ฉลองเครื่องราชอิสริยาภรณ์ญี่ปุ่นงานนี้วัดบารมีคนชื่อ "ลี้เฮงเทียม"


นิตยสารผู้จัดการ( มิถุนายน 2528)



กลับสู่หน้าหลัก

การเดินเข้าไปในงานเลี้ยงสักงานหนึ่ง แล้วหวังจะได้พบบุคคลระดับยอดสุดในวงการธุรกิจของใต้ฟ้าเมืองไทย มาชุมนุมกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตานั้น ออกจะยากยิ่ง

โดยเฉพาะภาพที่คนทุกสำนักมายืนชูแก้วให้กันและกันนั้น ในรอบปีหนึ่งอาจได้พบเห็นเพียงครั้งสองครั้งหรืออาจหลายๆ ปีจึงจะมีขึ้นสักครั้งก็เป็นได้

เพราะเหตุการณ์อย่างนี้ อยู่ที่บารมีของเจ้าภาพเป็นสำคัญ

แต่งานเลี้ยงคืนนั้นเราจะเห็น ชิน โสภณพนิชยืนกิน "ซาซิมิ" อยู่หน้าซุ้มอาหารญี่ปุ่น เห็น สุวิทย์ หวั่งหลี ยืนคุยกับ ชวน รัตนรักษ์ และบรรเจิด ชลวิจารณ์ เห็นธานินทร์ นิมมานเหมินท์ ชนแก้วกับโชติ โสภณพนิช เห็นประสิทธิ์ กาญจนวัฒน์ คุยกับ สุนทร อรุณานนท์ชัย และผู้บริหารของสินเอเซียอีก 2-3 คน เห็น ดร.อำนวย วีรวรรณ กับชาตรี โสภณพนิช เดินเคียงคู่กันเข้ามาในงานพร้อมกับกลุ่มผู้บริหารธนาคารกรุงเทพกลุ่มใหญ่ และเห็นอีกหลายๆ คนซึ่งล้วนแต่เป็น "จอมยุทธ" จากค่ายสำนักใหญ่ด้วยกันทั้งสิ้น

คืนนั้นเป็นคืนวันที่ 11 มิถุนายน 2528

สถานที่ก็คือ ห้องนภาลัย โรงแรมดุสิตธานี

และเจ้าภาพผู้มีบารมีแก่กล้าพอที่จะเชิญเจ้ายุทธจักรจากทุกค่ายสำนักมาชุมนุมพร้อมหน้าพร้อมตากันได้นั้นชื่อ เทียม โชควัฒนา ประธานกลุ่มสหพัฒนพิบูล

เป็นงานเลี้ยงฉลองการได้รับพระราชทานเครื่องอิสริยาภรณ์จากองค์สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นของ เทียม โชควัฒนา หรือ "นายห้างเทียม" ที่วงการธุรกิจเรียกกัน

เครื่องราชอิสริยาภรณ์นี้มีชื่อเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า "คุนซันโตอุ-ซุยโฮโชอุ" หรือถ้าพากษ์ไทยก็คือ "ตริตาภรณ์รัตนมิ่งมงคล" ว่ากันว่าเป็นเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูงที่องค์สมเด็จพระจักรพรรดิญี่ปุ่นไม่ทรงพระราชทานให้ผู้ใดง่ายๆ

“เครื่องราชฯ ของญี่ปุ่นมีด้วยกัน 3 ระดับ ระดับที่หนึ่งนั้น จะมอบให้เฉพาะประมุขประเทศต่างๆ ระดับที่สองจะมอบเฉพาะรัฐมนตรีหรือข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่คุณเทียมได้รับพระราชทานนี้เป็นชั้นสาม ซึ่งเป็นชั้นสูงสุดที่บุคคลธรรมดาจะได้รับพระราชทาน…” อาจารย์สอนวิชาญี่ปุ่นในธรรมศาสตร์พูดกับ “ผู้จัดการ”

ดูเหมือนคนไทยที่เคยได้รับพระราชทานนั้น มีรัฐมนตรีคลังสมัยสมหมาย ฮุนตระกูล คนหนึ่ง และปีนี้มีผู้ได้รับพระราชทานพร้อมกับเทียม โชควัฒนา อีก 2 คน พิธีมอบเครื่องราชฯ “ตริตาภรณ์ รัตนมิ่งมงคล” เพิ่งจะจัดกันขึ้นที่สถานทูตญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนนี่เอง

คือก่อนหน้างานเลี้ยงฉลองที่จัดให้กับเทียม โชควัฒนา หนึ่งวัน

งานเลี้ยงฉลองคืนนั้นมีแขกรับเชิญราวๆ 500 คน จุดที่น่าตั้งข้อสังเกตมากก็คือ ผู้บริหารแบงก์มากันเกือบครบทุกแบงก์

“นี่ก็คงต้องอธิบายว่า ธุรกิจในกลุ่มนายห้างเทียมนั้นคบหากับแบงก์ทุกค่ายสำนัก ไม่มีแบงก์ไหนผูกขาดใครที่จัดการปัญหานี้ได้ย่อมไม่ใช่คนธรรมดา….” แขกรับเชิญในงานคนหนึ่งวิเคราะห์ให้ฟัง

อีกจุดหนึ่งที่น่าสังเกตเหมือนกันก็เห็นจะได้แก่ การได้พบเห็น “โสภณพนิช” ครบชุดในงานนี้

ตั้งแต่ผู้พ่อ-ชิน ไปจนถึงผู้ลูกคือ ชาตรี โชติ ชัย ชดช้อย และเชิดชู ดูเหมือนจะขาดชาญคนเดียวซึ่งเข้าใจว่า จะเดินทางไปต่างประเทศ

“คุณเทียมกับคุณชินเขารักใคร่สัมพันธ์กันมานานและเขาช่วยเหลือซึ่งกันและกันมาโดยตลอด เพราะฉะนั้นงานนี้โสภณพนิชจึงต้องมากันครบทุกคน…” คนที่ทราบปูมหลังอธิบาย

มีหลายคนพูดว่า งานเลี้ยงฉลองนั้นนอกจากจะเป็นการมาพบปะแสดงความยินดีแล้วก็ยังเป็นเครื่องวัดบารมีของคนด้วย

ก็เห็นจะต้องยอมรับว่า เทียม โชควัฒนา นั้นสะสมบารมีไว้มากมายเหลือเกิน



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.