|
'รสาฯ'เพิ่มพอร์ตทาวน์เฮาส์ บทพิสูจน์ความสามารถปี53
ASTV ผู้จัดการรายวัน(11 มกราคม 2553)
กลับสู่หน้าหลัก
ASTVผู้จัดการรายวัน-"รสาฯ" ขอทดสอบความสามารถเปิดโครงการทาวน์เฮาส์ระดับราคา 3-5 ล้านบาท ย่านเกษตรนวมินท์ รามอินทรา รอเพียงเจรจาซื้อที่ดิน เล็งจีบสถาบันการเงินร่วมทุนพัฒนาโครงการอสังหาฯหลังธปท.ผ่อนเกณฑ์บริหารNPA
นายเลิศมงคล วราเวณุชย์ กรรมการ บริษัท รสา พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ RASA กล่าวถึงการขยายโครงการอสังหาริมทรัพย์ในปี 53 ว่า จะมีทั้งโครงการแนวราบและแนวสูง แต่จะให้ความสำคัญโครงการแนวราบเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเภททาวน์เฮาส์ที่ทางบริษัทไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งจะช่วยเพิ่มพอร์ตโครงการแนวราบให้มากขึ้นด้วย ที่มีสัดส่วน 25% และอีก 75% เป็นโครงการคอนโดมิเนียม ขณะที่โครงการประเภทคอนโดฯจะยังให้ความสำคัญ แต่อาจจะเป็นคอนโดฯขนาด 8 ชั้น เพราะปัจจุบันคอนโดฯส่วนใหญ่จะเป็นโครงการสูง เช่น 32 ชั้น หรือ 38 ชั้น
" ตอนนี้เรากำลังหาที่ดินและเจรจาในการซื้อที่ดินมาพัฒนาโดรงการแนวราบ โดยเฉพาะทาวน์เฮาส์ที่ระดับราคา 3-5 ล้านบาทที่เราไม่เคยทำ เพราะจะเป็นการเพิ่มช่องทางสร้างรายได้ให้เรานอกเหนือบ้านเดี่ยว แต่ทั้งนี้ก็คงขึ้นอยู่กับลักษณะของที่ดิน เราคงเน้นทำเลที่เรามีโครงการอยู่แล้ว อย่างเช่น ย่านเกษตรนวมินท์ รามอินทรา ซึ่งหากเจรจาได้ก็คงพัฒนาโครงการมูลค่าประมาณ 300 ล้านบาท "นายเลิศมงคลกล่าว
สำหรับความคืบหน้าของการร่วมทุนกับเจ้าของที่ดินแห่งหนึ่งเพื่อพัฒนาโครงการนั้น ได้ยุติไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากไม่สามารถตกลงเงื่อนไขได้ โดยเฉพาะราคา แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อแผนการพัฒนาโครงการในปี 53 เพราะบริษัทยังมีการเจรจากับเจ้าของที่ดินแห่งอื่นอีก 1-2 รายทั้งเจ้าของที่ดินโดยตรงและธนาคารพาณิชย์ ประกอบกับการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ผ่อนผันให้ธนาคารพาณิชย์ สามารถนำที่ดินที่ยึดมาร่วมทุนกับผู้ประกอบการ ทำให้มีช่องทางที่มากขึ้น อีกทั้งการซื้อที่ดินจากธนาคารพาณิชย์ยังเป็นการลดความเสี่ยงจากการลงทุนด้วย
" บริษัทไม่ได้รีบเร่งที่จะสรุปการเจรจา เพราะตามแผนจะพัฒนาโครงการในช่วงไตรมาส 3/53-ไตรมาส 4/53 เพื่อไปรับรู้รายได้ในปี 54 เพราะในปี 53 บริษัทมียอดขายรอโอน(backlog) ตุนไว้ที่จะทยอยรับรู้ฯภายปีนี้ประมาณ 1.4 พันล้านบาท แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 1.3 พันล้านบาท และที่เหลือ 100 ล้านบาทเป็นโครงการบ้านเดี่ยว นอกจากนี้ อาจมีการรับรู้รายได้บางส่วนจากโครงการใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 53 จำนวน 1-2 โครงการ มูลค่าโครงการรวมประมาณ 1 พันล้านบาท"
ดังนั้น การที่บริษัทวางเป้าหมายรายได้ในปี 53 ที่ 1,080 ล้านบาท หรือเติบโต 2 เท่าจากปี 52 ที่คาดรายได้จะอยู่ที่ 540 ล้านบาทไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก และปีนี้ยังถือเป็นปีที่มีรายได้สูงสุดตั้งแต่บริษัทเปิดทำการในปี 38 เป็นต้นมา
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|