ปีมิตรภาพเวียดนาม-จีน เปิดฉากด้วย “วิวาทะ”

โดย เจษฎี ศิริพิพัฒน์
นิตยสารผู้จัดการ 360 องศา( กุมภาพันธ์ 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

ผู้นำที่ปักกิ่งและผู้นำที่ฮานอยตัดสินใจถือเอาปี 2553 เป็น "ปีมิตรภาพเวียดนาม-จีน" เพื่อรำลึกการสถาปนาความสัมพันธ์การทูตครบรอบ 60 ปี

อย่างไรก็ดี เว็บไซต์ VOA News ภาษาเวียดนาม รายงานเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2553 ว่าในช่วงสัปดาห์แรกของปีใหม่ ทั้งสองฝ่ายได้โต้เถียงกันเกี่ยวกับแผนการของจีนที่มุ่งก่อสร้างเกาะไหหลำเป็นเกาะท่องเที่ยวนานาชาติ ซึ่งมีการส่งเสริมพัฒนาการท่องเที่ยวที่เตยซา ซึ่งเป็นหมู่เกาะที่ฝ่ายเวียดนามเรียกว่าหว่างซา (ฝ่ายตะวันตกเรียกว่า "พาราเซล") และถูกจีนยึดครองเมื่อปี 2517 ภายหลังการรบทางเรืออย่างดุเดือดกับกองทัพเรือของกองทัพสาธารณรัฐเวียดนาม

บรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนส่งเสียงปฏิเสธความสนใจที่มีการให้ความเห็นว่าแผนพัฒนาเกาะไหหลำที่คณะรัฐมนตรีจีนประกาศเมื่อเร็วๆ นี้ จะเพิ่มความตึงเครียดสำหรับกรณีพิพาทอาณาเขตกับเวียดนาม

หนังสือพิมพ์รายวันของจีนอ้างคำพูดของ เหวะ ลืวถ่าญ เลขาธิการพรรค มณฑลไหหลำ ที่กล่าวว่า "พวกผมเพียงพัฒนาการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ สังคม บนอาณาเขตและน่านน้ำทะเลของตัวเอง" และเรื่องนี้จะไม่สร้าง "ผลกระทบที่ไม่เป็นประโยชน์ให้กับประเทศอื่น" เหวะ ลืวถ่าญ ประกาศเช่นนั้นเมื่อวันพุธที่ 6 มกราคม 2 วันต่อมา เหงียน เฟือง งา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม ประณามแผนการของจีนที่มุ่งก่อสร้างเกาะไหหลำเป็นเกาะท่องเที่ยวนานาชาติ ซึ่งในแผนการนี้มีการเร่งพัฒนาการท่องเที่ยวที่เตยซา ซึ่งเป็นหมู่เกาะที่ฝ่ายเวียดนามเรียกว่าหว่างซา (ฝ่ายตะวันตกเรียกว่า สแปรตลี)

เหงียน เฟือง งา กล่าวว่าการกระทำของจีน "ละเมิดอธิปไตยของเวียดนามอย่างร้ายแรง" และ "ก่อความตึงเครียดและทำให้สถานการณ์ในทะเลตะวันออกซับซ้อนเพิ่มขึ้น" เธอกล่าวเพิ่มเติมว่า "เวียดนามเรียกร้องให้ฝ่ายจีนยุติการกระทำนี้ทันที"

ในวันเดียวกัน เอกอัครราชทูตจีนที่นครฮานอยได้จัดประชุมสื่อมวลชน โดยตามคำอธิบายที่ลงในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น คือมีจุดมุ่งหมาย "แจ้งให้ทราบเหตุการณ์ต่างๆ" และ "ประเมินเกี่ยวกับกระบวนการร่วมมือ 60 ปี จีน-เวียดนาม"

ในการประชุมสื่อมวลชนนี้ เอกอัครราชทูตจีน โตน ก๊วก เตื่อง กล่าวว่าปัญหาในทะเลเป็นปัญหาเด่นที่กำลังคั่งค้างอยู่ในความสัมพันธ์สองประเทศ แต่สองฝ่ายได้ตั้งกลไกการเจรจาและกำลังดำเนินการอย่างราบรื่น

เขากล่าวอีกว่า เวียดนามและจีนต่างก็เป็นประเทศสังคม นิยม โดยพรรคคอมมิวนิสต์เป็นแกนนำ "จึงไม่มีเหตุผลใดที่ไม่สามารถแก้ไขปัญหาคั่งค้างได้" เอกอัครราชทูตจีนย้ำข้อเสนอก่อนนี้ของผู้รับผิดชอบปักกิ่งเกี่ยวกับการพิพาทอธิปไตยทะเลตะวันออกว่าเป็น "การเลื่อนการโต้แย้งออกไปก่อนและร่วมกันใช้ประโยชน์"

ทัศนะของโตน ก๊วก เตื่อง ถูกโจมตีจากสาธารณชนเวียดนาม ทั้งภายในและต่างประเทศ แสดงความไม่พอใจต่อท่าทีของจีนและพฤติการณ์รุกล้ำอาณาเขตเวียดนาม

ในขณะแผนก่อสร้างเกาะไหหลำเป็นเกาะท่องเที่ยวนานา ชาติทำให้เพิ่มความขัดแย้งกับเวียดนาม บรรดาผู้นำเกาะแห่งนี้กล่าวว่ายังมีงานที่ต้องทำหลายอย่างเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่คณะรัฐมนตรีจีนวางไว้ในเอกสารที่ประกาศเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2553

ในการประชุมที่ปักกิ่ง ลา บ๋าวมิญ ผู้ว่าการมณฑลไหหลำ กล่าวว่าจิตสำนึกเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และจิตใจบริการการท่องเที่ยวของประชาชนไหหลำ ต้องยกระดับให้มากขึ้น

เขากล่าวว่า "พวกผมได้รับจดหมายร้องทุกข์หลายฉบับ ความจริงมีจดหมายหลายฉบับอ่านเสร็จแล้วพวกผมไม่เพียงรู้สึกปวดใจ แต่ยังรู้สึกขุ่นเคืองด้วย ตัวอย่างเช่นการขายสินค้าให้นักท่องเที่ยวด้วยราคาแพงลิ่ว บีบบังคับ หลอกลวงนักท่องเที่ยว ขายสินค้าปลอม สินค้าขาดคุณภาพให้นักท่องเที่ยว ยังมีหลายกลุ่มจัด ทัวร์ผิดกฎหมาย ขนส่งนักท่องเที่ยวผิดกฎหมาย เพื่อหลอกลวงบีบบังคับนักท่องเที่ยว ถึงแม้เรื่องเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนจำนวนเล็กน้อย แต่ก่อความเสียหายมากกับผลประโยชน์ของการท่องเที่ยว และทำให้เสียภาพพจน์ของไหหลำ"

เหวะ ลืว ถ่าญ เลขาธิการพรรค มณฑลไหหลำ ก็ยอมรับความคิดนี้ และกล่าวเพิ่มเติมว่าต้องยกระดับความรู้ของประชาชนโดยรวม และคุณภาพของพนักงานแขนงงานท่องเที่ยวโดยเฉพาะ

เหวะกล่าวว่า "ขอให้พวกผมมีเวลาสักเล็กน้อย ตัวอย่างเช่น ปัญหาเรื่องภาษา พวกผมต้องมีกระบวนการระยะยาวเพื่อให้มีคนรู้ภาษาอังกฤษ ภาษารัสเซีย เกี่ยวกับบริการต่างๆ ควบคู่กับกิจกรรมพัฒนาการท่องเที่ยว ผมคิดว่าสิ่งนี้มีความสัมพันธ์มากกับคุณภาพและมาตรฐานการเรียนรู้ของประชาชน ในแง่นี้พวกผมจะพยายามสุดกำลัง เพื่อดำเนินงานแต่ละก้าว"

ตามรายงานของสำนักข่าว Reuters ในวันที่ 5 มกราคม มาตรฐานการบริการยังอ่อนด้อย และการพิพาทอาณาเขตกับเวียดนามเป็นสิ่งกีดขวางสำคัญในความพยายามของจีน เพื่อให้ไหหลำกลายเป็นหนึ่งในบรรดาจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวนานาชาติ

บทรายงานกล่าวเพิ่มเติมว่า เพราะจำนวนเที่ยวบินมาไหหลำยังน้อย และการตรวจลงตราเข้าเมืองขาดความคล่องตัว ปี 2551 จำนวนนักท่องเที่ยวมาที่เกาะนี้มีเพียงประมาณ 20 ล้านคน ในจำนวนนี้มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศเพียง 730,000 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซียและเกาหลีใต้


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.