|
ปรับประมาณการกำไร CPF สูงถึง 10,445 ล.
ASTV ผู้จัดการรายวัน(16 ธันวาคม 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ปรับประมาณการผลการดำเนินงานบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือCPF คาดปีนี้จะมีผลกำไร 10,445 ล้านบาทหรือ 1.40 บาทต่อหุ้น ระบุปี 53 CPF มีศักยภาพทำกำไรโดดเด่นต่อเนื่องเพิ่มจากปี 52 โดยจะสามารถทำกำไรได้ที่ 11,059 ล้านบาท จากกลยุทธ์ระยะยาวที่ CPF หันมารุกธุรกิจเพิ่มมูลค่ามากขึ้น อย่างธุรกิจอาหารภายใต้แบรนด์ซีพีที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดในและต่างประเทศ ประกอบกับธุรกิจไก่ย่างห้าดาวที่ประสบความสำเร็จดียิ่ง เตรียมขยายไลน์ธุรกิจข้าวมันไก่และบะหมี่เป็ดย่างเสริมแกร่ง
จากข้อมูลของ IMF เคจีไอฯ คาดระดับราคาสุกร ไก่เนื้อ และกุ้งจะปรับตัวสูงขึ้นจากระดับเฉลี่ยของปีนี้ ทำให้ธุรกิจฟาร์มของ CPF น่าจะยังคงมีการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่องและไม่กังวลในเรื่องของราคาวัตถุดิบนัก เนื่องจาก CPF ซื้อล่วงหน้าและสต๊อกวัตถุดิบเหล่านี้ไว้บ้างแล้วจนถึงประมาณไตรมาสที่ 1 ปี 53 และในปลายไตรมาส 2 ก็จะเข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยว คาดว่า CPF จะต้องใช้วัตถุดิบในราคาปัจจุบันไม่กี่เดือนในปี 53
เคจีไอฯ มองว่า ปี 53 น่าจะเป็นปีที่ดีสำหรับอุตสาหกรรมกุ้งไทย จากผลการเจรจาของเรื่อง Anti-dumping กับสหรัฐอเมริกาน่าจะจบลงด้วยดีต่อประเทศไทย จึงแนะนำให้ " ซื้อCPF " จากศักยภาพในการทำกำไรได้โดดเด่นทั้งปีนี้และปีหน้า ที่ราคาเป้าหมาย 12.40 บาทต่อหุ้น ขณะวานนี้ราคาหุ้นวิ่งบวกเพิ่ม 60 สตางค์ และปิดที่ 11.40 บาท เปลี่ยนแปลง 5.56% มีมูลค่าซื้อขาย 1,434.72 ล้านบาท
นายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร CPF เปิดเผยว่า ปี 53 ยังคงเน้นสร้างผลกำไรมากกว่ายอดขาย โดยตั้งเป้าหมายการเติบโตในยอดขายที่ 170,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5-7% จากปี 52
" ปี 53 นั้น ยังให้ความสำคัญต่อการผลักดันตลาดสินค้าอาหารพร้อมรับประทานทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นขยายช่องทางจัดจำหน่ายในร้านค้าปลีก และพัฒนาประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างต้นทุนในการผลิตและการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพในการแข่งขันให้เพิ่มมากขึ้น โดยกำหนดเป้าหมายการบริหารการเงินการลงทุนให้ต้นทุนด้านการเงินลดลง ซึ่งได้ศึกษาหลายโครงการเพื่อสร้างผลกำไรให้เติบโตต่อเนื่อง "
สำหรับกิจการธุรกิจกุ้งครบวงจรเป็นธุรกิจหลักที่จะมีผลการดำเนินงานโดดเด่น และเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างผลสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะบริษัทไม่ได้คาดว่าอัตราการบริโภคโดยรวมในไทยจะขยายตัวอย่างก้าวกระโดด จึงไม่ได้ตั้งเป้าการเติบโตจากยอดขายภายในประเทศมากนัก ยกเว้นธุรกิจการจัดจำหน่ายในช่องทางค้าปลีกที่จะเติบโตกว่า 20% จากปีนี้
ด้านต้นทุนการผลิตโดยเฉพาะราคาวัตถุดิบไม่ได้ส่งผลกระทบต่อ CPF เพราะสถานการณ์ราคาเป็นไปตามที่บริษัทคาดการณ์ไว้จึงเก็บสต๊อกวัตถุดิบไว้ล่วงหน้า ด้วยเป้าหมายการเติบโตทั้งยอดขายและกำไรปีหน้าคาดการณ์ไว้แล้วว่าต้นทุนคงจะปรับตัวสูงขึ้นกว่าปีนี้ไม่มากนัก และราคาเฉลี่ยวัตถุดิบหลักไม่น่าจะปรับตัวสูงกว่าระดับราคาในปัจจุบันนัก และการบริหารต้นทุนทางการเงินให้ต่ำลงและบริหารเงินลงทุนให้มีประสิทธิภาพ เพื่อเสริมให้บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้น จึงค่อนข้างมั่นใจว่าปีนี้จะมีกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และจ่ายปันผลครึ่งปีหลังให้ผู้ถือหุ้นสูงกว่าครึ่งปีแรก
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|