|
คอนเสิร์ตบูม! ดัน'ไทยทิกเก็ต' ผุดสาขาเพิ่ม
Positioning Magazine(20 ธันวาคม 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
ปีหน้า กำลังซื้อฟื้นตัว คอนเสิร์ตอีเว้นท์บูมรับสถานการณ์ คาดเติบโตได้อีก 15% เท่าปีนี้ ที่คาดว่าตลาดคอนเสิร์ตอีเว้นท์แตะ 920 ล้านบาท “ไทยทิกเก็ต” เดินหน้าลุยขยายช่องทางขายผ่านไปรษณีย์ให้ครบ1,000 จุด จาก 132 จุดในปัจจุบัน พร้อมโฟกัสต่อยอดธุรกิจจากสื่อออนไลน์ในมือ มั่นใจ ปีหน้าเติบโตอีก 10%
นายโชคชัย เอี่ยมฤทธิ์ไกร ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดคอนเสิร์ตอีเว้นท์ ในปีหน้าเชื่อว่าจะเติบโตได้ดีอย่างเช่นในปีนี้ ที่มีอตราการเติบโตสูงถึง 15% คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 920 ล้านบาท จากปี 2551 อยู่ที่ 800 ล้านบาท ส่วนสำคัญมาจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจดีขึ้น กำลังซื้อกำลังกลับมา คอนเสิร์ตทั้งไทยและเทศเตรียมที่จะเกิดขึ้นอีกหลายงาน เชื่อว่าปีหน้าจะเป็นปีที่คึกคักมาก
ในส่วนของไทยทิกเก็ต ปีหน้ามีแผนขยายช่องทางการจำหน่ายตั๋วมากยิ่งขึ้น จากปัจจุบันมีอยู่ 132 จุด หลังจากที่ได้ร่วมกับทางไปรษณีย์ไทยมาระยะหนึ่ง ปีหน้าจะโฟกัสขยายช่องทางขายตั๋วไปกับไปรษณีย์ไทยให้ครบ 1,000 จุด ทั้งนี้เพื่อรองรับกำลังซื้อในส่วนรากหญ้า กับการจำหน่ายตั๋วรถโดยสาร รวมไปถึงการขยายไลน์ตั๋วไปยังกลุ่มท่องเที่ยวต่างๆ ทั้งโรงแรม และสายการบิน
ที่สำคัญในปีหน้าจะโฟกัสการต่อยอดธุรกิจจาก 3 เว็บไซด์ที่ดูแลอยู่ คือ ไทยทิกเก็ตเมเจอร์, เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ และ บีอีซี ซึ่งจะเป็นเรือธงในการทำธุรกิจปีหน้าของไทยทิกเก็ต กับการบริหารธุรกิจในเชิงดึงลูกค้ามาลงโฆษณาหรือใช้บริการแบบต่อยอดทั้ง 3 เว็บ เชื่อว่าจะส่งผลให้รายได้ขยับสูงขึ้น
นอกจากนี้ในส่วนของการพัฒนาซอฟท์แวร์การจำหน่ายตั๋ว ก็ยังคงเดินหน้าทำตลาดต่อเนื่อง ส่วนสำคัญมาจากการที่บริษัทได้รับ BOI ส่งเสริมพัฒนาซอฟท์แวร์สู่เวอร์ชั่น 2 เชื่อว่าทำให้ลูกค้าให้สนใจและซื้อลิขสิทธ์มากยิ่งขึ้น มั่นใจว่า ปีหน้าบริษัทจะมีรายได้เติบโตขึ้นอีกอย่างน้อย 10% จากในปีนี้ ที่มีอัตราการเติบโตที่ 10% เช่นกัน โดยมาจาก การจำหน่ายตั๋วคอนเสิร์ตและอีเว้นท์ 70% จำหน่ายตั๋วรถประจำทาง 10% และะธุรกิจออนไลน์(รวมการจำหน่ายซอฟท์แวร์)อีก 10%
นายโชคชัย กล่าวด้วยว่า ไทยทิกเก็ต มีส่วนแบ่งในตลาดการจำหน่ายตั๋วคอนเสิร์ตอีเว้นท์ ราว 90% ลดลงจาก1 ปีก่อน จากที่มีแชร์ถึง 95% ส่วนสำคัญมาจากมีผู้เล่นเข้ามาทำธุรกิจในตลาดนี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งนับถอยหลังไปตั้งแต่ปี 2,000-2,006 มูลค่าตลาดสามารถทำได้ถึง 1,000 ล้านบาท แต่ตกลง จากปัญหาการเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งในปีหน้ามองว่าการที่ตลาดจะกลับไปที่ 1,000 ล้านบาท มีความเป็นไปได้สูงมาก
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|