|
ตลาดรถยอดขายตก11% ปิกอัพเหี่ยวเก๋งแล็กแรง
ASTVผู้จัดการรายวัน(18 มกราคม 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
ปิดปี 2552 ตลาดรถยนต์ไทยทำยอดขายได้ 548,424 คัน ตก 11% เมื่อเทียบกับปี 2551 ด้านปิกอัพสาหัสตัวเลขติดลบ 20.5% ส่วนเก๋งทรงตัว โดยเฉพาะกลุ่มซับคอมแพกต์ ยังขายดีต่อเนื่อง ด้าน มาสด้าคาดปีนี้แข่งขันดุเดือด แต่ยังมั่นใจมาสด้า 2 จะดันยอดขายรวมถึง 35,000 คัน โต 160%
นายจอห์น เรย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ปะเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปี 2552 ที่ผ่านมาตลาดรถยนต์รวมในประเทศทำยอดขายได้ 548,424 คัน ลดลง 11% เมื่อเทียบกับปี 2551 โดยปิกอัพ 1 ตันหดตัว 20.5% ขณะที่เซกเมนรถยนต์นั่งเติบโตเล็กน้อยด้วยยอดขาย 226,622 คัน ซึ่งส่วนหนึ่งได้อานิสงค์จากรถในกลุ่มบี-เซกเมนท์ที่ทำยอดขาย ถึง 120,000 คัน โต 17% และมีส่วนแบ่งในตลาดรวมถึง 22%
"ปี 2552 ช่วงครึ่งปีแรกตลาดรถยนต์มียอดขายลดลงไปกว่า 30% เมื่อเทียบกับปี 2551 แต่หลังจากเดือนกรกฎาคมมีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มมีความเชื่อมั่นพร้อมกับการผ่อนคลายสินเชื่อของสถาบันการเงิน"
ในส่วนของมาสด้าสามารถทำยอดขายสูงสุดเป็นสถิติในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่บริษัทแม่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ด้วยจำนวน 13,241 คัน โต18 % เมื่อเทียบกับปี 2551 (11,178 คัน) แบ่งเป็น บีที-50 จำนวน 5,574 คัน มาสด้า3 จำนวน 4,800 คัน MX-5 จำนวน 47 คัน และครอสโอเวอร์ CX-9 จำนวน26 คัน ขณะเดียวกันมาสด้า 2 ที่เพิ่งเปิดตัวเดือนพฤศจิกายน 2552 สามารถส่งมอบให้ลูกค้าไปแล้ว 2,794 คัน พร้อมกับยอดจองที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งส่งมอบให้กับลูกค้าอีกกว่า 2,500 คัน
นายเรย์กล่าวว่า ปีนี้ยอดขายของทั้งอุตสาหกรรมรถยนต์น่าจะอยู่ที่ประมาณ 610,000-650,000 คัน ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยในประเทศ ทั้งการเมือง รวมถึงการปรับภาษีมูลค่าเพิ่ม(VAT)ด้วย ขณะที่มาสด้าเองตั้งเป้าหมายการขายไว้ 35,000 คัน หรือเติบโต 164% เมื่อเทียบกับปี 2552 โดยแบ่งเป็นยอดขาย มาสด้า 2 จำนวน 24,000 คัน มาสด้า 3 จำนวน 4,500 คัน และปิกอัพบีที-50 อีก 6,500 คัน ทั้งนี้จะส่งผลให้ส่วนแบ่งการตลาดของเราเพิ่มขึ้นจาก 2.4% เป็น 5.7% ในปีนี้
อย่างไรก็ตามแม้จะมีการเปิดตัวรถในโครงการอีโคคาร์ แต่ก็คงไม่ส่งผลกระทบกับรถกลุ่มบี-เซกมนต์ มากนัก เนื่องจากลูกค้าเป็นคนละกลุ่มกัน หรืออีโคคาร์จะเป็นเพียงกลุ่มย่อยในเซกเมนต์นี้เท่านั้น ทั้งนี้เราเชื่อว่าตลาดบี-เซกเมนต์จะเติบต่อเนื่อง โดยปีนี้จะทำยอดขายรวม 1.5 แสนคัน เพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับปี 2552 (1.2 แสนคัน) และมีส่วนแบ่งการตลาดรวมถึง 22%
"เรายังคงเดินหน้าเต็มที่ พร้อมกับเตรียมจัดกิจกรรมการตลาดต่างๆ ไว้มากมายตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในงานมอเตอร์โชว์ เราเตรียมเสริมไลน์ มาสด้า 2 รุ่นตัวถัง ซีดาน ที่คาดว่าจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภค โดยสัดส่วนการขายมาสด้า 2 ตัวถังซีดานกับแฮทซ์แบกจะอยู่ที่ 55/45 นอกจากนี้เรายังเตรียมขยายศูนย์บริการเพิ่มเป็น 130 แห่งทั่วประเทศ จากที่มีอยู่เดิม 106 แห่ง เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้ามาสด้าที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย"
สำหรับเป้าหมายในอีก 2-3 ปีข้างหน้า บริษัทอยากได้โปรดักต์ใหม่ในการทำตลาดเพิ่มอย่างน้อยหนึ่งรุ่น โดยอาจจะเป็นเซกเมนท์รถยนต์นั่งขนาดกลาง (คัมรี่,แอคคอร์ด,เทียน่า) หรือ คอมแพกต์เอสยูวี (ซีอาร์วี,เอสแคป,แคปติวา) ซึ่งถ้าทำตลาดจริงคงต้องขึ้นไลน์ผลิตในประเทศเพื่อทำราคาให้แข่งขันได้ แต่กระนั้นก็ต้องเจรจากับบริษัทแม่ประเทศญี่ปุ่น และศึกษาอย่างรอบคอบก่อน ส่วนยอดขายที่มาสด้าเติบโตขึ้นเรื่อยๆ บริษัทหวังว่าในตลาดรวมน่าจะขึ้นไปถึงอันดับ 4 ขณะที่ตลาดรถยนต์นั่งจะรักษาอันดับ 3 เอาไว้ให้ได้
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|