|
MODERNคุยQ1งานล้น
ASTVผู้จัดการรายวัน(18 มกราคม 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
โมเดิร์นฟอร์ม เผยไตรมาสแรกออเดอร์ล้นมือ ชี้กลุ่มผู้ประกอบการอสังหาฯ-โรงแรมกลับมาขยายการลงทุน หลังความเชื่อมั่นฟื้นตัว แจงปี52ปัจจับลบกระทบยอดขายในประเทศ-นอกประเทศหดตัว ส่งผลยอดผลประกอบการลดลงตำกว่าเป้าประมาณการรายได้14% เชื่อปี53รับอานิสงส์สิ้นสุดมาตรการอสังหาฯผู้ประกอบการเร่งโอนส่งผลยอดสั่งซื้อโตต่อนเอง พร้อมตั้งเป้ายอดปี53เติบโตไม่ต่ำกว่า20%
นายทักษะ บุษยโภคะ ประธานกรรมการบริหารบริษัท โมเดิร์นฟอร์ม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MODERN กล่าวว่า ในปี51บริษัทมีผลประกอบการรวม 3,000 ล้านบาท และมีกำไรข้างต้น380ล้านบาท ในขณะที่ปี52ที่ผ่านมาบริษัทมียอดขายลดลงเนื่องจากปัจจัยลบจากวิเศรษฐกิจ และปัญหาการเมือง โดยบริษัทประมาณการว่าผลประกอบการรวมในปี 52 ลดลงต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ประมาณ 14% ส่งผลให้ยอดประมาณการกำไรข้างต้นจะอยู่ที่ประมาณ280ล้านบาท
อย่างไรก็ตามแม้ว่าในปีที่ผ่านมาจะมีปัจจัยลบเข้ามากระทบตลาดโดยรวม ซึ่งส่งผลต่อยอดขายของผู้ประกอบการเฟอร์นิเจอร์ในตลาดตกลงทุกบริษัทในช่วงต้นปี แต่ในช่วงปลายไตรมาส3-4 ตลาดเริ่มปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในประเทศและทั่วโลกถูกแก้ไขจนเริ่มกับมาฟื้นตัว ทำให้ธุรกิจต่างๆ มีการขยายตัว รวมถึงธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำ ทำให้ในช่วงปลายปี52 มีออเดอร์สินค้ากลับเข้ามาอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกดังกล่าวทำให้ความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจ อสังหาฯ และโรงแรม รวมถึงตลาดออฟฟิศเช่า เริ่มมีการขยายการลงทุน และมียอดสั่งซื้อเฟอร์นิเจอร์กลับเข้ามาในปริมาณที่สูง ในขณะที่ก่อนหน้านั้น ทุกๆ บริษัทเร่งระบายพอร์ตสินค้าในมือที่มีอยู่ออกไปเพื่อรักษาสภาพคล่องทางการเงินของบริษัท ส่งผลให้ในช่วงปลายปีทุกๆ บริษัทมีสต็อกสินค้าจำนวนจำกัด รวมถึง โมเดิร์นฟอร์ด้วย ซึ่งเมื่อมีออเดอร์เข้ามาจำนวนมากจึ่งทำให้บริษัทไม่สามารถผลิตสินค้าได้ทันกับความต้องการสั่งซื้อได้
โดยที่ผ่านมาบริษัทต้องเร่งกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์กลุ่มที่อยู่อาศัยในประเทศ และกลุ่มเฟอร์นิเจอร์โรงแรมต่างประเทศ ซึ่งมีคำสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งในส่วนของเฟอร์นิเจอร์กลุ่มที่อยู่อาศัยนั้นส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มโครงการคอนโดมิเนียม เพราะช่วงก่อนหน้านั้นยอดขายคอนโดมิเนียมขยายตัวสูงมาก ในขณะที่กลุ่มที่อยู่อาศัยแนวราบมีคำสั่งซื้อรองลงมา สาเหตุที่ในช่วงปลายปีต่อเนื่องถึงไตรมาสแรกของปีนี้มีออเดอร์กลุ่มที่อยู่อาศัยเข้ามาจำนวนมาก เชื่อว่าเกิดจากทุกบริษัทต้องการเร่งส่งมอบและโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ซึ่งจะสิ้นสุดลงในช่วงปลายเดือน มี.ค.53 นี้
“ที่ผ่านมาออเดอร์จากต่างประเทศลดลงจำนวนมาก เนื่องตลาดต่างประเทศนั้นไม่มีการขยายการลงทุนทำให้ ตลาดรวมซบเทราลงไปด้วย แต่อย่างไรก็ตามในช่วงที่ตลาดไม่ขยายตัวนั้น บริษัทได้เข้าไปเจรจาและติดต่อกับลูกค้าไว้จำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจโรงแรมทำให้มีออเดอร์เข้ามาบ้าง แต่ส่วนใหญ่ลูกค้าจะชะลอการสั่งซื้อออกไป เมื่อเศรษฐกิจเริ่มฟื้น ลูกค้าเริ่มมีความเชื่อมั่นในการขยายการลงทุน ทำให้มีการสั่งออเดอร์เข้ามาพร้อมกันจำนวนมาก บริษัทจึงผลิตสินค้าส่งให้ไม่ทัน”
นายทักษะ กล่าวว่า ในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าว่าจะมียอดขายเติบโตจากปี52ประมาณ 20% หรือมียอดขายรวมเท่ากับปี51คือ 3,000 ล้านบาท โดยยังคงสัดส่วนรายได้จากการขยายสินค้ากลุ่มออฟฟิศอยู่ที่ 55% และสัดส่วนรายได้จากการขายสินค้ากลุ่มที่อยู่อาศัยประมาณ 45% นอกจากนี้บริษัทยังได้ขยายไลน์สินค้าไปในกลุ่มสิ้นค้าไม้พื้นและสินค้าอื่นๆเพิ่มเติม ซึ่งในส่วนของกลุ่มสินค้าอื่นๆ นั้นขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยไดเนื่องจากอยู่ระหว่างการเจรจารูปแบบการดำเนินงานอยู่
สำหรับในส่วนของกลุ่มสิ้นค้าไม้พื้นนั้น บริษัทได้รับเป็นตัวแทนจำหน่ายให้แก่ผู้ประกอบการผลิตไม้พื้นและวัสดุตกแต่งจากไม้ในประเทศรายหนึ่ง ซึ่งมีการเซ็นสัญญากันไปแล้ว และจากนี้ไปบริษัทจะเริ่มดำเนินการจัดจำหน่ายไม้พื้นดังกล่าวโดยใช้ช่องทางการจำหน่ายของบริษัท ทั้งในส่วนของการขายผ่านสถาปนิกจากการรับงานโครงการ และร้านค้าสาขาของบริษัท แต่จะเน้นที่การขยายผ่านสถาปนิกโครงการเป็นหลัก ซึ่งเชื่อว่าสินค้าของบริษัทจะได้รับการยอมรับเป้ฯอย่างดีเพราะได้เปรียบคู่แข่งในเรื่องของแบรนด์ที่เป็นทีรู้จักกันอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตามแม้ว่าในปีนี้ตลาดที่อยู่อาศัยจะมีแนวโน้มการกลับมาขยายตัวที่ดี แต่ใน่สวนของกลุ่มออฟฟิศนั้นค่อนข้างชะลอตัวลงเนื่องจากการขยายการลงทุนด้านอุตสาหกรรมที่ติดปัญหาโครงการนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด ซึ่งส่งผลต่อความเชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ นอกจากนี้ยังมีปัญหาด้านการเมืองที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนซึ่งจะเข้ามาลงตั้งสำนักงาน และขยายออฟฟิศใหม่ด้วย ทำให้ยอดสินค้าเฟอร์นิเจอร์กลุ่มออฟฟิศในปีนี้ไม่น่าจะขยายตัวมากนัก
ทั้งนี้ เฟอร์นิเจอร์กลุ่มออฟฟิศสำนักงานในปีนี้ บริษัทคาดว่าจะเป็นการขยายตัวในส่วนของภาคราชการและรัฐวิสาหกิจมากกว่าเอกชน เนื่องจากจะมีการลงทุนผ่าโครงการไทยเข้มแข็งจำนวนมาก โดยสำนักงานออฟฟิศขาดใหญ่ที่จะเข้ามาในตลาดปีนี้ คือสำนักงานใหม่ของ ปทต. และโรงพยาลบาลศิริราช รวมถึงศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ซึ่งจะมีการเข้าใช้พื้นที่เพิ่มขึ้น ส่วนในภาคเอกชนนั้นยังคงเป็นกลุ่มที่อยู่อาศัยประเภทคอนโดมิเนียมเป็นหลัก
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|