ธปท.มั่นใจอสังหาฯเฟื่องหลังแบงก์กระตุ้นสินเชื่อ


ผู้จัดการรายวัน(6 ตุลาคม 2546)



กลับสู่หน้าหลัก

แบงก์ชาติคาดการณ์ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสำคัญจากความไม่มั่นใจรัฐบาลจะต่ออายุมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ออกไปหรือไม่ เป็นแรงผลักดันให้ ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อบ้านเร็วขึ้น บวกกับได้รับแรงหนุนจากสถาบันการเงินต่างงัดกลยุทธ์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้เป็นไปตามเป้าหมายปีนี้

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานถึงสถานการณ์ของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2546 ว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยังขยายตัวอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทั้งในแง่ของด้านอุปสงค์ และอุปทาน โดยอุปสงค์เร่งตัวอย่างต่อเนื่องรวมทั้งมีอุปทานหรือผู้ประกอบการรายใหม่ๆ ทยอยเข้าสู่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ธุรกิจมีการขยายตัวเพิ่มขึ้น

โดยดัชนีชี้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทั้งมูลค่าการซื้อขายที่ดินและพื้นที่ได้รับอนุญาตก่อสร้างขยายตัวในอัตราที่สูงถึงร้อยละ 33.8 และร้อยละ 28.6 จากระยะเดียวกันของปีก่อน ซึ่งสอดคล้องกับจำนวนที่อยู่อาศัยที่จดทะเบียนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 29.3

ขณะที่การฟื้นตัวของโครงการอาคารชุดยังคงจำกัดอยู่ในเฉพาะทำเลธุรกิจในกลางเมืองมากกว่าชานเมือง ขณะที่อาคารสำนักงานยังไม่มีอุปทานใหม่ แต่มีแนวโน้มที่จะมีการก่อสร้างเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีนี้

ด้านอัตราค่าเช่าสำนักงานอาคาร ที่ตั้งใจกลางเมืองหรือย่านธุรกิจเริ่มมีการปรับตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ

สำหรับการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารพาณิชย์ ยังคงมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง โดยธนาคารพาณิชย์ได้มีการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดย ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2546 มียอดคงค้างสินเชื่อที่อยู่อาศัย 431,766 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 13.5 ส่วนยอดคงค้างของสินเชื่อพัฒนาโครงการ มีทั้งสิ้น 253,835 ล้านบาท ลดลงจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 1.6

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้สินเชื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวลดลง เกิดจากการที่ผู้ประกอบการมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการนำรายได้จากการดำเนินงานมาใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในโครงการ โดยไม่ต้องอาศัยสินเชื่อจากสถาบันการเงิน ขณะเดียวกันผู้ประกอบการบางรายสามารถระดมทุนโดยการออกหุ้นกู้ ทำให้ความจำเป็นในการขอสินเชื่อลดลง

อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่เหลือของปีนี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยมาตรการลดค่าธรรมเนียมอสังหาริมทรัพย์ที่คาดว่าจะสิ้นสุดภายในสิ้นปีนี้ จะมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นและเร่งภาวะการซื้อขายของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปลายปี ขณะที่ราคาบ้านมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นตามการปรับตัวของราคาวัสดุก่อสร้าง โดยเฉพาะวัสดุในกลุ่มเหล็กและผลิตภัณฑ์เหล็ก และราคาที่ดินในบางพื้นที่ที่เริ่มมีการปรับราคาขึ้นเมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา

นอกจากนี้ การแข่งขันปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารพาณิชย์จะมีการแข่งขันกันอย่างรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยกลยุทธ์ที่แต่ละธนาคารนำมาใช้เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดให้กับตัวเอง ก็คือ การนำแคมเปญทางด้านอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0 มาใช้



กลับสู่หน้าหลัก

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย



(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.