เทสโก้โลตัส กระตุ้นกำลังซื้ออีกครั้ง เปิดทางออล อินโนเวทีฟ ยึดพื้นที่รับสิทธิ์บริหารสื่อโฆษณาใหม่อีวิชั่น
ชูเทคโนโลยีจากกลุ่มบริษัทวาววิชั่นในสิงคโปร์ และราคาที่ถูกแต่ได้ผลคุ้มค่า ประเดิม
23 สาขาในกรุงเทพฯและปริมณฑลก่อนลุยทั่วประเทศ พร้อมเล็งอีก 2 รายค้าปลีก
เทสโก้โลตัสปรับกลยุทธ์การกระตุ้นยอดขายครั้งใหม่ด้วยการใช้การโฆษณา ณ จุดขาย
เข้ามาใช้ แต่คราวนี้ไม่ได้ทำเอง เพราะได้มอบสิทธิ์หรือสัมปทานพื้นที่ให้กับบริษัท
ออล อินโนเวทีฟ จำกัด ให้เป็นผู้เข้ามารับผิดชอบในการติดตั้งสื่อโฆษณารูปแบบใหม่ที่ชื่อว่า
อีวิชั่น โดยเริ่มทดลองใช้เฉพาะเทสโก้โลตัสสาขาในกรุงเทพฯและปริมณฑล ประมาณ 23
สาขาก่อนและรวมทั้งเทสโก้โลตัสซูเปอร์มาร์เกตสาขาเดียวที่งามวงศ์วานด้วย เนื่องจากเทสโก้โลตัสเป็นผู้นำในตลาดไฮเปอร์มาร์เกตมีสาขามากกว่า
40 แห่งทั่วประเทศ และมีลูกค้าเดินเข้าสโตร์เฉลี่ย 15 ล้านคนต่อเดือน ซึ่งออลฯจะเป็นรายแรกและรายเดียวที่ได้รับสิทธิ์ตรงนี้
ในช่วงแรกนี้ทางออลฯต้องลงทุนไปไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาทกับการสร้างระบบเครือข่ายฮาร์ดแวร์
เช่น โทรทัศน์ จำนวนมากกว่า 600 จอเพื่อติดตั้งในสโตร์ของเทสโก้โลตัสที่ได้รับสิทธิ์
ซึ่งขณะนี้เริ่มทดลองใช้แล้วในบางสาขา คาดว่าจะติดตั้งเสร็จทั้งโครงการภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้
และจะมีการเปิดเผยรายละเอียดระหว่างอีวิชั่นกับเทสโก้โลตัสในวันที่ 29 ตุลาคมศกนี้
นายกฤชวรรณ กองจันทร์ ประธานกรรมการ บริหาร บริษัท ออล อินโนเวทีฟ จำกัด เปิดเผยว่า
บริษัทดังกล่าวจัดตั้งขึ้นมาเมื่อเดือนกรกฎาคมปีนี้เอง เพื่อต้องการรุกตลาดด้วยสื่อ
ณ จุดขายแบบใหม่ในเมืองไทย โดยเทคโนโลยีมาจากสิงคโปร์ จำกัด เป็นการร่วมทุนระหว่างกลุ่มคนไทย
ถือหุ้นประมาณ 70% กับบริษัท วาว วิชั่น จากประเทศสิงคโปร์ ถือหุ้น 30% จากทุนจดทะเบียน
25 ล้านบาท ซึ่งวาววิชั่นเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ระบบดังกล่าวและเป็นบริษัทในเครือของบริษัท
เอสเอ็มซัมมิท จำกัด มหาชน ที่จดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ สิงคโปร์ ทำธุรกิจสื่อโฆษณาแบบไร้สาย
โดยตลาดในประเทศไทยถือเป็นตลาดต่างประเทศแห่งแรกที่ขยายตัวออกมาจากสิงคโปร์ และจะเป็นเป้าหมายสำคัญแห่งหนึ่ง
เนื่องจากศักยภาพและการเติบโตทางธุรกิจที่นำหน้าประเทศ อื่นในภูมิภาคนี้มากที่สุด
และเป็นประเทศที่มีนโยบายชัดเจนเรื่องการกระตุ้นกำลังซื้อผู้บริโภคในประเทศที่ประสบความสำเร็จอย่างดี
ทำให้ความต้องการบริโภคสื่อในรูปแบบต่างๆ เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ซึ่งบริษัทได้ทำวิจัยตลาดประกอบกับการเก็บข้อมูลของมูลค่าธุรกิจโฆษณาในไทยและธุรกิจซูเปอร์สโตร์
ปรากฏผลเป็นที่น่าพอใจ จึงทำให้ บริษัทสนใจขยายการลงทุนธุรกิจโฆษณาระบบมัลติมีเดียแบบไร้สายในไทย
ด้วย อีวิชั่น
จากการวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคของ POPAI หรือ Point-of-Purchase Advertising International
พบว่า สื่อโฆษณา ณ จุดขายมีความใกล้ ชิดกับผู้บริโภคมากที่สุดและมีอิทธิพลต่อการตัด
สินใจซื้อในวินาทีสุดท้ายมากกว่า 73% ซึ่งถ้าเป็นโฆษณาภาพนิ่ง สามารถเพิ่มยอดขายได้
39% แต่ถ้าเป็นภาพเคลื่อนไหว สามารถเพิ่มยอดขายได้ 83% จึงทำให้สื่อ ณ จุดขาย หรือ
P.O.P. เริ่มมีความสำคัญและมีบทบาทมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีกที่มีการแข่งขันรุนแรงในไทย
อีวิชั่น เป็นนวัตกรรมของสื่อโฆษณา ณ จุดขายของสินค้าที่สามารถโฆษณาได้ทันทีพร้อมกันทุกจุดโดยใช้เทคโนโลยีไร้สายมีภาพเคลื่อนไหวบน
จอที่มีความคมชัดสูง และการสั่งงานแบบเรียลไทม์ ทำให้อีวิชั่นเป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในปัจจุบัน
ที่สามารถกระตุ้นและเน้นสิ่งเร้าในการจูงใจเพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าต่างๆมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม เทสโก้โลตัสนี้ถือเป็นลูกค้าราย แรกในประเทศไทยหลังจากที่เพิ่งเริ่มธุรกิจ
โดยตั้งเป้าหมายที่จะมีลูกค้าประเภทค้าปลีกอีกไม่ต่ำกว่า 2 รายภายในสิ้นปีหน้า
แต่จะเป็นคนละ เซ็กเมนต์กับเทสโก้โลตัส ซึ่งออลฯมีเป้าหมายที่จะรุกทางด้านกลุ่มค้าปลีกเป็นหลักอยู่แล้ว
นอก จากนั้นยังสามารถที่จะเจาะเข้าหากลุ่มเป้าหมายที่เป็นโรงแรม ภัตตาคาร ผับ บาร์ได้ด้วย
ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับตัวสินค้าด้วย
ทั้งนี้ สื่ออีวิชั่นที่จะทำกับเทสโก้โลตัสจะมี 2 แบบคือ P.O.P. จะเป็นจอเฮฟวี่ดิวตี้
แอลซีดี ขนาด 15 นิ้ว ติดตั้งในตำแหน่งหัวชั้นวางของสินค้า ในหมวดต่างๆ มีจำนวน
20 จอต่อสาขารวม 460 จอ และแบบพลาสมาดิสเพลย์ เป็นจอพลาสมา ขนาด 42 นิ้ว ติดตั้งบริเวณช่องทางเดินและบริเวณ
ที่มีผู้คนเดินผ่านหนาแน่น มีจำนวน 9 จอต่อสาขา รวม 207 จอ รวมทั้งสองแบบมี 667
จอ โดยทำสัญญากันระยะยาว
สำหรับการคิดค่าบริการของสื่ออีวิชั่นนี้ ถือ ว่ามีความคุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับสื่อชนิดอื่นด้วยกัน
เนื่องจากระบบการโฆษณาไม่จำกัดเพียงจอใดจอหนึ่ง ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างทั่วถึง
มีความถี่ในการโฆษณาต่อเนื่องสูงสุดนาน 18 ชั่วโมง รวม 200 ครั้งต่อวัน โดยมีราคาเริ่มต้นที่
2.50 บาทสำหรับแบบP.O.P. DISPLAY และราคา 4.30 บาทสำหรับ PLASMA DISPLAY ต่อการโฆษณา
1 ครั้ง สปอตโฆษณาจะมีความยาวเฉลี่ย 15-30 วินาที หรือคิดจากฐานของเทสโก้โลตัสที่บริษัทฯได้รับสิทธิ์ในขณะนี้
23 สาขา คิดจาก 500 บาทต่อ วันต่อ1 กลุ่มสินค้าต่อ 1 สาขา ซึ่งถ้าเป็น 23 สาขา
ก็ประมาณ 10,000 กว่าบาทต่อวัน หรือถ้าเป็นเดือนก็จะตกประมาณ 300,000 บาทต่อ 23
สาขา
นายกฤชวรรณ กล่าวด้วยว่า เนื่องจากสื่อประเภทนี้ยังใหม่ในไทย ดังนั้นบริษัทจึงต้องใช้ทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญและสายสัมพันธ์ที่ดีกับบรรดาเอเยนซี่
เพราะบริษัทฯจะขายสื่อนี้ให้กับลูกค้าโดยผ่านทางเอเยนซี่เป็นหลัก ซึ่งทีมงานที่รับผิดชอบจะมีหลากหลายและมีประสบการณ์ทางด้านการขายสื่อมาอยู่แล้วและบางคนก็เป็นหุ้นส่วนบริษัทด้วยรวมทั้งอยู่ในแวดวงที่เกี่ยวข้องเช่น
นายสุวัฒน์ เรียวโชติสกุล เป็นประธาน นายอุดม พัฒนานิธิ เคยทำงานที่แบรนด์คอนเนคชั่น,
เจดับบลิวที เป็นต้น เป็นผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด นายวัชรากร เป็นผู้อำนวยการฝ่ายบริการลูกค้า
ในสิงคโปร์เองทางบริษัทวาวก็นำเอาเทคโนโลยีโฆษณา ณ จุดขาย แบบเรียลไทม์นี้ไปใช้กับ
แฟร์ไพร้ซซูเปอร์มาร์เกต ที่สิงคโปร์ซึ่งเป็นรายใหญ่ มีสาขามากกว่า 67 แห่งและเมโทรดีพาร์ตเมนต์
สโตร์อีก 6 สาขา โดยเป็นการร่วมมือตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ชื่อว่า แฟร์วิชั่น เข้ามาดำเนินการ
นอกจากนั้นวาววิชั่น ยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจออกไปในต่างประเทศมากยิ่งขึ้นหลังจากที่ได้
ขยายมายังตลาดไทยแล้วเช่น ในประเทศมาเลเซีย อยู่ระหว่างการเจรจาซึ่งอาจจะตั้งบริษัทร่วมทุนหรือไม่ก็ได้
โดยมีไจแอนท์ซูเปอร์มาร์เกต มีสาขา กว่า 45 แห่งในมาเลเซียให้ความสนใจระบบสื่อโฆษณานี้
นอกนั้นก็เป็นการมองตลาดที่ไต้หวัน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ซึ่งจะเป็นการซื้อระบบ
ไปใช้