|
'โตชิบา'ผนึก'กิฟฟารีน' ลุยขายตรงเพิ่มช่องทางใหม่-สื่อดิจิตอลจับวัยรุ่น
ASTV ผู้จัดการรายวัน(9 ธันวาคม 2552)
กลับสู่หน้าหลัก
โตชิบา ซบ กิฟฟารีน เพิ่มช่องทางขายตรง มัดใจฐานลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่ ตั้งเป้าปีแรกโกยยอดขาย 50 ล้านบาท เผยปีหน้าเตรียมบุกช่องทางขายใหม่ๆ เพิ่ม ล่าสุดเตรียมโฟกัสนิวมีเดีย เชื่อเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ พร้อมดันยอดขายได้ในระยะยาว ด้านกิฟฟารีนมุ่งขยายศูนย์กระจายสินค้าเพิ่ม
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เปิดเผยว่า จากนโยบายของทางโตชิบา ที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในทุกกลุ่ม ตั้งแต่ระดับแมสไปจนถึงพรีเมี่ยม และที่สำคัญคือ กลุ่มคนรุ่นใหม่ ส่งผลให้ทางบริษัทต้องมีการมองหาช่องทางใหม่ๆในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเหล่านี้ให้มากยิ่งขึ้น
ล่าสุดได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของช่องทางขายตรง จึงได้ร่วมกับทาง บริษัท กิฟฟารีน สกายไลน์ ยูนิตี้ จำกัด ในการนำผลิตภัณฑ์เกือบทุกตัวของทางโตชิบา ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือน อย่าง ตู้เย็น เครื่องซักผ้า รวมไปถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กอย่าง หม้อหุงข้าว เตาอบไมโครเวฟ ยกเว้นเครื่องฟอกอากาศที่ติดสัญญาผูกพันกับทางคู่ค้าเดิมอยู่เข้าไปจำหน่ายผ่านสมาชิกของทางกิฟฟารีน ที่มีกว่า 5.5 ล้านคน แอกทีฟอยู่ราว 3 แสนคน โดยในจำนวน 3 แสนรายนี้ มีกลุ่มคนรุ่นใหม่ อายุต่ำกว่า 30 ปี ถึง 40% เชื่อว่าจะเป็นกลุ่มเป้าหมายที่จะสนใจใช้ผลิตภัณฑ์ของทางโตชิบา โดยตั้งเป้ายอดขาย 1 ปีแรก จะมีรายได้เข้ามาประมาณ 50 ล้านบาท
“การที่ร่วมกับทางกิฟฟารีน ถือเป็นการเพิ่มศักยภาพช่องทางขายใหม่ๆ ให้กับโตชิบา โดยไทยถือเป็นประเทศแรกที่เข้ามารุกช่องทางนี้ และในต่างประเทศโมเดลนี้ยังไม่เคยถูกใช้มาก่อน ส่วนสำคัญที่เลือกกิฟฟารีน เพราะต่างมีนโยบายในการดำเนินธุรกิจไปในทิศทางเดียวกัน คือ การนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดมอบให้กับลูกค้า ดังนั้นจึงได้เกิดความร่วมมือในครั้งนี้ขึ้น”
นางกอบกาญจน์ กล่าวต่อว่า นอกจากช่องทางขายตรง ที่คาดว่าจะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่แล้ว ขณะนี้กำลังเล็งเห็นศักยภาพของช่องทางนิวมีเดีย อย่างเว็บไซด์เกี่ยวกับ โซเชียลเน็ตเวิร์ค ว่ากำลังเป็นกระแสที่คนรุ่นใหม่ เป็นช่องทางที่น่าสนใจที่จะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น
ดังนั้นในปีหน้าบริษัทจะให้ความสำคัญกับนิวมีเดีย พร้อมทั้งพัฒนาเว็บไซด์องค์กรให้เป็นเว็บไซด์คอมมูนิตี้มากขึ้น เชื่อว่าจะสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ และต่อยอดไปถึงการจำหน่ายสินค้าผ่านทางเว็บไซด์ต่อไป โดยระยะเริ่มต้น อาจจะเริ่มจำหน่ายสินค้าได้เพียงบางกลุ่มก่อน
อย่างไรก็ตามสำหรับผลประกอบการของโตชิบา สิ้นปีงบประมาณ 2552 (เม.ย.52-มี.ค.53) คาดว่าจะมีรายได้ราว 6,500 ล้านบาท เติบโต 10% ขณะที่ปีต่อไปตั้งเป้าเติบโตไว้ที่ 10% เช่นกัน ซึ่งกลุ่มสินค้าไอที ถือเป็นกลุ่มที่สร้างรายได้มากสุด โดยปีนี้มีการเติบโตในแง่ยอดขายเพิ่มขึ้น 35% ส่วนยูนิตขายได้มากขึ้นกว่า 80%
กิฟฟารีน ลุงทุนขยายศูนย์กระจายสินค้าเพิ่ม
พญ.นลินี ไพบูลย์ ประธานกรรมการ บริษัท กิฟฟารีน สกานไลน์ ยูนิตี้ จำกัด กล่าวว่า ในส่วนของกิฟฟารีน เดิมมีสินค้าจากพันธมิตรเข้ามาจำหน่ายอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ชุดเครื่องนอน, เครื่องกรองน้ำ, เครื่องฟอกอากาศ, ปตท., ดีแทค ,อิออน และเฟิร์ทช้อยส์ และล่าสุดคือเครื่องใช้ไฟฟ้าจากโตชิบา ซึ่งมองว่าเป้าหมายของกลุ่มผู้ซื้อจะเป็นสมาชิกเป็นหลัก ขณะที่การจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าครั้งนี้ ระดับราคาจะไม่แตกต่างจากช่องทางขายเดิม แต่อาจจะมีส่วนลดให้สมาชิกบ้างเล็กน้อย รวมถึงนำไปสู่คะแนนสะสมของสมาชิก คาดว่าสัดส่วนยอดขายจากเครื่องใช้ไฟฟ้าจะไม่สูงมาก เพราะมาร์จิ้นน้อย เมื่อเทียบกับสินค้าอื่นๆ
อย่างไรก็ตามช่วงไตรมาสสุดท้ายที่ผ่านมา พบว่า กลุ่มสินค้าระดับกลางถึงพรีเมียมขายดีมาก และในแง่การซื้อสินค้าต่อครั้งเพิ่มสูงขึ้นด้วย จาก 300-500 บาท เพิ่มเป็น 1,000 บาท ถือเป็นแนวโน้มที่ดีที่มองว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว จึงมั่งใจว่าสิ้นปีกิฟฟารีน จะมีรายได้ตามเป้าที่ 4,600 ล้านบาท เติบโต 10% ขณะที่ 11 เดือนที่ผ่านมาทำได้แล้ว 4,200 ล้านบาท
พญ.นลินี กล่าวต่อว่า ปีหน้าบริษัทจะมุ่งขยายการลงทุนเกี่ยวกับศูนย์กระจายสินค้า ขนาดใหญ่2 แห่ง แห่งละ 70 ล้านบาท ที่นครราชสีมา และเชียงใหม่ที่ต้องขยายเพิ่ม อีกทั้งจะขยายศูนย์กระจายสินค้าขนาดเล็กอีกราว 20 แห่ง การลงทุนที่ 3 ล้านต่อแห่ง โดยปีหน้าตั้งเป้ายอดขายที่ 5,000 ล้านบาท
กลับสู่หน้าหลัก
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 3.0 ประเทศไทย
(cc) 2008 ASTVmanager Co., Ltd. Some Rights Reserved.
|