TK เทรดวันแรกทำราคาพุ่ง 68% โบรกเกอร์แจงราคาแพงเกินพื้นฐานที่ 15 บาทแล้ว เตือนลงทุนระวังการลงทุน
ขณะที่ผู้บริหารยิ้มราคาหุ้นสูงเกินเป้า พร้อมเผยแผนงานรุกธุรกิจมอร์เตอร์ไซค์เอื้ออาทร
วานนี้หุ้น TK บริษัทฐิติกร จำกัด (มหาชน) เข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันแรก
โดยเปิดตลาดเหนือ ราคาจองที่ 20 หรือเหนือราคา 9 บาท หรือเพิ่มขึ้น 81.81% และหุ้นค่อยๆ
ปรับลดลงก่อนปิดตลาดในช่วงเช้า ก่อนปิดตลาดช่วงเช้าราคาหุ้นกลับมาปิดที่ 19.40
บาท มูลค่าการซื้อขายรวม 611.42 ล้านบาท
และราคาเปิดตลาดในช่วงบ่ายที่ 19.20 บาท ก่อนปิดตลาดที่ 18.50 บาท หรือเพิ่มขึ้น
68% มูลค่าการซื้อขาย 2,327.59 ล้านบาท ติดอันดับหุ้นที่มีมูลค่าซื้อขายและปริมาณการซื้อขายสูงสุดอันดับหนึ่งของวานนี้
นักวิเคราะห์ บล.กิมเอ็ง เปิดเผยว่า ราคาหุ้น TK ณ ปัจจุบันนี้ถือว่า เต็มมูลค่าแล้ว
โดยเราให้ราคาที่เหมาะสมปี 2546 ไว้เพียง 13.5-15 บาท ค่า P/E ประมาณ 12 เท่า กำไรสุทธิ
435 บาท กำไรต่อราคาหุ้น (EPS) 0.87 บาท แต่ราคาหุ้น TK ปัจจุบันเทรดที่ค่า P/E
สูงถึง 22 เท่า
นอกจากนี้ยังมีเรื่องที่ต้องกังวลอีกคือ กระทรวงพาณิชย์อาจมีการ แก้ไขพ.ร.บ.สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ ซึ่งหากมีการแก้ไขหรือควบคุมอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อรถจักรยานยนต์จริง จะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของบริษัท
กิมเอ็งได้ให้ราคาเป้าหมาย TK ปี47ที่ 16.5 บาท ค่า P/E ประมาณ 15 เท่า กำไรสุทธิ
554 ล้านบาท กำไรต่อราคาหุ้น(EPS) 1.11 บาท จึงแนะให้นักลงทุนควรระมัดระวังการลงทุน
เนื่องจากราคาหุ้นแพงเกินปัจจัยพื้นฐาน
นักวิเคราะห์ บล. แอสเซท พลัส แสดงความเห็นว่าด้านพื้นฐาน TK ประกอบธุรกิจให้สินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ของ
TK นั้นอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ไม่น่าสนใจเท่ากับธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าของ
MIDA เพราะมาร์จิ้นสินเชื่อรถจักรยานยนต์ไม่ โตเท่ามาร์จิ้นเครื่องใช้ไฟฟ้า แต่
TK ก็เป็นผู้นำธุรกิจปล่อยสินเชื่อรถจักรยานยนต์ และแนวโน้มธุรกิจยังเติบโตอย่าง
ต่อเนื่องเพราะอัตราดอกเบี้ยยังไม่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบนโยบายกระตุ้นการบริโภคของภาครัฐ
"ทางเราประมาณการราคาเหมาะสมปี 2546 ไว้ที่ 13 บาท ค่า P/E ประมาณ 14.4
เท่า กำไรสุทธิประมาณ 447 ล้านบาท กำไรต่อราคาหุ้น(EPS) 0.89 บาท สำหรับราคาเป้าหมายปี
2547 อยู่ที่ 14.10-15.50 บาท ค่า P/E ประมาณ 14.1 เท่า กำไรสุทธิประมาณ 548 ล้านบาท
กำไรต่อราคาหุ้น(EPS) 1.10 บาท"
บทวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ไซรัส เปิดเผยว่า TK มีจุดเด่น คือเป็นผู้นำในธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์
โดยมีส่วนแบ่งตลาดฯ อันดับ 1 บริษัทมีอัตราการเติบโตในระดับสูง โดยในปี 2545 ลูกหนี้เช่าซื้อของ
TK เพิ่มขึ้น 1,655 ลบ. หรือ 133% จากปี 2544 และในครึ่งแรกของปี 2546 เพิ่ม 1,270
ล้านบาท หรือ 47% จากสิ้นปี 2545
SYRUS ประเมินราคาตามปัจจัยพื้นฐานของ TK ในปี 2547 ที่ 18 บาท ซึ่งมี P/E 14.5
เท่า และ P/BV 4 เท่า และมีอัตราเงินปันผลตอบแทน 2.8% และ 4.2% ในปี 2546 และ 2547
ตามลำดับ ซึ่งประมาณการและราคาเป้าหมายข้างต้น อยู่บนสมมติฐานว่า TK สามารถขายลูกหนี้เช่าซื้อได้ไตรมาสละ
400 ล้านบาท หรือเพิ่มเฉลี่ยปีละ 36% ในปี 2547 และ 2548 อย่างไรก็ตามหากให้ TK
ขยายลูกหนี้ได้เฉลี่ยปีละ 15% ตามเป้าขั้นต่ำของบริษัท มูลค่าตามปัจจัยพื้นฐานจะอยู่ที่
15 บาท SYRUS แนะนำให้ซื้อที่ราคาต่ำกว่า 15 บาท และขายเมื่อราคาสูงกว่า 18 บาท
นางสาวปฐมา พรประภา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK เปิดเผยว่า
รู้สึกพอใจกับราคาหุ้นที่ทำการเปิดครั้งแรก ซึ่งสามารถยืนเหนือราคาจองได้ และมั่นใจว่าราคาในอนาคตจะต้องปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าวันเปิดเทรดได้อย่างแน่นอน
เพราะฐานะทางการเงินของบริษัทในขณะนี้ค่อนข้างแข็งแรง และมีโอกาสที่จะเปิดธุรกิจใหม่ในด้านอื่นเพิ่มอีกในอนาคตหลังจากนำบริษัทเข้าซื้อขายในตลาดแล้ว
สำหรับยอดรวมของการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ทั่วประเทศในปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 1
ล้านคัน ส่วนของ TK อยู่ที่ระดับ 15% ของการจำหน่ายแบบระบบเงินผ่อนในเเขตทพฯ สำหรับยอดการจำหน่ายรถจักรยานยนต์ระบบเงินผ่อนทั่วประเทศอยู่ที่ระดับ 65% ส่วนระบบเงินสดอยู่ที่
35% ซึ่งคาดว่าอัตราการขยายตัวของผู้บริโภคในอนาคตจะต้องเพิ่มขึ้น เนื่องจากความสามารถของการใช้จ่ายของผู้บริโภคในปัจจุบันค่อนข้างที่จะสูงขึ้น
เพราะเศรษฐกิจในประเทศยังคงเป็นตัวหนุนได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ทาง TK เตรียมพร้อมที่จะสนับสนุนโครงการมอเตอร์ไซค์อื้ออาทร ที่ทางรัฐบาลเตรียมเปิดให้ประชาชนได้เป็นเจ้าของรถจักรยานยนต์ในราคาที่เหมาะสม ขณะนี้ทาง TK อยู่ระหว่างขั้นตอนของการศึกษาข้อมูลอยู่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นโอกาสที่ดีของกลุ่มธุรกิจเดียวกันในการขายรถจักรยานยนต์เงินผ่อนให้กับผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น