื่อมั่นก็จะแพร่ไปทั้งระบบ และก่อให้เกิดความเสียหายไปยังแม้กระทั่งบริษัทที่มีฐานะมั่นคง และในที่สุดก็จะกระทบสถาบันการเงินเช่นธนาคารพาณิชย์ได้

การรับบริษัทเข้ามาในโครงการ 4 เมษายนนั้น ทางการได้กระทำไปด้วยเล็งผลประโยชน์ที่จะให้การคุ้มครองแก่ประชาชนผู้ฝากเงินเป็นสำคัญ มิใช่จะให้ความช่วยเหลือแก่ผู้บริหารของบริษัทที่เคยทำความเสียหายให้กับบริษัทมาแล้วและในกรณีที่บริหารผิดพลาดก่อให้เกิดสินทรัพย์ที่ไม่มีรายได้เป็นจำนวนสูง

ดังนั้นเงื่อนไขในการโอนหุ้นให้กับทางการจึงขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้บริหารที่จะชดเชยส่วนที่เสียหายที่ก่อให้ไว้กับบริษัท หากผู้บริหารไม่สามารถชดเชยได้ตามที่ทางการได้วางเงื่อนไขไว้ ทางการก็จะต้องให้มีการโอนหุ้นในอัตราที่สูงขึ้น นั่นคือ โอนโดยเด็ดขาดร้อยละ 25 เพิ่มขึ้นเป็นโอนโดยเด็ดขาดร้อยละ 75

แต่เนื่องจากด้วยความเห็นใจผู้บริหารชุดเดิม ก็ยังมีข้อกำหนดว่าทางการจะเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเดิมซื้อหุ้นกลับไปร้อยละ 50

อย่างไรก็ดี บริษัทที่ทางการได้รับโอนหุ้นเข้ามาในโครงการนั้น ส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่ได้ประสบความเสียหายด้วยสาเหตุสามประการในอดีต

ประการแรก บริษัทจำนวนหนึ่งได้ประสบความเสียหายเนื่องจากความซบเซาของตลาดหุ้นสืบเนื่องมาจากการปั่นราคาหุ้น เมื่อปี 2521-2522 การขาดทุนในการปล่อยสินเชื่อให้ประชาชนไปซื้อหลักทรัพย์นั้นเป็นปัญหาที่เรื้อรังและสะสมกันมาหลายปี การแก้ปัญหานั้นไม่ได้ประสบความสำเร็จไปทุกบริษัท บางบริษัทที่ประสบปัญหาในภายหลังได้แก้ปัญหา ด้วยการระดมเงินออมของประชาชนเข้ามา และปล่อยสินเชื่อให้แก่บริษัทในเครือของตัวเองเพื่อนำกำไรมาล้างส่วนที่สูญเสีย ซึ่งหลายๆ กรณีไม่ประสบความสำเร็จกลับทำให้บริษัทขาดทุนมากยิ่งขึ้น

ประการที่สอง บริษัทที่มีการขยายตัวจนผิดสังเกตเป็นบริษัทที่มุ่งแต่ระดมเงินกู้ยืมจากประชาชน จ้างผู้จัดการซึ่งรู้จักแต่การบริหารเร่งระดมเงินกู้จากประชาชน โดยไม่คำนึงถึงเรื่องการปล่อยสินเชื่อ แม้จะมีการกล่าวอ้างเพียงใดว่ามีความเป็นห่วงเป็นใยเงินออมของประชาชน ก็รู้เพียงด้านเดียวของการทำธุรกิจเงินทุน นั่นก็คือ การมุ่งแต่ระดมเงินฝาก การแถมของ การให้ดอกเบี้ยในอัตราที่สูงกว่าทางการกำหนด ในบางครั้งก็จ่ายเงินเป็นกรชดเชยภาษีหัก ณ ที่จ่ายแทนผู้ฝาก

การที่บริษัทโตโดยมุ่งแต่การระดมเงินกู้ยืมจากประชาชนแต่ฝ่ายเดียวโดยไม่มุ่งคุณภาพของสินเชื่อ ทำให้บริษัทเหล่านี้ประสบปัญหาในการที่ไม่สามารถประสานระยะเวลาเงินที่กู้ยืม จากประชาชนกับระยะเวลาที่ปล่อยสินเชื่อออกไป ได้รวมทั้งการปล่อยสินเชื่อก็ขาดความระมัดระวังและขาดประสิทธิภาพ ทำให้มีจำนวนสินทรัพย์ที่ไม่สามารถหารายได้เป็นจำนวนมาก

ประการที่สาม การบริหารเงินของบริษัทเป็นในลักษณะที่พึ่งผู้บริหารที่เป็นเจ้าของบางคนโดยไม่มีการกระจายอำนาจเท่าที่ควร การดำเนินธุรกิจจึงไม่มีการวางแผน ไม่มีการตรวจสอบควบคุมภายใน ไม่มีการทำบัญชีที่ถูกต้อง ทำให้บริษัทไม่สามารถมีพื้นฐานที่มั่นคงในการประกอบธุรกิจต่อไปได้

การเริ่มโอนหุ้นของบริษัทเหล่านี้เข้ามาเนื่องจากทางการต้องการให้ความคุ้มครองพิทักษ์ผลประโยชน์ของประชาชนจึงพยายามอย่างยิ่งที่จะใช้เวลาให้น้อยที่สุด และประนีประนอมในกรณีที่บริษัทไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ทางการวางไว้ได้ เพราะฉะนั้นฐานะของบริษัทที่ทางการรับเข้ามา เมื่อมีการตรวจสอบซ้ำก็พบว่า มีปัญหาเพิ่มเติมอีกหลายจุดมากกว่าที่เคยรู้มาก่อน

ในระยะแรกที่ทางการเข้าไปบริหารจึงมีการปล่อยเงินให้กู้ยืมเพื่อบริหารสภาพคล่องผ่านธนาคารกรุงไทย เพื่อคืนเงินให้ประชาชนที่เลื่อนเวลาการชำระคืนมาเป็นเวลานาน เรื่องการช่วยเหลือทางการได้ให้ความช่วยเหลือนับตั้งแต่วันที่บริษัทได้โอนหุ้นมาให้ ดังนั้น การที่มีการกล่าวอ้างว่าทางการไม่เคยให้ความช่วยเหลือเลยจึงไม่เป็นความจริง

การบริหารช่วงแรกของทางการนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะให้บริษัทมีเวลาพักฟื้นแก้ไขปัญหาภายในเสียก่อนจึงจะสามารถประกอบกิจการไปได้ตามปกติ ฉะนั้นใน 2-3 เดือนแรก บริษัทเหล่านี้จึงจำเป็นต้องมีการจัดทำระบบบัญชีใหม่มีการตรวจสอบภายใน จัดการว่าจ้างผู้บริหารที่มีความสามารถมาบริหารบริษัท และดำรงสินทรัพย์ให้ถูกต้องตามกฎหมายถึงจะประกอบธุรกิจต่อไปได้ ซึ่งบริษัทส่วนใหญ่หลังจากที่ได้เข้ามาในโครงการประมาร 3 เดือนก็สามารถประกอบกิจการต่อไปได้

ข้อนี้ก็ไม่ตรงกับที่บุคคลบางกลุ่มอ้างอีกว่าเมื่อมีการเข้าไปแล้วไม่ยอมเปิดโอกาสให้บริษัทเปิดทำงานตามปกติ และเจ้าหน้าที่ของทางการไปขัดขวางการประกอบธุรกิจ ข้อเท็จจริงแล้วทางการจะห้ามปล่อยสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันที่ถูกต้อง การปล่อยสินเชื่อโดยไม่วิเคราะห์โครงการ การปล่อยสินเชื่อให้กับบริษัทในเครือของผู้บริหารบริษัทเท่านั้น

ประการที่สาม มีการกล่าวอ้างอยู่เสมอว่าการบริหารบริษัทที่โอนหุ้นกับทางการเป็นการก่อให้เกิดการขาดทุนมากยิ่งขึ้น และควรเป็นความรับผิดชอบของผู้บริหารของทางการเท่านั้น ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า เนื่องจากบริษัทมีความจำเป็นที่จะต้องพักฟื้นในระยะแรก แต่มีภาระหนี้สินในเรื่องเงินกู้จากประชาชน เงินกู้จากสถาบันการเงินระหว่างกันตั้งแต่ก่อนทำให้มีการชำระเงินต้นและดอกเบี้ยคืน

รวมทั้งสินทรัพย์ที่มีอยู่ไม่สามารถสร้างรายได้ให้บริษัทได้ เป็นลักษณะปกติที่บริษัทนั้นต้องขาดทุน มิใช่เป็นเพราะการบริหารของเจ้าหน้าที่ทางการแต่อย่างใด เพราะไม่มีผู้ใดเข้าไปบริหารต่อเนื่องมาจากระยะที่มีการโอนหุ้นให้กับทางการ บริษัทก็จะมีปัญหาเรื่องการขาดทุนทั้งนั้น…ตามฐานะเดิมของบริษัท

ประการที่สี่มีความเข้าใจผิดอยู่มากในเรื่องการแก้ปัญหาด้านการเพิ่มทุนของบริษัท โดยมีการกล่าวอ้างว่า ทางการพยายามบีบผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทให้มีส่วนถือหุ้นน้อยลงตามลำดับนั้น ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า ในการบริหารบริษัทที่มีการขาดทุนสะสมมาตั้งแต่เดิม จำเป็นอย่างยิ่งในหลักการบัญชีที่จะต้องล้างส่วนขาดทุนเดิมออกไปเสียก่อนที่จะมีการเพิ่มทุนใหม่ เพื่อการให้เพิ่มทุนใหม่นั้นบริษัทสามารถเอาเงินก้อนใหม่ไปใช้ได้อย่างคล่องตัวไม่จำเป็นต้องชดเชยส่วนขาดทุนเดิมที่เป็นความรับผิดชอบของผู้บริหารเดิม

บริษัทธุรกิจทั่วไปที่มีการขาดทุนสะสมก็ใช้วิธีลดทุนก่อนที่จะเพิ่มทุนเป็นปกติอยู่แล้ว ทางการก็ให้มีการลดทุนก่อนที่จะเพิ่มทุน เป็นการลดทุนเพื่อสร้างส่วนที่สูญเสียเดิมของบริษัทที่ทำไว้แล้วก่อนที่ทางการจะเข้าไปบริหาร ทั้งนี้เพื่อความชอบธรรมของการประกอบธุรกิจต่อไป และเป็นความถูกต้องในแง่กฎหมาย มิใช่เป็นความต้องการของทางการที่จะลดส่วนของผู้ถือหุ้นเดิม

ในการเพิ่มทุนของทางการนั้นเพื่อทำให้ทุนของบริษัทกลับเข้าสู่ทุนเดิม และในหลายกรณียังเพิ่มจนสูงกว่าจำนวนทุนเดิมของบริษัทอีกด้วย นอกจากนี้ทางการยังเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นเดิมเข้ามาซื้อได้ในอัตราส่วนตามปกติ แต่ในกรณีที่ไม่สามารถซื้อหุ้นได้ ทางการก็จำเป็นต้องเข้ามาถือหุ้นเองเพื่อให้บริษัทมีจำนวนเงินทุนเพียงพอที่จะดำเนินธุรกิจต่อไปได้

ในประการที่ห้า ได้มีความพยายามของกลุ่มบุคคลบางกลุ่ม ซึ่งต้องการให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นเดิม กับฝ่ายทางการมีการกล่าวอ้างว่า การลดทุนของบริษัทเป็นการดำเนินการโดยมิชอบจากทางการ เพราะเป็นการลดทุนหลังจากที่โอนหุ้นให้กับทางการแล้ว

ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้มีอยู่ว่า ในระยะที่บริษัทที่โอนหุ้นให้กับทางการนั้น การตีราคาหุ้นตีตามฐานะของบริษัท โดยส่วนใหญ่แล้วราคาหุ้นที่แท้จริงมีราคาเท่ากับศูนย์หรือต่ำกว่าเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นการที่ทางการเข้ามารับภาระนั้นไม่ใช่เป็นการรับผลประโยชน์จากผู้ที่โอนหุ้นให้กับทางการ แต่เป็นการเข้ามารับภาระแทนผู้ถือหุ้นเดิมในขณะที่บริษัทมีทรัพย์สินไม่พอชำระหนี้สินทั้งหมดของบริษัทได้

เมื่อทางการเข้ามาแล้วและบริหารบริษัทได้จนบริษัทสามารถดำเนินการต่อไปได้ตามปกติและในอนาคตทำให้หุ้นมีราคากลับขึ้นมาได้ จะต้องถือว่าทางการเข้ามาทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้นจากราคาที่อาจเท่ากับศูนย์และไม่ใช่ราคาที่พาร์โดยสรุปและการบริหารบริษัทในโครงการช่วยเหลือในลักษณะ LIFE BOAT ของทางการเป็นการบริหารงานเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของผู้ฝากเงินโดยแท้จริง มิได้เล็งผลประโยชน์ว่าเป็นการช่วยเหลือผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นเดิมที่ได้รับผลประโยชน์อยู่แล้วจากทางการเข้ามารับภาระหนี้สินแทน ควรที่ผู้บริหารและผู้ถือหุ้นเดิมควรให้ความร่วมมือกับทางการอย่างแท้จริงเพื่อแก้ไขปัญหาของบริษัทดังเรื่องต่อไปนี้

ประการแรก เป็นเรื่องของการจัดระบบบัญชีและลูกหนี้ให้ถูกต้อง เพื่อให้มีการกำหนดได้ว่า ใครคือลูกหนี้ที่แท้จริงของบริษัทและเป็นลูกหนี้ที่มีแผนในการชำระเงินกู้ยืมจากบริษัทอย่างไร

ประการที่สอง ทรัพย์สินหลักประกันที่บริษัทได้จากลูกหนี้ที่ไม่ยอมชำระเงินตามสัญญาจะต้องได้รับการจำหน่ายออกไปเพื่อทำให้บริษัทมีเงินใช้ เป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยของบริษัท

ประการที่สาม ผู้บริหารเดิมของบริษัทซึ่งมีส่วนในการปล่อยสินเชื่อให้บริษัทในเครือของตัวเองนั้น ควรจะมุ่งเน้นในการบริหารบริษัทในเครือตัวเองให้ดีขึ้นเพื่อจะได้เงินมาชำระหนี้คืนแก่บริษัทเงินทุน แทนที่จะมุ่งเน้นในการบริหารบริษัทเงินทุนซึ่งพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าประสบความล้มเหลวในอดีต

ประการที่สี่ ผู้บริหารที่ได้โอนหุ้น ผู้ถือหุ้นที่ได้โอนหุ้นให้กับทางการควรจะมุ่งในทางที่จะปฏิบัติแล้วเพื่อให้ความร่วมมือกับทางการอย่างแท้จริง เพื่อเปิดโอกาสให้ทางการสามารถปรับปรุงระบบการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพและและช่วยให้บริษัทมีผลกำไรเร็วที่สุด ในบางครั้งการเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลมืออาชีพเข้ามาในการบริหารนั้น จำเป็นที่ทางการจะต้องใช้บุคคลมืออาชีพเข้ามาบริหาร รวมทั้งเป็นหูเป็นตาแทนทางการ ทั้งนี้มิใช่เป็นการตัดอำนาจผู้บริหารเดิม แต่ประสงค์ที่จะให้บริษัทบริหารอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

ประการที่ห้า นโยบายของทางการที่บริหารกลุ่มบริษัทเหล่านี้แบบ LIFE BOAT นั้น ทางการต้องการเห็นบริษัทแต่ละแห่งพยายามช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด แทนที่จะฝากความหวังไว้กับเงินช่วยเหลือของทางการแต่ถ่ายเดียว ในการช่วยเหลือตัวเองนั้น บริษัทจะต้องมีแผนในการระดมเงินออมที่สอดคล้องกับแผนในการปล่อยสินเชื่อ ต้องมีแผนที่จะใช้พนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช้พนักงานมากจนเกินไป ต้องมีการทำความเข้าใจกับผู้ฝากเงินที่เป็นไปในทางบวก เพื่อให้ผู้ฝากเข้าใจการบริหารของบริษัท เพื่อให้มีความเชื่อมั่นในบริษัทมากยิ่งขึ้น

ประการที่หก แนวโน้มบริษัทในโครงการของทางการรวมตัวนั้นถือเป็นนโยบายที่สำคัญของทางการที่จะช่วยให้บริษัทที่รวมตัวกันได้มีปึกแผ่นมั่นคง มีฐานเงินทุนที่ใหญ่พอที่จะขยายธุรกิจไปได้อย่างแข็งแรง การรวมตัวสามารถ ให้บริษัทได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการต่างๆ เพิ่มขึ้นโดยทางการ และอาจได้รับอนุญาตให้ขยายขอบเขตงานไปยังต่างจังหวัดอีกด้วย

ถึงแม้การรวมตัวอาจจะมีปัญหาในเรื่องการกำหนดราคาหุ้น กำหนดฐานะสินทรัพย์และหนี้สินก็ตามก็ถือว่าเป็นกระบวนการที่สมควรได้รับการปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง และควรที่จะมีการร่วมกันในการกำจัดอุปสรรคในการรวมตัวให้เป็นผลสำเร็จ การรวมตัวที่สำเร็จลงจะเป็นตัวอย่างที่ดี ซึ่งจะทำให้มีการรวมตัวกันเกิดขึ้นหลายกลุ่ม ซึ่งจะทำให้นโยบายการควบคุมกำกับบริษัทเหล่านี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และการที่บริษัทเหล่านี้จะดำเนินธุรกิจในลักษณะของ INVESMENT BANK ที่ต้องทำธุรกิจในลักษณะของการขายส่ง WHOLE SALE ที่ดีเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความมุ่งหวังของทางการที่จะช่วยเหลือบริษัทในโครงการให้เป็นผลสำเร็จได้นั้น ส่วนหนึ่งเป็นความต้องการที่จะสร้างระบบ INVESMENT BANK ให้เป็นที่ประจักษ์ชัด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการที่จะสร้างความแข็งแรงให้กับเสถียรภาพทางการเงิน และเป็นการสร้างแหล่งเงินทุนระยะยาวเพื่อตอบสนองความต้องการของระบบเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นบริษัทเงินทุนที่ได้รับการช่วยเหลือจากทางการแล้ว ทางการก็ยังมีความมุ่งหวังว่าจะสามารถยืนหยัดได้ด้วยตนเอง รวมทั้งสามารถช่วยเหลือบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์อื่นโดยเฉพาะในกลุ่มอิสระ หากจะมีบริษัทที่เกิดปัญหาขึ้นอีกในอนาคตอาจจะเป็นเหมือนตัวแทนของทางการที่ดูแลทุกข์สุขของสถาบันการเงินต่อไป



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.