ทีแอลเอ็มชงแผนผู้ถือหุ้น ปัดฝุ่นบัตร-จ้างเอเจนซี่-ชูดิจิตอล


ASTV ผู้จัดการรายวัน(4 มกราคม 2553)



กลับสู่หน้าหลัก

ทีแอลเอ็ม ชง 3 ประเด็นเสนอผู้ถือหุ้น ชูกลยุทธ์ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง ปัดฝุ่นบัตรไดมอนพร็อพเพอร์ตี้ และจัดจ้างเอเจนซี่มือทองช่วยจัดจำหน่าย ตั้งเป้าปีขาลขอโต 5-10% ส่วนปีที่ผ่านมายอมรับยอดวูบ50% ระบุปีนี้มีหวัง เพราะเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว กำลังซื้อเริ่มตื่น แต่ปัจจัยลบยังคงเป็นเรื่องการเมืองภายในประเทศไทย

นางปิยาพัชร สุบรรณ ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยจัดการลองสเตย์ จำกัด หรือ ทีแอลเอ็ม ผู้ให้บริการบัตรสมาชิกไทยลองสเตย์ สำหรับผู้สูงอายุชาวต่างชาติ เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้ถือหุ้นในวันนี้( 5ม.ค.53) เตรียมนำเสนอแผนการตลาดของทีแอลเอ็ม ประจำปี 2553 โดยตลอดปีออก 2-3
แคมเปญ เพื่อกระตุ้นยอดสมาชิก นอกจากนั้นจะเน้นทำงานใกล้ชิดกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)

ทั้งนี้ประเทศไทยมีศักยภาพในการต้อนรับนักท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงอายุโดยเฉพาะกลุ่มพำนักระยะยาว(ลองสเตย์) แต่ ทีแอลเอ็ม ไม่สามารถดำเนินการได้ตามลำพัง แต่จะต้องประสานงานและขอความช่วยเหลือจาก 3 หน่วยงานหลัก ได้แก่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงมหาดไทย และ กระทรวงการท่องเที่ยว เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้

สำหรับปี 2552 จำนวนสมาชิกของ ทีแอลเอ็ม ลดลงจากปี 2551 เกือบ 50% แต่ผลประกอบการก็ยังพอมีกำไรอยู่บ้างเล็กน้อย โดยสมาชิกกว่า 60-70% เป็นสมาชิกเก่าที่ต่ออายุบัตร เพราะ บัตร ทีแอลเอ็มมีอายุ 1 ปี ซึ่งมี 3 ประเภท ได้แก่ บัตรเงิน บัตรทอง และบัตรแพลทินัม

แผนการตลาดปี 2553 ที่จะเสนอต่อผู้ถือหุ้นในการประชุมครั้งนี้ มี 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ การออกสินค้าใหม่ควบคู่ไปกับการเปิดตัวบัตรไดมอนด์พร็อพเพอร์ตี้ การจ้างบริษัทเอเจนซี่เพื่อจัดจำหน่ายบัตรในต่างประเทศ และ การใช้กลยุทธ์ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง

โดยในส่วนของบัตรไดมอนด์พร็อพเพอร์ตี้ ถือเป็นการนำโครงการเดิมที่มีอยู่แล้วมาปัดฝุ่น นำเสนอขายสมาชิกให้แก่ผู้สนใจ เพราะเห็นว่าเศรษฐกิจฟื้นตัว กำลังซื้อก็เริ่มกลับมาแล้ว ซึ่งหากตัดสินใจทำโครงการนี้คงต้องของบประมาณจาก ททท. เพื่อว่าจ้างเอเจนซี่ที่ทำตลาดเก่งจะมาเป็นตัวแทนขาย โดยสมาชิกผู้ถือบัตรนี้ จะได้รับสิทธิ์ส่วนลดในการซื้อบ้าน และ รถยนต์ ซึ่งหากที่ประชุมฯเห็นชอบ ก็คงต้องไปเจรจากับคู่ค้าเดิมที่เคยเจรจาไว้ทั้งกลุ่มผู้ประกอบการในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และ บริษัทรถยนต์

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะต้องดำเนินการแน่นอน คือกลยุทธ์ดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง เพราะเทรนด์ของตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เน้นหาข้อมูลผ่านเว็บไซต์ในการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าเป้าหมายของทีแอลเอ็ม ซึ่งส่วนใหญ่ เป็นคนทำงานที่เกษียณอายุ ดังนั้นจึงถือเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและมีหน้าที่การงานดี รู้จักประเทศไทยดีอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องทุ่มงบไปกับการโฆษณาอื่นๆ แต่ ใช้ช่องทางเว็บไซต์ในการนำข้อมูลถึงตัวผู้บริโภคให้มากที่สุดและเร็วที่สุดก็เพียงพอ ซึ่งวิธีนี้จะประหยัดงบประมาณ และยังสอดคล้องกับนโยบายของ นายสุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการททท.คนใหม่ด้วย

“จากการทำตลาดของทีแอลเอ็มมา 4-5 ปี ทำให้รู้จักพฤติกรรมของลูกค้ากลุ่มผู้สูงอายุเป็นอย่างดี ว่า เขามีโจทย์ของความต้องการอยู่แล้ว จึงไม่มีประโยชน์ที่จะใช้การโฆษณาประชาสัมพันธ์นำ เพราะไลฟ์สไตล์ของผู้สูงอายุจะเรียบง่ายไม่หวือหวาเหมือนกลุ่มสมาชิกของอีลิทการ์ดซึ่งเป็นนักธุรกิจ เพียงแต่เราต้องเน้นเรื่องการบริการ

อำนวยความสะดวกและให้บริการที่อบอุ่นก็เพียงพอ ซึ่งแผนงานในปีนี้ ทีแอลเอ็มจะนำข้อมูลหาการให้บริการเข้าสู่สังคมออนไลน์ให้มากที่สุด โดยนำเสนอโปรดักส์ผ่านสังคมออนไลน์”

อย่างไรก็ตาม ในปี 2553 ทีแอลเอ็มตั้เงป้าเติบโต 5-10% ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศไทย และ กำลังซื้อในตลาด โดยสมาชิกทีแอลเอ็ม 70% เป็นชาวสแกนดิเนเวีย 20% เป็นชาวญี่ปุ่น และ ที่เหลืออีก 10% มาจากหลากหลายประเทศ


กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.